ยังไม่ได้ตรง.. จึงยังเป็นเรา
โดย เมตตา  3 มี.ค. 2568
หัวข้อหมายเลข 49563

[เล่มที่ 73] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ เล่ม ๙ ภาค ๒ - หน้า 48 - 49

ตถาวาที ชิโน ยสฺมา ตถธมฺมปฺปกาสโก ตถามาคทนญฺจสฺส ตสฺมา พุทฺโธ ตถาคโต.

เพราะเหตุที่ พระชินพุทธเจ้า ตรัสแต่คำจริง ทรงประกาศธรรมที่แท้จริง และพระดำรัสของพระองค์ก็เป็นคำจริง ฉะนั้น พระพุทธเจ้า จึงชื่อว่าตถาคต.

ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า ชื่อว่า ตถาคต เพราะทรงทำจริง เป็น อย่างไร.

ตอบว่า ความจริง พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระวาจาใดๆ ก็ทรง ทำพระวาจานั้นๆ ด้วยพระกาย คือพระกายก็อนุโลมตามพระวาจา ทั้งพระวาจาก็อนุโลมตามพระกาย ด้วยเหตุนั้นนั่นแล จึงตรัสว่า

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ตถาคตกล่าวอย่างใด ก็ทำ อย่างนั้น ตถาคตทำอย่างใด ก็กล่าวอย่างนั้น ฯลฯ เพราะฉะนั้นจึงเรียกว่า ตถาคต.

อนึ่ง พระวาจาไปอย่างใด แม้พระกายก็ไปอย่างนั้น พระกายไป อย่างใด แม้พระวาจาก็ไปอย่างนั้น. ชื่อว่า ตถาคตเพราะทรงทำจริง ด้วย ประการฉะนี้.

ยถา วาจา คตา ตสฺส ตถา กาโย คโต ยโต ตถาวาทิตา สมฺพุทฺโธ สตฺถา ตสฺมา ตถาคโต.

เพราะเหตุที่พระวาจาของพระองค์ไปอย่างใด พระกายก็ไปอย่างนั้น เพราะตรัสแต่คำจริง ฉะนั้น พระศาสดาผู้ตรัสรู้จริง จึงชื่อว่าตถาคต.


[เล่มที่ 39] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 340
ข้อความบางตอนจาก เมตตสูตร

ชื่อว่า ตรง (อุชุ) เพราะทำด้วยความไม่อวดดี ชื่อว่า ตรงดี (สุหุชู) เพราะ ไม่มีมายา หรือว่า ชื่อว่า ตรง เพราะละความคดทางกายและวาจา ชื่อว่า ตรงดี เพราะละความคดทางใจ หรือชื่อว่า ตรง เพราะไม่อวดคุณที่ไม่มี จริง ชื่อว่า ตรงดี เพราะไม่อดกลั้นต่อลาภที่เกิดเพราะคุณที่ไม่มีจริง พึง ชื่อว่าเป็นผู้ตรงและตรงดี ด้วยอารัมมณูปนิชฌาน (สมถภาวนา) และลักขณูปนิชฌาน (วิปัสสนาภาวนา)


อ.วิชัย: กราบเท้าท่านอาจารย์ครับ ก็มีการแสดง คำว่า ตถาคต ครับ คือเป็นคำที่กล่าวถึงพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งก็มีข้อความอย่างนี้ครับ

ถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า ตถาคต เพราะทรงเป็นผู้มีปกติว่า ทำจริงอย่างไร?

ตอบว่า ก็กายกรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าย่อมคล้อยตามวจีกรรม ทั้งวจีกรรมก็คล้อยตามกายกรรม

เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ามีปกติตรัสอย่างใด ทรงมีปกติทำอย่างนั้น และมีปกติทำอย่างไร ก็ทรงมีปกติตรัสอย่างนั้น

กราบเท้าท่านอาจารย์ครับ ก็เป็นการกล่าวถึงความเป็นผู้ที่ตรงครับ แต่ว่าในฐานะของการที่มีโอกาสได้ศึกษาพระธรรมครับ ก็กล่าวตามที่ได้ศึกษาว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ไม่มีตัวเราที่จะไปปฏิบัตินะครับ แต่ว่า ความเป็นตัวเราก็ยังมีอยู่มากครับ อะไรที่จะเป็นเหตุให้จะตรงขึ้นตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะแสดงให้เห็นว่า พูดอย่างใด ก็ทำอย่างนั้นครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าอย่างไร เราจะได้รู้ว่า พระองค์กระทำอย่างนั้น

อ.วิชัย: ก็อย่างคำที่ได้ยินประจำ คือธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตาครับ ไม่มีตัวเรา ไม่มีอัตตาครับ

ท่านอาจารย์: แล้วพระองค์ทรงทำอะไรด้วยความเป็นอัตตาหรือเปล่า?

อ.วิชัย: ไม่มีเลยครับ

ท่านอาจารย์: ตรงไหม?

อ.วิชัย: ตรงที่สุดครับ พระองค์แสดงธรรมว่า ธรรมทั้งหลายเกิดเพราะเหตุปัจจัย แม้โดยละเอียดแต่ละหนึ่งขณะของธรรม ก็เกิดจากเหตุปัจจัยทั้งสิ้นครับ แต่ความเข้าใจของเราที่จะตรงขึ้นครับ คือดูเหมือนการศึกษาก็ไม่สงสัยอย่างที่ท่านอาจารย์ได้ถามเมื่อสักครู่นี้ครับ ตามความเข้าใจก็ตอบตามความคิดตามความเข้าใจ แต่ความลึกซึ้งของการที่จะน้อมไปสู่ตัวธรรมจริงๆ ที่จะให้เห็นว่า ตรงขึ้นๆ นะครับว่า เราพูดแล้ว แต่ว่าดูเหมือนความลึกของอกุศลก็ยังเป็นเหตุให้เรายังมีการทำด้วยความเป็นตัวเราได้บ้างอย่างนี้ครับ

ท่านอาจารย์: เพราะว่า ยังไม่ได้ตรง จึงยังเป็นเราใช่ไหม?

อ.วิชัย: เพราะยังไม่ตรง ถูกต้องครับ ยังไม่รู้จริงๆ ครับ

ท่านอาจารย์: ด้วยเหตุนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงหนทางที่จะให้รู้หรือเปล่า?

อ.วิชัย: ทรงแสดงไว้โดยละเอียดโดยประการทั้งปวงครับ

ท่านอาจารย์: ตรงนะ?

อ.วิชัย: ตรงที่สุดเลยครับ

ท่านอาจารย์: แล้วเราประพฤติตาม คำ ที่เราว่า ตรง หรือเปล่า? เราประพฤติตามนั้นตามนั้นหรือเปล่า?

อ.วิชัย: ก็ประพฤติได้บ้าง ไม่ได้บ้างครับ

ท่านอาจารย์: และ พระองค์ทรงแสดงหนทางที่จะให้ระลึกได้จนหมด ที่จะไม่ทำสิ่งที่ไม่ตรงอีกต่อไปไว้หรือเปล่า?

อ.วิชัย: ทรงแสดงไว้ตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงที่สุดครับ จนไม่มีความยึดถือว่า เป็นเรา หรืออกุศลโดยประการทั้งปวงครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ตรงตาม คำ ที่พระองค์ทรงแสดงแล้ว สามารถจะรู้ความจริงได้ไหม?

อ.วิชัย: ไม่สามารถจะรู้ได้เลยครับ ต้องตรงขึ้นครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น จะเข้าใจตรง ก็ต้องรู้หนทางที่จะประพฤติตรง

อ.วิชัย: ครับ เพราะว่า ถ้าไม่รู้หนทาง ก็ไม่รู้ว่า สิ่งที่ตรง นี้คืออะไรครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น พระองค์ตรัสว่า ไม่ต้องฟังหรือเปล่า เราจะรู้เอง?

อ.วิชัย: อันนี้เป็นไปไม่ได้เลยครับ ทรงมีพระมหากรุณาแสดงธรรมตลอด ๔๕ พรรษาครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ฟังเพื่อจะตรงใช่ไหม?

อ.วิชัย: ใช่ครับ ตรงขึ้นๆ ๆ ทีละเล็กทีละน้อยครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น อะไรตรง?

อ.วิชัย: ปัญญาความเห็นที่ถูกต้องที่เข้าใจในสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ตามความเป็นจริงครับ

ท่านอาจารย์: และ ถ้าไม่ฟังไม่มีปัญญา จะตรงได้ไหม?

อ.วิชัย: ถ้าไม่ฟังก็ไม่มีปัญญา ก็ตรงขึ้นไม่ได้ครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น จึงรู้จุดประสงค์ว่า ฟังทำไม

อ.วิชัย: ครับ นี่ครับท่านอาจารย์ ได้ฟังได้ไตร่ตรอง ได้ฟังที่ท่านอาจารย์ได้กรุณาที่จะถามให้ได้คิดนี่ครับ ก็เป็นความละเอียด เพราะว่า ลำพังเพียงแต่อ่านแล้วก้ไม่ได้คิดได้ละเอียดอย่างนี้ครับ ก็เห็นถึงความละเอียดของพระธรรมจริงๆ ครับท่านอาจารย์ครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น พระธรรมไม่ใช่สำหรับเพียงพูดตาม สำคัญที่สุด ทุกคำที่พูดต้องตรงต่อความจริงนั้นตามลำดับขั้นของความเข้าใจว่า จะตรงแค่ไหน

เพราะฉะนั้น สัจจบารมี สำคัญที่สุดตั้งแต่ต้น

อ.วิชัย: ครับ เพราะว่า บางครั้งการที่เพียงอ่าน ก็ไปนึกถึง อย่างถ้าพูดอย่างใดก็ทำอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้เห็นความลึกซึ้งว่า พูดอะไร แล้วก็ทำอย่างที่พูดอย่างไรครับ ก็คิดว่า เป็นตั้งแต่เบื้องต้น คือเป็นผู้ที่เห็นคุณของสัจจะครับที่จะที่จะประพฤติตามสิ่งที่ตนพูด แต่ว่าที่พูดนั้นพูดด้วยความเข้าใจถูก หรือพูดด้วยความเข้าใจผิดอย่างนี้ครับ ก็จะมีความละเอียดอย่างไรครับท่านอาจารย์ ที่คิดว่าถูก แต่ความจริงไม่ถูกครับ

ท่านอาจารย์: ถ้าไม่ฟังโดยละเอียด ไม่ไตร่ตรองให้เข้าใจจริงๆ พูดว่า จะฆ่า จึงต้องฆ่าอย่างนั้นหรือ?

อ.วิชัย: อ๋อ.. ครับ ไม่เป็นอย่างนั้นเลยครับ ต้องถูกต้องตามธรรมด้วยว่า สิ่งไหนเป็นสิ่งที่ควรถูกต้องครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ตรงต่ออย่างอื่นนะ ตรงต่อความจริงของธรรม

อ.วิชัย: ครับ ก็ละเอียดมากครับ

ขอเชิญอ่านได้ที่..

ตถาคตกล่าวอย่างใด ก็ทำ อย่างนั้น [พุทธวงศ์]

ขอเชิญฟังได้ที่..

เป็นผู้ตรงต่อปัญญาตนเอง

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ

กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.วิชัย ด้วยความเคารพค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 4 มี.ค. 2568

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ


ความคิดเห็น 2    โดย swanjariya  วันที่ 5 มี.ค. 2568

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

กราบยินดียิ่งในกุศลทุกประการค่ะน้องเมตตา