เอณิชังฆสูตร
โดย บ้านธัมมะ  6 ม.ค. 2568
หัวข้อหมายเลข 49236

พระธรรมทั้งหมดที่ได้ยินได้ฟัง ไม่ว่าจะจากพระสูตรหรือพระอภิธรรมก็ตาม เป็นข้อความที่ควรแก่การพิจารณา แม้จะเป็นสิ่งซึ่งดูเสมือนว่าจะเป็นประโยชน์น้อยสำหรับบางท่าน แต่ตามความเป็นจริงแล้ว ถ้าพิจารณาให้ทั่วถึงในอรรถนั้นๆ จริงๆ จะทำให้เข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังเป็นอยู่กับทุกท่านได้ เช่น ข้อความใน สังยุตตนิกาย สคาถวรรค ... เอณิชังฆสูตร ที่ ๑๐ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

กามคุณ ๕ มีใจเป็นที่ ๖ บัณฑิตประกาศแล้วในโลก บุคคลเลิกความพอใจในนามรูปนี้ได้แล้ว ก็พ้นจากทุกข์ได้อย่างนี้ ฯ

สั้นนิดเดียว ใช่ไหม เพียงให้ เลิกความพอใจในนามรูปนี้ได้แล้ว ก็พ้นจากทุกข์ได้อย่างนี้

ครอบคลุมถึงอริยสัจและธรรมข้ออื่นๆ ไหม เพียงแต่จะเลิกได้อย่างไร เท่านั้นเอง เพราะว่าทุกข์ทั้งหลายมาจากนามรูป เมื่อไม่รู้ความจริงของสภาพธรรม ก็ย่อมจะยินดีเพลิดเพลินในกามคุณ ๕ มีใจเป็นที่ ๖ เพราะฉะนั้น เห็นจริงหรือยังว่า ทุกขอริยสัจคืออะไร วันหนึ่งๆ ทุกขสัจคืออะไร

ขันธ์ ๕ ที่เป็นไปในภูมิ ๓ ที่เหลือ เว้นตัณหา เป็นทุกข์ โดยนัยของทุกขอริยสัจ ไม่ต้องกล่าวถึงจิตกี่ดวง เจตสิกกี่ดวงก็ได้ เพียงแต่รู้ความจริงว่า ขันธ์ ๕ ที่เป็นไป ในภูมิ ๓ ได้แก่ กามภูมิ รูปภูมิ อรูปภูมิ เว้นโลกุตตรภูมิ แม้จะไม่กล่าวโดยจำนวน แต่กล่าวโดยข้อความว่า ขันธ์ ๕ ที่เป็นไปในภูมิ ๓ ที่เว้นตัณหา เป็นทุกข์ โดยนัยของทุกขอริยสัจ

เพราะฉะนั้น ขณะนี้เองกำลังเป็นกามภูมิ ในขณะที่เห็น ในขณะที่ได้ยิน ในขณะที่ได้กลิ่น สามารถที่จะพิจารณาจนกระทั่งรู้ว่าเป็นทุกข์ เพราะว่าไม่เที่ยง แต่ถ้าไม่สามารถแยกปรมัตถธรรมออกจากบัญญัติ อย่างทางตากับที่กำลังคิดถึง สีสันวัณณะต่างๆ จะประจักษ์การเกิดขึ้นและดับไปได้ไหม ก็ไม่มีทางเลย

เพราะฉะนั้น ก่อนอื่น ก่อนที่จะไปกระทำสิ่งใดๆ ก็ตามเพื่อให้ประจักษ์การ เกิดดับของนามธรรมและรูปธรรม ขอเพียงให้รู้ความจริงว่า ปรมัตถธรรมที่เป็นรูปปรากฏทางตาโดยไม่ใช่การคิดนึกเรื่องของสิ่งที่ปรากฏเมื่อไร เมื่อนั้นจะเข้าใจว่า บัญญัติธรรมต่างกับปรมัตถธรรมอย่างไร แต่ถ้ายังไม่แยกและคิดว่า จะไปพากเพียรระลึกลักษณะของนามธรรมนั้นบ้าง รูปธรรมนี้บ้าง เพื่อให้ประจักษ์การเกิดขึ้นและ ดับไป จะเป็นไปไม่ได้เลย ตราบใดที่ยังไม่รู้ขณะที่ต่างกันของปรมัตถอารมณ์กับ บัญญัติอารมณ์ ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 1601


รับฟัง ... เอณิชังฆสูตร