ไม่ฟังพระธรรม ไม่มีทางที่จะเข้าใจ
โดย khampan.a  6 เม.ย. 2561
หัวข้อหมายเลข 29628

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ประมวลสาระสำคัญจากการสนทนาธรรม
เนื่องในวันจักรี
ที่ห้องประชุมชั้นที่ ๑๐
อาคารพัชรกิติยาภา
โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ
วันศุกร์ที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๑
~ พุทธะ คือ ผู้รู้ ผู้ทรงตรัสรู้ เพราะฉะนั้น จะให้อะไรใคร? ก็ให้ความรู้ที่คนอื่นให้ไม่ได้ นี้คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
(พระองค์ทรงแสดงพระธรรม แต่ละคำ เพื่อเกื้อกูลให้ผู้ฟัง เกิดปัญญาเป็นของตนเอง)
~ สิ่งที่สำคัญ ก็คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก
~ แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีค่ายิ่ง ที่ทำให้เราไม่เข้าใจผิด ไม่หลงตามคำที่ไม่ใช่คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ ชีวิตเกิดมาแล้ว มีทุกอย่างตั้งแต่เกิดจนตาย ไม่เคยขาดเลย ไม่มีใครไปเรียกร้อง แต่ว่ามีสิ่งที่มีปัจจัยเกิดแล้วทั้งนั้น โดยไม่มีใครไปขอเลย

~ เกิดมาแล้ว มีใครคิดบ้างไหม ว่า สมควรที่จะเข้าใจความจริงของสิ่งที่มี?, ความจริง ก็คือว่า ปัญญา ความเห็นถูกต้อง เป็นอินทรีย์ เป็นใหญ่ เพราะเหตุว่า จากความไม่รู้ที่มืดสนิท ก็เป็นผู้มีความเห็นถูกเกิดขึ้นเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีได้ เพราะฉะนั้น ปัญญาจึงเป็นอินทรีย์ คือ เป็นใหญ่

~ ความเป็นไปทุกวันตั้งแต่เกิดจนตาย ก็เป็นไปด้วยความไม่รู้ ทั้งหมด จนกว่าจะได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ละคำ เริ่มจากคำว่าธรรม คือ สิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริงมีลักษณะหลากหลายต่างกันมาก เห็นเกิดแล้วดับ เป็นของใครหรือเปล่า? เป็นใครหรือเปล่า? ไม่มีแล้ว ก่อนเห็น ก็ไม่มีเห็น ทุกคำต้องพิจารณา ถึงจะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายิ่งขึ้น

~ คนที่เกิดมาแล้ว ไม่เคยได้ยินได้ฟังพระธรรมเลย ก็จากโลกนี้ไป เขารู้อะไรหรือเปล่า? ก็ไม่รู้อะไร

~ กำลังเห็น ก็เพราะมีตา เป็นใหญ่ (จักขุนทรีย์) เพราะถ้าไม่มีตา ไม่มีอะไรที่จะปรากฏให้เห็นได้เลย จิต ก็เป็นใหญ่ ด้วย คือ เป็นมนินทรีย์

~ ฟังพระธรรม เพื่อรู้ รู้ขึ้นๆ จนกระทั่งเข้าใจมั่นคงขึ้นในขั้นการฟัง ว่า ไม่มีเรา และในที่สุด ไม่ใช่ไม่มีเราเท่านั้น (เพราะ) ไม่มีทุกอย่าง เพราะเหตุว่า ก่อนมี ไม่มีเลย พอเกิดมีแล้วก็หมด แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย ไหนล่ะ? ก็คือ ไม่มี ถ้ามีความเข้าใจมั่นคงว่า ไม่มี ถึงที่สุดแล้ว ก็คือ ไม่มี ถึงจะละความติดข้องได้ ไม่มีแล้วจะติดข้องได้อย่างไร

~ ฟังธรรมเข้าใจ ต่างจากขณะที่ไม่เคยฟังไม่เคยเข้าใจ เพราะฉะนั้น ขณะที่ฟังเข้าใจ ไม่มีอกุศล (สภาพธรรมที่ไม่ดี) เพราะขณะนั้น จิตต้องปราศจากสภาพธรรมที่ไม่ดี

~ ต้องอาศัยคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำ ที่จะค่อยๆ นำไปสู่ความเข้าใจขึ้นๆ ในสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องไปแสวงหาที่ไหนเลยทั้งสิ้น

~ ปัญญาความเข้าใจถูก ต้องมีตั้งแต่เริ่มฟัง ถ้าไม่ฟังพระธรรมเลย จะไปนั่งปฏิบัติ จะไปสำนักปฎิบัติ จะไปดับกิเลสถึงความเป็นพระโสดาบัน ใครพูด? ไม่ใช่คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย

~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้ผู้ฟังสามารถรู้ว่า อะไรถูก อะไรผิดแล้ว ไม่ถือเอาสิ่งที่ผิด เพราะปัญญาเข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริง ด้วยเหตุนี้การฟังธรรม ต้องฟังด้วยความเคารพยิ่งในแต่ละคำ

~ ขณะไหนที่กระทำสิ่งที่ดี หรือ จิตใจที่ดีงามเกิดขึ้น ขณะนั้นจิตผ่องใสจากอกุศล

~ ไม่ว่าการกระทำอะไรทั้งสิ้นที่หวังจะให้เกิดปัญญา (ซึ่ง) ไม่ใช่การฟังธรรมแล้วเข้าใจค่อยๆ เข้าใจขึ้น ไม่มีทางที่จะเป็นปัญญาที่จะดับกิเลสได้ เพราะขณะนั้น หวัง เป็นความติดข้อง เป็นตัวตน ไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งมั่นคง ว่า ธรรมทั้งหลาย เป็นอนัตตา (ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น)

~ ฟังพระธรรม เพื่อละความไม่รู้ จนกระทั่งความรู้ค่อยๆ เพิ่มขึ้น เมื่อมีความเข้าใจละคลายขึ้น ก็มีปัจจัยที่จะเข้าใจถึงเฉพาะสภาพที่เป็นธรรม เพราะขณะนี้เป็นแต่ "ฟังเรื่องของธรรม" แต่ยังไม่ได้ถึงเฉพาะลักษณะที่เป็นธรรม ลองคิดดู ท่านพระสารีบุตร ท่านพระมหาโมคัลลานะ ท่านวิสาขามิคารมารดา ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี จิตตคฤหบดี ท่านก็เคยตั้งต้นมาอย่างนี้
~ สิ่งที่มีจริงทุกอย่าง ทั้งหมด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้โดยละเอียดค่อยๆ ให้เข้าใจในความไม่มีเรา เป็นแต่เพียงธรรม (สิ่งที่มีจริงๆ แต่ละหนึ่ง) วันหนึ่ง คำที่ได้ฟังทั้งหมด ก็จะแจ่มแจ้ง จนถึงขั้นประจักษ์ได้ แต่ต้องมาจากการที่เข้าใจขึ้นๆ

~ ทำไปด้วยความไม่รู้ ผล ก็คือ ไม่รู้ เพราะฉะนั้น ก็ไม่ใช่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ ควรเข้าใจสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง ซึ่งเป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งยากที่จะได้ฟังในสังสารวัฏฏ์ เพราะเหตุว่า นานแสนนานกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์จะอุบัติขึ้น ต้องบำเพ็ญพระบารมี (คุณความดีที่จะทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลส) นานมากกว่าจะรู้ความจริงที่เราได้ฟัง ทั้งหมดเป็นความจริงจากการที่ได้ทรงตรัสรู้ เพราะฉะนั้น ถ้ารู้ว่ามีคนที่พูดถึงสิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้ให้เข้าใจขึ้น เป็นประโยชน์ไหมที่จะเข้าใจ และไม่ควรที่จะประมาทด้วยการคิดว่าง่าย เพราะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะว่า เป็นสิ่งที่ลึกซึ้งอย่างยิ่ง

~ ปัญญา ความเข้าใจทีละเล็กทีละน้อยนี้แหละ จะค่อยๆ ละคลายความเห็นผิดและความยึดมั่น ว่า เป็นเรา เป็นของเราซึ่งเป็นเหตุให้เกิดกิเลสมากมายมหาศาลซึ่งโลกเต็มไปด้วยภัยพิบัติต่างๆ ก็เพราะอกุศลธรรมความไม่รู้ความจริง

~ ปัญหาทุกปัญหาก็มาจากความไม่รู้ แล้วก็จะมีปัญหาต่อไป เพราะฉะนั้น ถ้ายังคงไม่รู้ความจริงก็แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะฉะนั้น ทุกคนล้วนมีปัญหาแล้วจะแก้อย่างไร หนทางเดียว ก็คือ เมื่อได้ฟังคำจริงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปัญหาทั้งหลายก็ค่อยๆ ลดไป เพราะรู้ว่าเป็นธรรม ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย เหตุดี ย่อมนำมาซึ่งผลที่ดี เพราะฉะนั้น ปัญญาก็จะถือเอาในสิ่งที่ควร ละทิ้งสิ่งที่ไม่ควร ซึ่งถ้าไม่มีปัญญาก็ไม่สามารถที่จะเป็นอย่างนั้นได้.


...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 6 เม.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย panasda  วันที่ 6 เม.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย rrebs10576  วันที่ 7 เม.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย มกร  วันที่ 7 เม.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย ปาริชาตะ  วันที่ 7 เม.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย เมตตา  วันที่ 7 เม.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย เจียมจิต  วันที่ 7 เม.ย. 2561

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

กราบอนุโมทนา ค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย Patchanon  วันที่ 7 เม.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 10    โดย Dechachot  วันที่ 7 เม.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 11    โดย bsomsuda  วันที่ 7 เม.ย. 2561

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 12    โดย thilda  วันที่ 7 เม.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 13    โดย วิริยะ  วันที่ 8 เม.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 14    โดย ประสาน  วันที่ 9 เม.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด


ความคิดเห็น 15    โดย s_sophon  วันที่ 11 เม.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 16    โดย chatchai.k  วันที่ 26 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ