...ก็มันติดไปแล้วนี่ครับ...
โดย ajarnkruo  16 ต.ค. 2550
หัวข้อหมายเลข 5147

แล้วเคยคิดจะลองวัด "ความติดข้อง" ของตัวเองบ้างไหม?ด้วยการฟังพระธรรม แล้วเจริญให้เกิดตัววัดที่ชัดเจนที่สุดซึ่งสิ่งนั้นก็คือ.............? (เฉลยด้านล่างครับ)

มีความสุขจากสีที่ปรากฏทางตานี้ได้สักกี่นาที ก่อนที่เก็บมันไว้แล้ว หันไปมองอย่างอื่น

มีความสุขจากเสียงดนตรี เพลงไพเราะ ที่รับฟังทางหู เพลงเดียวต่อๆ กัน ได้สักกี่รอบ/วัน


มีความสุขจากกลิ่นที่สูดดมแล้วรัญจวลใจทางจมูก กลิ่นเดียวกันต่อๆ กัน ได้สักกี่วินาที

มีความสุขจากรสที่ได้ลิ้มลองของอาหารทางลิ้น รสชาติเดียวกันต่อๆ กัน ได้สักกี่นาที

มีความสุขจากสัมผัสที่น่าปรารถนาที่กระทบทางกาย โดยไม่ปล่อยให้หลุด ได้สักกี่นาที

ที่เหลือก็เป็นเรื่องที่คิดนึกทางใจถึงความสุขทางกายที่เคยได้จาก รูป โผฏฑัพพะ ทั้งหมดทุกๆ วันนี้ปุถุชนติดในกามคุณ ๕ ได้เท่าไรก็ไม่อิ่ม ได้เท่าไรก็ไม่พอ เพราะ โลภะไม่เคยพอสมดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้ว่า ผู้ที่ติดอยู่ในกามคุณ ๕ ก็ไม่ต่างไปจาก "ลิงติดตัง"

เชิญคลิกอ่านครับ...

โลภะ คือความติดข้อง เหมือนลิงติดตัง


ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มเติม...

ว่าด้วยโทษของกาม [อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต]


เฉลย ตัววัด "ความติดข้อง" ที่ชัดเจนที่สุด คือ "ปัญญา" เท่านั้น

ไม่ใช่ "ตัวตน" ครับ



ความคิดเห็น 1    โดย ตุลา  วันที่ 17 ต.ค. 2550

ขอกราบบูชาคุณพระรัตนตรัย

ช่างหารูปเปรียบเทียบได้ดี เมื่ออ่านแล้วทำให้เกิดปัญญาค่ะ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตด้วยค่ะ


ความคิดเห็น 2    โดย พุทธรักษา  วันที่ 17 ต.ค. 2550

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 4    โดย jurairat  วันที่ 19 ต.ค. 2550

.....ขออนุโมทนา....

ลองพิจารณาถึงโทษภัยในความไม่รู้แล้วได้กระทำกรรมอันไม่เหมาะไม่ควรอะไรไปบ้าง ผลกรรมนั้นต้องให้ผลกับเราในภายหน้าแน่นอน ยังจะประมาทเป็นผู้ไม่ใส่ใจศึกษานามธรรมและรูปธรรมอีกหรือ


ความคิดเห็น 5    โดย Idoitforyou  วันที่ 31 ต.ค. 2550

เป็นธัมมะและเป็นธรรมดา ต้องเข้าใจตรงนี้ จึงละความเป็นธรรมดาได้


ความคิดเห็น 6    โดย yu_da2554hotmail  วันที่ 20 ม.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ