อยู่ในโลกมืด
โดย เมตตา  24 เม.ย. 2568
หัวข้อหมายเลข 49818

[เล่มที่ 27] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 374

ธรรมกถิกวรรคที่ ๒

๑. อวิชชาสูตร

ว่าด้วยความหมายของอวิชชา

[๓๐๐] กรุงสาวัตถี. ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า ถึงที่ประทับ ฯลฯ ครั้นแล้วได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคเจ้า ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกว่า อวิชชา อวิชชา ดังนี้ อวิชชาเป็นไฉนหนอแล และบุคคลผู้ประกอบด้วย อวิชชา ด้วยเหตุเพียงเท่าไร?

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสตอบว่า ดูก่อนภิกษุ ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับในโลกนี้ ไม่รู้ชัดซึ่งรูป ไม่รู้ชัดซึ่งความเกิดรูป ไม่รู้ชัดซึ่งความดับรูป ไม่รู้ชัดซึ่งปฏิปทาอันให้ถึงความดับรูป ไม่รู้ชัดซึ่ง เวทนา ฯลฯ ไม่รู้ชัดซึ่ง สัญญา ฯลฯ ไม่รู้ชัดซึ่ง สังขาร ฯลฯ ไม่รู้ชัดซึ่ง วิญญาณ ไม่รู้ชัดซึ่งความเกิด วิญญาณ ไม่รู้ชัดซึ่งความดับ วิญญาณ ไม่รู้ชัดปฏิปทาอันให้ถึงความดับ วิญญาณ ดูก่อนภิกษุ นี้เรียกว่า อวิชชา และบุคคลผู้ประกอบด้วย อวิชชา ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล.

จบ อวิชชาสูตรที่ ๑


อ.ณภัทร: ได้ฟังว่า อยู่ในโลกมืด ก็คือความไม่รู้ อวิชชา มานาน ก็ขออัญเชิญพระสูตร คืออวิชชาสูตรมาสนทนากับท่านอาจารย์ในความละเอียดครับ จากพระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวรวรรค อวิชชาสูตร ว่าด้วย ความหมายของอวิชชา ... ที่เรียกว่า อวิชชา อวิชชา ดังนี้ อวิชชาเป็นไฉน? บุคคลผู้ประกอบด้วยอวิชชา ด้วยเหตุเพียงเท่าใด? พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกร ภิกษุ ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับในโลกนี้ ไม่รู้ชัดซึ่งรูป ไม่รู้ชัดซึ่งความเกิดรูป ไม่รู้ชัดซึ่งความดับรูป ไม่รู้ชัดซึ่งปฏิปทาอันให้ถึงความดับรูป แล้วพระองค์ก็ได้กล่าวต่อถึงว่า ไม่รู้ชัดซึ่งเวทนา สัญญา สังขาร แล้วก็ไม่รู้ชัดซึ่งวิญญาณ ไม่รู้ชัดซึ่งความเกิดวิญญาณ ไม่รู้ชัดซึ่งความดับวิญญาณ ไม่รู้ชัดปฏิปทาให้ถึงความดับวิญญาณ ดูกร ภิกษุ นี้เรียกว่า อวิชชา และบุคคลผู้ประกอบด้วยอวิชชา ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล

พระองค์ทรงแสดง วิชชาสูตร ด้วยว่า บุคคลผู้ได้สดับ ก็จะรู้ชัดซึ่งรูป แล้วก็รู้ชัดซึ่งความเกิดรูป รู้ชัดซึ่งความดับรูป แล้วก็รู้ชัดซึ่งปฏิปทาอันให้ถึงความดับรูป ก็จะกราบเท้าท่านอาจารย์ในความละเอียดว่า บุคคลผู้ไม่ได้สดับ ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับในโลกนี้ ไม่รู้ชัดซึ่งรูป การรู้ชัดซึ่งรูปนี่ครับ คืออย่างไรครับท่านอาจารย์

ท่านอาจารย์: ฟังแล้ว ถ้าไม่สนใจที่จะเข้าใจให้ถูกต้อง แต่ละคำ ก็ผ่านไปโดยเพียงแต่จำชื่อ "รูป" ได้ยินแล้วจำ แต่ว่า ข้อความที่พระองค์ตรัสว่าอย่างไร แม้สั้นๆ แต่ความลึกซึ้งมหาศาล

อ.ณภัทร: ครับ พระองค์ทรงตรัสว่า ดูกร ภิกษุ ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับในโลกนี้ ไม่รู้ชัดซึ่งรูปครับ

ท่านอาจารย์: แค่นี้ เห็นไหม เดี๋ยวนี้รู้ไหม อะไรเป็นรูป?

อ.ณภัทร: ถ้าไม่ได้สดับ ไม่สามารถจะรู้ครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ฟังแล้วก็ต้องมีความเข้าใจในสิ่งที่ได้ฟัง ละเอียดขึ้นๆ รูป มีทั้งที่ปรากฏที่พระองค์ทรงแสดง เดี๋ยวนี้ ชีวิตประจำวัน และมีรูปที่ไม่ปรากฏด้วย แล้วใครจะรู้?! แม้แต่ รูปที่ปรากฏ ยังไม่รู้ว่าเป็นรูป นั่นหมอน นี่โต๊ะ นั่นเก้าอี้ ไหนรูป?

อ.ณภัทร: ครับ

ท่านอาจารย์: มืดสนิทเลยนะ ไม่รู้อะไรเลย เป็นเรา เป็นเขา เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดมาตลอด เดี๋ยวเกิด เดี๋ยวแก่ เดี๋ยวเจ็บ เดี๋ยวคนโน้นตาย ก็เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด เป็นอัตตาไม่เว้น โลกของความเป็นอัตตา เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดตลอด แล้วไหนรูป?

เพียงคำเดียว ที่พระองค์ตรัส ถ้าพระองค์ไม่ตรัสให้เข้าใจลึกซึ้งขึ้น ได้ยินแค่รูป จะรู้ไหมว่า คืออะไร? ธรรมะ ธาตุรู้ นามธาตุ นามธรรม ธาตุไม่รู้ พระองค์ทรงแสดงไว้หมด

ถ้าพระองค์ไม่ตรัส ใครจะรู้ รูปคืออะไร เดี๋ยวนี้อะไรเป็นรูป เดี๋ยวนี้อะไรเป็นธาตุที่รู้ เป็นนามธรรม นามธาตุ

ทุกคำ ทรงแสดงไว้อย่างละเอียดยิ่ง เพราะสัตว์โลกไม่สามารถจะรู้ได้ตามความเป็นจริงด้วยตนเอง แม้เดี๋ยวนี้ก็ยังถามใครว่า อะไรเป็นรูปจะรู้ไหม ผู้ไม่ได้สดับ?

อ.ณภัทร: ครับ เป็นพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงๆ เลยครับ ไม่อย่างนั้นก็จะหลงคิดว่า เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดตลอดถ้าไม่ได้สดับครับ

ท่านอาจารย์: ทุกอย่างมีอยู่ตลอดเวลา แต่ละหนึ่งๆ ไม่ซ้ำ หมด คือดับ ไม่กลับมาอีก ก็ไม่รู้อะไรสักอย่าง

เพราะฉะนั้น แต่ละคำๆ ถ้าไม่ใส่ใจที่จะรู้ว่า แต่ละคำ คืออะไร เดี๋ยวนี้มีไหม? เจอไหมว่า อะไรเป็นรูป?

ได้แต่ คำ เสียง รูปะ รูปธรรมเท่านั้น จำไว้ แต่มีรูปทั้งวัน รู้รูปไหนบ้าง?

อ.ณภัทร: ครับ ก็จะเห็นประโยชน์ของการได้ยินได้ฟังจริงๆ ครับ ถ้าไม่ได้ยินไม่ได้ฟัง คำ ที่มาจากพระปัญญาการตรัสรู้ของพระองค์ ก็มืดต่อไปครับท่านอาจารย์ครับ มืดจริงๆ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น สว่างปรากฏ ต้องต่างกับมืดแน่นอนใช่ไหม ออกจากความมืดของความไม่รู้

อ.ณภัทร: ครับ

ขอเชิญฟังได้ที่..

โลกสว่าง - โลกมืด

ก่อนการตรัสรู้นั้นโลกมืด มืดด้วยอวิชชา

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ

กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.ณภัทร ด้วยความเคารพค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย swanjariya  วันที่ 25 เม.ย. 2568

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ขอบพระคุณมากค่ะน้องเมตตาและยินดียิ่งในกุศลทุกประการนะคะ


ความคิดเห็น 2    โดย chatchai.k  วันที่ 25 เม.ย. 2568

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ


ความคิดเห็น 3    โดย nattawan  วันที่ 1 พ.ค. 2568

ยินดีในกุศลวิริยะค่ะ