รักษาอุโบสถศีล สามารถส่องกระจกเพื่อโกนหนวด หรือล้างหน้าแปรงฟันได้ไหมครับ
โดย chalit.tu  14 พ.ค. 2563
หัวข้อหมายเลข 31860

ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมทั้งพระธรรม และพระสงฆ์

ขออนุญาตสอบถามครับว่าเรารักษาอุโบสถศีล สามารถส่องกระจกเพื่อโกนหนวด หรือล้างหน้าแปรงฟันได้ไหมครับ หรือควรไม่ควรอย่างไร ขอคำแนะนำด้วยครับ

ขอบพระคุณครับ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 14 พ.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การรักษาอุโบสถ สามารถทำกิจวัตร เช่น ล้างหน้า แปรงฟัน โกนหนวดได้ เพราะไม่ใช่มุ่งตกแต่ง แต่ทำความสะอาดร่างกายให้เรียบร้อย แม้พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย ผู้มีศีลมากกว่า ศีลอุโบสถ ก็ทำความสะอาดร่างกาย เช่น ครับ

การรักษาศีลอุโบสถ จุดประสงค์เพื่อขัดเกลากิเลสมากขึ้น แต่ต้องรู้จักอุปนิสัยของตน และจุดประสงค์ว่ารักษาเพื่ออะไร ถ้ารักษาเพื่อจะได้บุญมากหรือเพื่ออานิสงส์อื่น รวมทั้ง จะได้เกิดในภพที่ดี เป็นเทวดาเป็นต้น ตรงนี้ไม่ใช่จุดประสงค์ที่ถูกต้อง แต่ที่ถูกคือ เพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองเพิ่มขึ้นจากศีล ๕ และเป็นไปเพื่อการละและดับกิเลสส่วนเดียวเท่านั้นครับ ดังข้อความในพระไตรปิฎกเรื่อง จุดประสงค์ที่ถูกและผิดในการรักษาศีลอุโบสถครับ

สมัยพุทธกาลผู้ที่ถือศีลอุโบสถ ศีล ๘ ละกิจการงานต่างๆ ในวันนั้น และ เป็นผู้เจริญกุศล อบรมปัญญาอยู่โดยมาก ไม่มีการทำงาน ดังนั้นจึงหมดปัญหาเรื่องเก้าอี้แบบมีล้อ มีทีวีที่ทำงาน อะไรต่างๆ ที่สำนักงาน เพราะถ้าไปทำงาน ก็ไม่รักษาศีล ๘ ในวันนั้นครับ วันที่ทำงาน ก็สามารถรักษาศีล ๕ อบรมปัญญาได้เป็นปกติ ครับ

ข้อความบางตอนจาก ทุติยราชสูตร

[๔๗๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ท้าวสักกะจอมเทวดา เมื่อจะปลุกใจเหล่าเทวดาดาวดึงส์ จึงภาษิตคาถานี้ในเวลานั้นว่า

แม้ผู้ใดพึงเป็นเช่นดังข้าพเจ้า ผู้นั้นก็พึงถืออุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ในดิถีที่ ๑๔ ที่ ๑๕ และที่ ๘ แห่งปักษ์ และถืออุโบสถปาฏิหาริยปักษ์เถิด

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลคาถานั้นนั่น ท้าวสักกะจอมเทวดาขับไม่เข้าที ไม่เป็นการขับดีแล้ว กล่าวไม่เหมาะ ไม่เป็นสุภาษิต นั่นเพราะเหตุอะไร เพราะท้าวสักกะจอมเทวดายังไม่ปราศจากราคะ ...โทสะ ...โมหะ ส่วนภิกษุผู้เป็นพระอรหันต์สิ้นอาสวะแล้ว สำเร็จแล้ว ทำกิจที่ควรทำแล้ว ปลงภาระแล้ว เสร็จประโยชน์ตนแล้ว สิ้นเครื่องร้อยรัดไว้ในภพแล้ว หลุดพ้นด้วยความรู้ชอบแล้ว จึงควรกล่าวคาถานั่นว่า

แม้ผู้ใดพึงเป็นเช่นดังข้าพเจ้า ผู้นั้นก็พึงถืออุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ในดิถีที่ ๑๔ ที่ ๑๕ และที่ ๘ แห่งปักษ์ และถืออุโบสถปาฏิหาริยปักษ์เถิด.

นั่นเพราะเหตุอะไร เพราะภิกษุนั้น ปราศจากราคะ...โทสะ...โมหะแล้ว

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 14 พ.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ส่องกระจก ไม่ใช่เพื่อต้องการจะประดับตกแต่งร่างกาย แต่เพื่อที่จะรู้ว่าเป็นตุ่ม เป็นแผล ตรงไหน เพื่อจะได้ทายา หรือ รักษา อย่างนี้ สามารถที่จะกระทำได้ สำหรับผู้รักษาอุโบสถศีล เพราะไม่ใช่เพื่อตกแต่ง
จุดประสงค์ของการรักษาอุโบสถศีล เพื่อประโยชน์แก่การขัดเกลากิเลสของตนเอง ไม่ใช่เห็นว่า ศีล ๘ มากกว่าศีล ๕ ก็รักษา โดยที่ไม่มีความเข้าใจอะไร ไม่ได้มุ่งที่จะขัดเกลากิเลสเลย อย่างนี้ย่อมไม่ถูกต้อง ดังนั้น ถ้าไม่สามารถรักษาศีล ๘ ได้ เพียงศีล ๕ ก็เป็นประโยชน์เช่นเดียวกันถ้ามีความจริงใจ พร้อมกับฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ครับ.

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 3    โดย chalit.tu  วันที่ 14 พ.ค. 2563

ขอบพระคุณครับ


ความคิดเห็น 4    โดย Artwii  วันที่ 14 พ.ค. 2563

ขอบคุณครับ ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย ประสาน  วันที่ 17 พ.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย chatchai.k  วันที่ 20 พ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ