อาศัยราคะ โทสะ โมหะ และตัณหา
โดย เมตตา  26 ก.พ. 2553
หัวข้อหมายเลข 15627

[เล่มที่ 43] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้าที่ 45

อานนท์. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อุบาสกทั้งหลายนั่น อาศัยอะไร

จึงไม่สามารถฟังธรรม?

ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสแก่พระอานนท์ว่า " อานนท์ อุบาสกเหล่านั้น

อาศัยราคะ อาศัยโทสะ อาศัยโมหะ อาศัยตัณหา จึงไม่สามารถฟังธรรม:

ชื่อว่าไฟ เช่นกับด้วยไฟ คือ ราคะไม่มี, ไฟใดไม่แสดงแม้ซึ่งเถ้า ย่อมไหม้

สัตว์ทั้งหลาย; แท้จริง แม้ไฟซึ่งยังกัลป์ให้พินาศ ที่อาศัยความปรากฏ

แห่งอาทิตย์ ๗ ดวงบังเกิดขึ้น ย่อมไหม้โลก ไม่ให้วัตถุไรๆ เหลืออยู่เลย

ก็จริง, ถึงกระนั้น ไฟนั้นย่อมไหม้ในบางคราวเท่านั้น; ชื่อว่ากาลที่ไฟคือ

ราคะจะไม่ไหม้ ย่อมไม่มี: เพราะฉะนั้น ชื่อว่าไฟเสมอด้วยราคะก็ดี ชื่อว่า

ผู้จับเสมอด้วยโทสะก็ดี ชื่อว่าข่ายเสมอด้วยโมหะก็ดี ชื่อว่าแม่น้ำเสมอ

ด้วยตัณหาก็ดี ไม่มี" ดังนี้แล้ว จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
"ไฟเสมอด้วยราคะ ไม่มี, ผู้จับเสมอด้วยโมหะ

ไม่มี, ข่ายเสมอด้วยโมหะ ไม่มี. แม่น้ำเสมอด้วย

ตัณหา ไม่มี." ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย