ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๒๙
โดย khampan.a  10 ต.ค. 2564
หัวข้อหมายเลข 37856

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
* * ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๒๙ * *


~ พระพุทธศาสนา คือ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าไม่เข้าใจธรรม ก็ดำรงรักษาพระพุทธศาสนาไว้ไม่ได้ แต่ถ้าเข้าใจธรรม ก็ดำรงรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นภิกษุ ใครก็ได้ที่เข้าใจธรรม ผู้นั้นแหละที่ดำรงรักษาพระพุทธศาสนา
~ พระธรรมเป็นสิ่งที่ควรอย่างยิ่งแก่การได้ยินได้ฟังด้วยความเคารพในความลึกซึ้งของผู้ที่ทรงตรัสรู้ความจริง และทรงแสดงความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้ด้วยพระมหากรุณาที่จะให้คนอื่นได้เข้าใจถูก ได้เห็นถูก
~ พระธรรมทั้งหมด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงให้เข้าใจสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ เท่าที่กำลังของสติปัญญาจะเข้าใจได้ และอบรมต่อไป เพราะคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำ เปลี่ยนไม่ได้เลย เป็นความจริงถึงที่สุด
~ ธรรม หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีจริง ซึ่งอาจจะไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เห็นก็เป็นธรรม เสียใจในวันหนึ่งๆ ก็มี ความรู้สึกเสียใจมีจริงก็เป็นธรรม เสียงมีจริง เสียงเป็นธรรม กลิ่นมีจริง ก็เป็นธรรม รวมความว่าทุกอย่างที่มีจริงเป็นธรรม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรม คือ รู้แจ้งความจริงของสภาพที่มีจริงๆ ที่ปรากฏกับทุกคนในชีวิตประจำวันซึ่งสามารถที่จะพิสูจน์ได้ทุกขณะ เช่น ขณะนี้เป็นธรรม ขณะที่เห็น มีธรรมไหม เคยขาดธรรมบ้างไหม ตั้งแต่เกิดมาขาดธรรมได้หรือเปล่า
~ ธรรมเป็นปกติ คนส่วนใหญ่คิดว่า ธรรมต้องไปทำให้มีขึ้น ให้เกิดขึ้น แต่ว่าตามความเป็นจริงตลอดชีวิต ทุกชีวิตในสังสารวัฏฏ์ เป็นธรรมทั้งหมด ไม่มีขณะไหนที่ไม่ใช่ธรรมเลย เพราะฉะนั้น การรู้จักธรรม ไม่ใช่ต้องไปทำอะไรให้เกิดเลย เพียงแต่ว่าสิ่งที่กำลังมีในขณะนี้ ฟัง แล้วก็รู้ว่า ปัญญาสามารถรู้ว่า สิ่งที่ได้ยินได้ฟังเป็นคำจริงทุกคำ
~ การฟังพระธรรมก็เพื่อเข้าใจถูกต้องว่า ธรรมเป็นธรรม เกิดปรากฏแล้วดับไป ชั่วคราว ทุกอย่างปรากฏชั่วคราว ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ชั่วคราวทั้งนั้น
~ ประโยชน์ของการเข้าถึงความจริงของสภาพธรรม คือ มั่นคงที่จะเข้าใจว่า ขณะนี้เป็นธรรมที่เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป
~ ธรรมเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพราะเหตุว่าทุกขณะเป็นธรรม ไม่ต้องไปหาที่ไหนเลย แม้แต่เดี๋ยวนี้เป็นธรรม แต่ความลึกซึ้งของธรรมที่มีจริงในชีวิตประจำวัน ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมโดยละเอียดโดยเข้าใจจริงๆ ก็ไม่สามารถเห็นความลึกซึ้งของธรรมได้
~ ถ้าทราบว่าเป็นผู้ที่ยังมีโมหะมากที่จะต้องขัดเกลา จะทำให้ไม่ละเลยในการฟังพระธรรม และไม่ละเลยการเจริญกุศลทุกประการด้วย เพราะว่า ความประมาทย่อมพลิกชีวิต จากความเจริญไปสู่ความเสื่อมได้ จากการเป็นมนุษย์ ในชาตินี้ ไปสู่การเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์ดิรัจฉาน เป็นสัตว์ในนรก ซึ่งอาจจะเป็นพรุ่งนี้หรือเย็นนี้ย่อมได้ทั้งสิ้น ถ้ารู้อย่างนี้ จะทำให้เป็นผู้ที่ไม่ประมาท
~ การเข้าใจพระธรรม เป็นความดีที่ประเสริฐกว่าอย่างอื่น ตั้งแต่เกิดมา ดีก็มีหลายอย่าง แต่ดีกว่าอย่างอื่น ก็คือ ได้เข้าใจความจริง เพราะฉะนั้น ความจริงเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่จะเป็นสิ่งที่รู้ได้ง่ายเลย รู้ได้แสนยาก พอได้ยินคำนี้ ก็เข้าใจความหมายของคำว่าอดทน อดทนเหนืออย่างอื่นคือไม่ใช่เพียงแต่อดทนที่จะละชั่ว ไม่ทำสิ่งที่ไม่ดี และ อดทนทำความดี แต่อดทนยิ่งกว่านั้น คือ อดทนที่จะเข้าใจสิ่งที่ยากแสนยากและมีค่าที่สูงสุดคือพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้
~ ตลอดชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย ทุกขณะ คือ ความจริง ไม่เว้นเลยสักขณะเดียว ทุกวันทุกเวลา สั้นยิ่งกว่าวินาที ก็เป็นสภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป โดยไม่รู้เลย
~ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ลึกซึ้ง ละเอียดอย่างยิ่ง ยากที่จะเข้าใจ และส่วนใหญ่ ความไม่รู้ ความเห็นผิด ทำให้เป็นผู้ที่ไม่ละเอียด เพราะฉะนั้น ก็ไม่เข้าใจคำสอนโดยลึกซึ้ง จึงทำให้มีความเห็นต่างจากการที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้แล้ว
~ คนที่มีความเห็นผิดแม้คนเดียวที่เกิดมา ไม่มีประโยชน์ เพราะเหตุว่า นอกจากจะไม่มีประโยชน์กับตนเอง ก็ยังให้โทษ เมื่อให้คนอื่นเข้าใจผิดๆ ตามกันไปด้วย
~ ถ้าใครพูดผิด ทำผิด คิดผิด คนที่เข้าใจธรรม ก็พูดสิ่งที่ถูก เพื่อให้เขาได้เข้าใจที่ถูกต้อง ไม่ใช่ไปโกรธหรือไปขุ่นเคืองใจ เพราะขณะนั้นเป็นอกุศล ซึ่งเมื่อเห็นโทษของอกุศลแล้ว การเข้าใจนั่นแหละ จะค่อยๆ ทำให้สิ่งที่เป็นกุศล เจริญขึ้น
~ โอกาสที่ประเสริฐที่สุด คือ ให้คนอื่นได้สามารถที่จะเข้าใจพระธรรมที่ถูกต้อง ดำรงสิ่งที่ลึกซึ้งที่สุดไว้ เพื่อที่จะไม่ให้ถูกทำลายไป เพราะว่าการที่จะทำลายพระศาสนา ไม่ยาก เพียงแค่ไม่ศึกษาให้ลึกซึ้ง ก็เข้าใจผิดได้
~ มิตรคือเพื่อน เพื่อนที่หวังดี พร้อมที่จะเกื้อกูล เป็นประโยชน์ ไม่คิดร้าย ไม่หวังร้าย ไม่ริษยา ไม่ทำร้ายเลยทั้งสิ้น นั่นคือเพื่อน เพื่อนที่ดี คือ กัลยาณมิตร (มิตรที่ดีงาม) ใครก็ตามที่เป็นเพื่อนที่ดีของใคร ก็คือ หวังดี หวังประโยชน์เกื้อกูล เมื่อเขาเข้าใจผิด ก็ให้เขาเข้าใจถูก เขาไม่เข้าใจธรรม ก็สามารถที่จะอนุเคราะห์ให้เขาเข้าใจ นั่นก็เป็นเพื่อนที่หวังดีกับผู้นั้น
~ หนทางเดียวที่จะทำให้เป็นคนดีได้ คือ ความเข้าใจพระธรรม
~ "ช่วยชาติ คือ ช่วยให้คนเป็นคนดี" แก้ปัญหาเผินๆ ด้วยความไม่รู้ แก้ไม่สำเร็จ แต่ถ้ามีความเข้าใจพระธรรม มีความเข้าใจที่มั่นคงเพิ่มขึ้น คนดีเพิ่มขึ้น คนชั่วน้อยลง ประเทศชาติก็เจริญมั่นคงขึ้น


* * ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ * *

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๒๘



...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...



ความคิดเห็น 1    โดย ธนฤทธิ์  วันที่ 10 ต.ค. 2564

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย petsin.90  วันที่ 10 ต.ค. 2564

กราบอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย jaturong  วันที่ 10 ต.ค. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 4    โดย chatchai.k  วันที่ 10 ต.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย มังกรทอง  วันที่ 10 ต.ค. 2564

พระธรรมเป็นสิ่งที่ควรอย่างยิ่งแก่การได้ยินได้ฟังด้วยความเคารพในความลึกซึ้งของผู้ที่ทรงตรัสรู้ความจริง และทรงแสดงความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้ด้วยพระมหากรุณาที่จะให้คนอื่นได้เข้าใจถูก ได้เห็นถูก
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ


ความคิดเห็น 6    โดย Jans  วันที่ 10 ต.ค. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย Lai  วันที่ 11 ต.ค. 2564

อนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย มังกรทอง  วันที่ 11 ต.ค. 2564

พระธรรมทั้งหมด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงให้เข้าใจสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ เท่าที่กำลังของสติปัญญาจะเข้าใจได้ และอบรมต่อไป เพราะคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำ เปลี่ยนไม่ได้เลย เป็นความจริงถึงที่สุด

น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ


ความคิดเห็น 9    โดย มังกรทอง  วันที่ 12 ต.ค. 2564

ธรรมเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพราะเหตุว่าทุกขณะเป็นธรรม ไม่ต้องไปหาที่ไหนเลย แม้แต่เดี๋ยวนี้เป็นธรรม แต่ความลึกซึ้งของธรรมที่มีจริงในชีวิตประจำวัน ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมโดยละเอียดโดยเข้าใจจริงๆ ก็ไม่สามารถเห็นความลึกซึ้งของธรรมได้ น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ


ความคิดเห็น 10    โดย Boonsanong  วันที่ 15 ต.ค. 2564

น้อมกราบ อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ & น้อมกราบ ขอบพระคุณ มากมายยิ่ง ต่อท่าน อาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ท่านวิทยากร พหูสูต ของบ้านธัมมะทุกๆ ท่าน ท่านผู้เสียสละอย่างใหญ่หลวงทุกคน ที่ร่วมจรรโลงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่นานแสนนาน ...หลังเกษียณมา ได้ฟังคลิปพระธรรม จากบ้านธัมมะ มาตลอดตามโอกาส แค่ได้ค่อยๆ เข้าใจ ค่อยๆ รู้ละไม่รู้ สะสมจิต งามๆ นี้ รู้สึกเห็นทางการฟังพระธรรมตามกาล จนชีวิตหาไม่ละครับ !!!