มีความคิดหนึ่งที่ผุดขึ้นมาทำให้เป็นทุกข์มาก

คือต้องเล่าก่อนว่าที่อิสานเวลาเขานึ่งข้าวเหนียวเวลาก่อนเอาข้างใส่กระติบบางบ้านเขาจะเอาผ้าขาวรองเพื่อไม่ให้ข้าวเหนียวติดกระติบ ผ้าขาวนั้นก็ไม่ค่อยจะซักเท่าไหร่ใช้นานจนเก่าค่อยเปลี่ยนครั้งเดียว ที่บ้านผมก็เป็นบางทีราดำขึ้น ซึ่งผมเวลากินก็จะชอบกินแต่ตรงกลางไม่กินขอบที่ติดกับผ้าเพราะกลัวเป็นมะเร็ง แล้วก็เอาข้าวตรงขอบมาปิดตรงกลาง (การกินแต่ข้าวแต่ตรงกลางเข้าถือว่าเป็นข้อห้ามแต่โบราณ) บางทีไม่คิดอะไรบางทีก็เจตนาอยู่ว่า "พ่อกินตายไม่ตายก็แล้วแต่" ในบางทีมีเรื่องโกรธ เพราะพ่อก็จะกินหลังผมแต่ท่านก็ไม่ได้ยินนะ เพราะไม่ค่อยอยู่บ้านซึ่งมีเจตนาบ่อยครั้งในอดีต ประมาณวันจันทร์มั้งครับก็เกิดความคิดอยู่ว่าถ้าท่านกินข้าวที่อาจจะมีราจากผ้าซึ่งน่าจะมีแน่หากท่านเป็นอะไรในอนาคตด้วยการกระทำแล้วซึ่งเจตนาของเรา คิดแล้วก็เกิดทุกขเวทนานะครับ แม้ปัจจุบันไม่ได้ทำแล้วและท่านก็ยังมีชีวิตอยู่ ถ้าเป็นตามนั้นก็คงเป็นอนันตริยกรรมแล้วกระมัง แม้ไม่อาจรู้ว่าในวันนั้นจะมีเจตนาจริงหรือแค่คิดเล่นก็ไม่คงอาจรู้ได้เลยแต่ทุกขเวทนาความร้อนเนื้อร้อนใจลุกโชนเลยครับกับความเสี่ยงอนันตริยกรรม

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ไม่ควรเลยที่จะคิดไม่ดี ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วเป็นผู้ที่มีพระคุณด้วยแล้วยิ่งไม่ควรคิดไม่ดีต่อท่านเลยโดยประการทั้งปวง ควรทำแต่สิ่งที่ดี ตอบแทนพระคุณของท่านเท่านั้น สิ่งที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป อกุศลจิตก็มีเป็นธรรมดาเกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย แต่เมื่อรู้แล้วว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี ก็ไม่ควรทำต่อไป และความละเอียดที่ควรจะได้พิจารณา คือ ถ้าหากตนเองเห็นว่าภาชนะหรืออุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ไม่สะอาดซึ่งอาจจะก่อให้เกิดโรคในภายหลังได้ ตนเองนั่นแหละที่ควรจะเปลี่ยนใหม่หรือทำให้สะอาดขึ้น ไม่ควรปล่อยปละละเลย เพราะเหตุว่า เมื่อได้ทำสิ่งที่ถูกต้องดีงามเหมาะสมแล้ว ก็จะไม่เป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนใจในภายหลัง ครับ
... ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...

อ้างอิงจาก ความคิดเห็น 1 โดย khampan.a

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ไม่ควรเลยที่จะคิดไม่ดี ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วเป็นผู้ที่มีพระคุณด้วยแล้วยิ่งไม่ควรคิดไม่ดีต่อท่านเลยโดยประการทั้งปวง ควรทำแต่สิ่งที่ดี ตอบแทนพระคุณของท่านเท่านั้น สิ่งที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป อกุศลจิตก็มีเป็นธรรมดาเกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย แต่เมื่อรู้แล้วว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี ก็ไม่ควรทำต่อไป และความละเอียดที่ควรจะได้พิจารณา คือ ถ้าหากตนเองเห็นว่าภาชนะหรืออุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ไม่สะอาดซึ่งอาจจะก่อให้เกิดโรคในภายหลังได้ ตนเองนั่นแหละที่ควรจะเปลี่ยนใหม่หรือทำให้สะอาดขึ้น ไม่ควรปล่อยปละละเลย เพราะเหตุว่า เมื่อได้ทำสิ่งที่ถูกต้องดีงามเหมาะสมแล้ว ก็จะไม่เป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนใจในภายหลัง ครับ
... ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...

ถ้าสิ่งผมทำเป็นปัจจัยเช่นอาจจะทำให้เป็นมะเร็ง แต่โดยเฉพาะส่วนของผมคงไม่ได้ทำให้เป็นมะเร็งหรอกถ้าจะเป็นก็คงมีปัจจัยการดำเนินชีวิตของท่านด้วย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีส่วนเล็กน้อยจากผมทำให้เสียชีวิตด้วยโรคนั้นถ้าอย่างนี้อนุมานเป็นอนันตริยกรรมทำได้ไหมครับ ขออนุญาตถามครับ

เรียนความคิดเห็นที่ ๒ ครับ
เมื่อไม่มีเจตนาฆ่า ย่อมไม่เป็นอนันตริยกรรมอย่างแน่นอน ขอให้ตั้งต้นใหม่ เริ่มต้นทำแต่สิ่งที่ถูกต้องดีงาม ครับ

อ้างอิงจาก ความคิดเห็น 3 โดย khampan.a

เรียนความคิดเห็นที่ ๒ ครับ
เมื่อไม่มีเจตนาฆ่า ย่อมไม่เป็นอนันตริยกรรมอย่างแน่นอน ขอให้ตั้งต้นใหม่ เริ่มต้นทำแต่สิ่งที่ถูกต้องดีงาม ครับ

ขอสอบถามเพิ่มเติมนะครับ

หากในขณะที่กระทำตามความคิดเห็นที่ 1 นั้นมีเจตนาถ้าบิดาถ้าสิ่งผมทำเป็นปัจจัยเช่นอาจจะทำให้เป็นมะเร็ง แต่โดยเฉพาะส่วนของผมคงไม่ได้ทำให้เป็นมะเร็งหรอกถ้าจะเป็นก็คงมีปัจจัยการดำเนินชีวิตของท่านด้วย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีส่วนเล็กน้อยจากผมทำให้เสียชีวิตด้วยโรคนั้นถ้าอย่างนี้ผมจะเป็นอนันตริยกรรมไหมครับ ขออนุญาตถามครับ

เรียนความคิดเห็นที่ ๔ ครับ

ไม่เป็นอนันตริยกรรม ครับ เริ่มต้นทำสิ่งที่ดีนะครับ

อ้างอิงจาก ความคิดเห็น 5 โดย khampan.a

เรียนความคิดเห็นที่ ๔ ครับ

ไม่เป็นอนันตริยกรรม ครับ เริ่มต้นทำสิ่งที่ดีนะครับ

ขอบคุณครับ

อ้างอิงจาก ความคิดเห็น 5 โดย khampan.a

เรียนความคิดเห็นที่ ๔ ครับ

ไม่เป็นอนันตริยกรรม ครับ เริ่มต้นทำสิ่งที่ดีนะครับ

จะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ เมื่อได้ทำสิ่งที่ถูกต้องดีงามเหมาะสมแล้ว ก็จะไม่เป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนใจในภายหลัง

ขอถามเป็นความรู้เพิ่มเติมครับเหตุใดเมื่อมีเจตนาฆ่าตามความเห็น 4 จึงไม่นับเป็นอนันตริยกรรมครับ

เรียนความคิดเห็นที่ ๗ ครับ
เนื่องจากว่าไม่ได้มีเจตนาที่ชัดเจนในการที่จะฆ่าท่าน เพียงแต่เป็นความไม่ละเอียดของตนเองเท่านั้น แต่ก็เป็นโทษมากอยู่แล้ว เพราะกระทำไม่เหมาะไม่ควรต่อผู้มีพระคุณ และต่อไปคุณก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำไม่ดีอย่างนั้นแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ควรที่จะขอโทษท่านในสิ่งที่บกพร่องไม่ละเอียดและตั้งใจที่จะทำแต่สิ่งที่ดีงามเท่านั้นต่อไป หวังว่าความคิดเห็นทั้งหมดก็น่าจะเพียงพอให้ได้คิดพิจารณา นะครับ

ขอบคุณครับ