ขอนอบน้อมต่อพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
---ภิกษุุนอกศาสนาเที่ยวย่ำยีสิกขาบทน้อยใหญ่ ทั้งๆ ที่รู้
--- เหมือนปฏิเสธคำสัตย์ของตนเองในวันที่อุปสมบทถ้าไม่ได้น้อมประพฤติตามพระธรรมวินัย
--- เงินทองควรแก่ผู้ใด รูปเสียงกลิ่นรสโผฐฐัพพะ ควรแก่ผู้นั้น
--- พระบัญญัติแต่ละข้อ เพื่อการอยู่ผาสุก ของภิกษุ
--- แต่ภิกษุกลับเดือดร้อน ในการปฏิบัติตาม พระธรรมวินัย
--- มีหรือที่ พระพุทธพจน์ จะผิด.....เพราะทรงรู้กาลข้างหน้าจึงทรงบัญญัติๆ เพื่อ 10 ประการ
๑.เพื่อการอยู่เป็นสุขสำราญของพระภิกษุ....ไม่ต้องห่วงใยเพราะไม่มีเงินทอง..สุขสำราญไหมคะ
๒.เพื่อความสำราญของภิกษุผู้มีศีล
๓.เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อยาก....ถ้าไม่มีพระวินัยอะไรจะข่มภิกษุผู้ไม่ประพฤติตาม
๔.เพื่อความเลื่อมใสของชาวบ้านผู้ยังไม่เลื่อมใส
๕. เพื่อความเลื่อมใสยิ่งของผู้ที่เลื่อมใสแล้ว
๖.เพื่อป้องกันอาสวะที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบัน
เห็น รูปที่ยังไม่ดับ กิเลสก็เกิดแล้ว ทั้งๆ ที่รูปก็ดับเร็วมาก..แต่..ก็ยังไม่เท่ากิเลส
๗. เพื่อกำจัดอาสวะที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
๘. เพื่อเป็นการยอมรับที่ดีแก่สงฆ์
๙. เพื่อความดำรงมั่นแห่งพระสัทธรรม
!0 . เพื่อถือตามพระวินัย
--- เพราะฉะนั้น ไม่ต้องไปหาครูคนไหนค่ะ มีท่านเดียว คือ พระบรมศาสดา
--- คนที่มีเงิน ...ไม่ใช่ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้
--- เป็นภิกษุ...เพื่อ..ละ
--- โจร..ธรรมดา..ใครเห็นก็รู้ แต่โจร..ไม่ธรรมดานุ่งห่มแบบเพศบรรพชิต..ทรงเรียกว่า..มหาโจร
--- ความผิดอยู่ที่คนให้ (ให้เงินให้ทอง) ....เพราะอะไรคะ....เพราะให้สิ่งที่เป็นภัยอย่างยิ่งต่อผู้นั้น..
--- เกิดมา..ก็ทำแต่..สิ่งที่ไม่รู้
--- ต้องรู้ก่อนว่าสิ่งที่จะนับถือ คืออะไร...จึงนับถือ
--- คนนับถือพระพุทธศาสนา คือ..คนที่เข้าใจพระพุทธศาสนาเท่านั้น
--- การกล่าวถึง....พระธรรมวินัย...เป็นความหวังดีหรือเปล่า?
--- คนที่กล่าวถึงพระธรรมวินัย....ทำผิดหรือ?
---- มีแต่คนทำผิด จะไม่มีใครเริ่มต้นถูกเลยหรือ?
--- ใส่บาตร ผู้ที่รับเงิน.....ใส่บาตรใครคะ?...ต้องรู้ด้วยว่าเป็น ภิกษุ หรือไม่ใช่
--- การใส่บาตรเป็นการดำรงพระพุทธศาสนา หรือคะ?
--- เป็นคฤหัสถ์ ที่ดี ยังแสนยาก...แล้วไปบวช...จะเป็นบรรพชิตที่ดีได้ไม๊?
--- แม้เดี๋ยวนี้..ศาสนาก็อันตรธาน..แล้ว..จากผู้ไม่เข้าใจ
--- ทุกอย่างต้องเป็นไปตามพระธรรมวินัย ไม่ได้ฝากไว้กับคณะหนึ่งคณะใด (..สมาคมหนึ่งสมาคมใด)
--- พุทธบริษัทที่ดีต้องฟังให้เข้าใจ
--- เงินทองของชาวบ้านที่ให้ ไม่ได้ให้คนนั้นเพื่อเอาไปซื้อบ้าน ซื้อรถ...แต่เขาให้กับศาสนาเพราะศรัทธา
--- มีเงินไว้ ในฐานะที่คนนั้นไม่สมควรจะมีเงินไว้
--- สิ่งที่ได้มา ไม่ใช่ของตน แต่เขาถวายด้วยศรัทธา
---เงิน (ทอง) นั้น..ต้องเป็นของสาธารณะ ไม่ใช่ลาสิกขาแล้ว เอาเงินนั้นไปได้
--- แต่ต้องแยกนะคะ เงินที่ถวายวัด กับเงินที่ถวายภิกษุ
--- รูป เสียง กลิ่น รส โผฐฐัพพะ ที่ดีๆ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข..ทรงอุปมา...เหมือนขวานฟ้า... (ได้รับกุศลวิบาก แต่ อกุศล เกิดต่อทันที)
--- ทุกอย่างเป็นอนัตตา แต่ปัญญาไม่ถึง
--- ไม่ใช่จริงเพียงขั้นฟัง แต่ต้องจริงขั้นประจักษ์แจ้งด้วย
--- ทุกอย่างในขณะนี้ เป็นอย่างที่ได้ฟัง
--- เคยเป็นคนมานานแสนนาน เคยเห็นคนมานานแสนนาน แล้วจะให้รู้ว่าไม่มีคน....จะนานไม๊?
--- ถ้า..ไม่มีอะไรให้เห็น...จะติดข้องในอะไรได้ไหม...แต่เพราะมีจึงติดข้อง...เพราะไม่รู้
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาท่านอ.ดวงเดือน บารมีธรรม ผู้บริจาคที่ดินให้มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (มศพ.)
กราบขอบพระคุณ คณาจารย์ วิทยากร ทุกท่าน
สาธุอนุโมทนาในกุศลจิตทุกดวงค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของคุณหมอค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ