ปราภวสูตรที่ ๖.. ความเสื่อม ๑๒ อย่าง
โดย pirmsombat  16 มิ.ย. 2554
หัวข้อหมายเลข 18565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[เล่มที่ 46] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๕ - หน้าที่ 309

ปราภวสูตรที่ ๖

ว่าด้วยความเสื่อม ๑๒ อย่าง

[๓๐๓] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อาราม

ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล เมื่อปฐมยาม

สิ้นไปแล้ว เทวดาตนหนึ่งมีรัศมีอันงดงามยิ่ง ทำพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้

สว่างไสว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มี

พระภาคเจ้าแล้ว ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มี

พระภาคเจ้าด้วยคาถาว่า

[๓๐๔] ข้าพระองค์มา เพื่อจะทูลถาม

ถึงผู้เสื่อม และคนผู้เจริญกะท่านพระโคดม

จึงขอทูลถามว่า อะไรเป็นทางของคนเสื่อม.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า

ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ ผู้รู้ชั่วเป็นผู้เสื่อม

ผู้ใคร่ธรรมเป็นผู้เจริญ ผู้เกลียดธรรมเป็นผู้

เสื่อม เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้

เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๑.

ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าขอพระองค์

จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๒ อะไรเป็นทางของ

คนเสื่อม.

คนมีอสัตบุรุษเป็นที่รัก ไม่กระทำ

สัตบุรุษให้เป็นที่รัก ชอบใจธรรมของอสัต-

บุรุษ ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม เพราะ

เหตุนั้นแล เราจงทราบข้อนี้เถิดว่า ความ

เสื่อมนั้นเป็นที่ ๒.

ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์

จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๓ อะไรเป็นทางของ

คนเสื่อม.

คนใดชอบนอน ชอบคุย ไม่หมั่น

เกียจคร้าน โกรธง่าย ข้อนั้นเป็นทางของ

คนเสื่อม เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัด

ข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๓.

ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์

จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๔ อะไรเป็นทางของ

คนเสื่อม.

คนใดสามารถ แต่ไม่เลี้ยงมารดาหรือ

บิดาผู้แก่เฒ่า ผ่านวัยหนุ่มสาวไปแล้ว ข้อ

นั้นเป็นทางของคนเสื่อม เพราะเหตุนั้นแล

เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้น

เป็นที่ ๔.

ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระ-

องค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๕ อะไรเป็นทาง

ของคนเสื่อม.

คนใดลวงสมณะพราหมณ์ หรือแม้

วณิพกอื่นด้วยมุสาวาท ข้อนั้นเป็นทางของ

คนเสื่อม เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัด

ข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๕.

ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระ-

องค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๖ อะไรเป็นทาง

ของคนเสื่อม.

คนมีทรัพย์มาก มีเงินทองของกิน

กินของอร่อยแต่ผู้เดียว ข้อนั้นเป็นทางของ

คนเสื่อม เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัด

ข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๖.

ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระ-

องค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๗ อะไรเป็นทาง

ของคนเสื่อม.

คนใดหยิ่งเพราะชาติ หยิ่งเพราะ

ทรัพย์ และหยิ่งเพราะโคตร ย่อมดูหมิ่น

ญาติของตน ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม

เพราะเหตุนั้น เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า

ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๗.ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระ-

องค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๘ อะไรเป็นทาง

ของคนเสื่อม.

คนใดเป็นนักเลงหญิง เป็นนักเลง

สุรา และเป็นนักเลงการพนันผลาญทรัพย์

ที่ตนหามาได้ ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม

เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า

ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๘.

ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระ-

องค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๙ อะไรเป็นทาง

ของคนเสื่อม.

คนไม่สันโดษด้วยภริยาของตนประ-

ทุษร้ายในภริยาของคนอื่นเหมือนประทุษร้าย

ในหญิงแพศยา ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม

เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า

ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๙.

ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระ-

องค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๑๐ อะไรเป็นทาง

ของคนเสื่อม.

ชายแก่ได้หญิงรุ่นสาวมาเป็นภริยา

ย่อมนอนไม่หลับ เพราะความหึงหวงหญิงรุ่นสาวนั้น ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม

เพราะเหตุนั้น เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า

ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๑๐.

ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระ-

องค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่๑๑ อะไรเป็นทาง

ของคนเสื่อม.

คนใดตั้งหญิงนักเลงสุรุ่ยสุร่าย หรือ

แม้ชายเช่นนั้นไว้ในความเป็นใหญ่ ข้อนั้น

เป็นทางของคนเสื่อม เพราะเหตุนั่น เราจง

ทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๑๑.

ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระ-

องค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๑๒ อะไรเป็น

ทางของคนเสื่อม.

ก็บุคคลผู้เกิดในสกุลกษัตริย์ มีโภค-

ทรัพย์น้อย มีความมักใหญ่ ปรารถนา

ราชสมบัติ ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม.

บัณฑิตผู้ถึงพร้อมด้วยความเห็นอัน

ประเสริฐ พิจารณาเห็นคนเหล่านี้ เป็นผู้

เสื่อมในโลก ท่านย่อมคบโลกที่เกษม (คน

ผู้เจริญ) .

จบปราภวสูตรที่ ๖



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 16 มิ.ย. 2554

โดย อาจารย์คำปั่น

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ข้อความโดยสรุป ปราภวสูตร * (ว่าด้วยความเสื่อม ๑๒ ประการ) เหตุเกิดของพระสูตรนี้ คือ เทวดาทั้งหลาย พอได้ฟังมงคลสูตร (แสดงมงคล ๓๘ ประการ) ซึ่งเป็นทางแห่งความเจริญของสัตว์ทั้งหลายแล้ว เกิดความคิดว่า "พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงทางแห่งความเจริญโดยส่วนเดียวในมงคลสูตร แล้วทางแห่งความเสื่อมจะเป็นอย่างไร" ประสงค์จะฟังพระสูตรที่ว่าด้วยทางแห่งความเสื่อมบ้าง จึงพร้อมใจกันลงมาเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า และในบรรดาเทวดาเหล่านั้น เทวดาตนหนึ่งซึ่งได้รับมอบหมายจากท้าวสักกะให้เป็นผู้ถามปัญหาในเรื่องนี้ จึงได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงทางแห่งความเสื่อมว่ามีอะไรบ้าง เมื่อเทวดาทูลถามแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ได้ตรัสตอบ (ตามที่ปรากฏในพระสูตร) สำหรับทางแห่งความเสื่อมที่ปรากฏในพระสูตรนี้ มีทั้งหมด ๑๒ ประการ สรุปได้ดังนี้ คือ ๑. เกลียดธรรม ๒. รักอสัตบุรุษ ชอบใจคำสอนของอสัตบุรุษ ๓. มักหลับ ชอบคุย เกียจคร้าน โกรธง่าย ๔. ไม่เลี้ยงดูมารดาบิดา ๕. หลอกลวงผู้อื่นด้วยการพูดเท็จ ๖. ตระหนี่ บริโภคของอร่อยแต่เพียงผู้เดียว ๗. หยิ่งเพราะชาติ ทรัพย์ โคตร ๘. เป็นนักเลงหญิง นักเลงสุรา เล่นการพนันเผาผลาญทรัพย์ ๙. คบชู้ภรรยาของผู้อื่น

๑๐. ชายแก่ มีภรรยาสาว เกิดความหึงหวง ๑๑. แต่งตั้งคนใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายให้เป็นใหญ่ ๑๒. มักใหญ่ใฝ่สูง ในเวลาจบพระธรรมเทศนา เทวดาทั้งหลายฟังทางแห่งความเสื่อมแล้ว ได้บรรลุ-โสดาปัตติผล สกทาคามิผล และอนาคามิผล มีจำนวนนับไม่ได้. ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเหล่านี้เพิ่มเติม นะครับ เพราะไม่ได้ฟังธรรม ย่อมเสื่อมรอบ คนพูดเท็จ ไม่ทำชั่ว นั้นไม่มี ความโกรธเหมือนดังจับถ่านเพลิง การเล่นพนัน ผิดศีลข้อไหนครับ ผมทำงานอยู่ต่างจังหวัด ไมมีเวลาบำรุงมารดาเลย ผมเป็นคนเห็นแก่ตัวหรือเปล่าครับ * หมายเหตุ คำว่า ปราภวะ หมายถึง ความเสื่อม มาจากคำภาษาบาลีว่า ปรา (ซึ่งเป็นบทหน้า หมายถึง กลับความ) + ภวะ (ความเจริญ) เมื่อรวมกันแล้ว สำเร็จรูปเป็น ปราภวะ หมายถึง ความเสื่อม คือ ว่าโดยรูปศัพท์ เมื่อ ปรา อยู่หน้าคำใดจะำทำให้คำนั้น มีความหมายตรงกันข้าม จาก ความเจริญก็เป็นความเสื่อม เพราะ ปรา เป็นคำที่กลับความ เหมือนกับคำว่า ปราชัย มาจากคำว่า ปรา (กลับความ) + ชยหรือ ชัย (ชนะ) เมื่อรวมกันแล้ว เป็น ปราชัย แปลว่า แพ้ ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 2    โดย จักรกฤษณ์  วันที่ 16 มิ.ย. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณหมอและอาจารย์ผเดิมครับ


ความคิดเห็น 3    โดย bsomsuda  วันที่ 16 มิ.ย. 2554

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย pirmsombat  วันที่ 17 มิ.ย. 2554

ขอบพระคุณและอนุโมทนาคุณจักรกฤษณ์และทุกท่านครับ


ความคิดเห็น 5    โดย aurasa  วันที่ 17 มิ.ย. 2554

กราบอนุโมทนาและขอบพระคุณ

ในกุศลจิตทุกท่าน ที่ได้ให้ความรู้ความเข้าใจในพระธรรม ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดมา ค่ะ

ความคิดเห็น 6    โดย มกร  วันที่ 18 มิ.ย. 2554
ขออนุโมทนาค่ะ

ความคิดเห็น 7    โดย หลานตาจอน  วันที่ 19 มิ.ย. 2554
ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ

ความคิดเห็น 8    โดย orawan.c  วันที่ 20 มิ.ย. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ