
อ.ธีรพันธ์: เมื่อวานนี้ได้มีการสนทนาธรรมหัวข้อในคลิปธรรมเตือนใจ เรื่องทันสมัย เพราะเข้าใจธรรมะเป็นหัวข้อหนึ่งที่ไม่ยาวมาก แต่ละคำเป็นประโยชน์อย่างยิ่งครับเมื่อได้พิจารณาไตร่ตรองครับ พอพูดถึงเรื่องความทันสมัย ก็คงเป็นเรื่องที่เป็นความนิยมชมชอบที่ไม่อยากให้ใครมาว่าล้าสมัย แต่อยากทันสมัย ในคลิปสนทนา ทันสมัยคืออย่างไร ครับ ก่อนอื่นก็เรียน อ.คำปั่นว่า สมย หรือสมัย คืออะไรก่อนครับ
อ.คำปั่น: คำว่า สมย ในภาษาบาลี สมย ซึ่งคำไทย ก็คือสมัย ครับ ถ้าพิจารณาจากศัพย์ ก็คือสิ่งที่ดำเนินไปเรื่องๆ นี่คือพูดถึงความหมายคือเป็นการกล่าวถึง แต่ละขณะๆ นั่นเองที่เป็นสมัย เป็นความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรมะ แต่ละหนึ่งขณะๆ นั่นเองที่เรียกว่า สมัย ก็ตรงกับศัพย์ คือสิ่งที่ดำเนินไปเรื่อยๆ เป็นความละเอียดที่แสดงถึงความเป็นไปของธรรมะที่เกิดขึ้นเป็นไป แต่ละขณะๆ เป็นไปอย่างนี้ไปเรื่อยๆ นี่คือแต่ละขณะซึ่งก็เรียกว่าเป็น สมัย ได้ครับ เพราะไม่พ้นไปจากการเกิดขึ้นเป็นไปของธรรมะใน แต่ละขณะหนึ่งๆ เลยครับ
อ.ธีรพันธ์: เป็นสิ่งที่ ขณะนี้เอง ครับ ถ้าไม่รู้จักสมัยตามความเป็นจริงก็ไม่ทันสมัย แต่ก็ยังไม่รู้อะไรครับว่า จริงๆ แล้วเป็นการกล่าวตามๆ กัน แต่ที่จะเห็นความละเอียดของความว่า ที่ไม่ทันสมัยครับ แต่ก็ยังไม่รู้เลยครับว่า จริงๆ แล้วเป็นการกล่าวตามๆ กันครับ แต่ที่จะเห็นความละเอียดของความว่าที่ทันสมัยครับ กราบเท้าท่านอาจารย์ครับกับที่ว่าคำนี้ก็เป็นคำที่ไม่ค่อยได้ยินคำกล่าวในลักษณะนี้ว่า ทันสมัย แต่หมายความว่า รู้ตามความเป็นจริงครับ จะว่าทัน ทันอย่างไรครับท่านอาจารย์ ส่วนใหญ่จะได้ยินคำว่า ตามรู้ แต่ว่าจะให้ ทัน ทันทีหรืออย่างไรครับ
ท่านอาจารย์: ขอทบทวนอีกครั้งนะ สมย หรือสมัย คืออะไร?
อ.คำปั่น: แต่ละขณะที่เป็นไปครับ
ท่านอาจารย์: เดี๋ยวนี้ใช่ไหม?
อ.คำปั่น: เดี๋ยวนี้ครับ
ท่านอาจารย์: แล้วทันสมัย เดี๋ยวนี้ไหม? ทันขณะที่กำลังเป็นไปเดี๋ยวนี้ไหม?
อ.คำปั่น: ยังไม่ถึงเลยครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ไม่ทันสมัยแน่นอน นอกจากผู้ที่ได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สามารถที่จะรู้ความจริงว่า สมัย สมย เดี๋ยวนี้คืออะไร จึงจะทันความจริงที่มี
เพราะฉะนั้น เดี๋ยวนี้ คืออะไร ไม่รู้ จะทันสมัยไม่ได้เลย
อ.ธีรพันธ์: ครับ ทันสมัยไม่ได้เลยครับ แต่ก็ไม่รู้ว่าทันสมัยครับ
ท่านอาจารย์: ไม่รู้ แล้วจะรู้ได้อย่างไร?
อ.ธีรพันธ์: ไม่รู้ก็ไม่รู้ต่อไปครับ
ท่านอาจารย์: คิดเองจะรู้ไหม?
อ.ธีรพันธ์: คิดเองก็ไมรู้ครับ
ท่านอาจารย์: แล้วมีใครเป็นที่เพิ่งที่จะรู้ทุกอย่างตามความเป็นจริงได้?
อ.ธีรพันธ์: พระสัมมาสันพุทธเจ้าครับ
ท่านอาจารย์: แล้วจะพึ่งพระองค์ไหม?
อ.ธีรพันธ์: พึ่งครับ
ท่านอาจารย์: พึ่งอย่างไร?
อ.ธีรพันธ์: อาศัยฟังคำจริงที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังจากพระองค์ครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ต้องมีหนทางเดียว จะทันสมัยคือสามารถที่จะรู้ว่าเดี๋ยวนี้คืออะไร
อ.ธีรพันธ์: จะทันสมัยต้องรู้เพียงอย่างเดียวหรืออย่างครับ?
ท่านอาจารย์: เดี๋ยวก่อนคุณธีรพันธ์!! ถ้าไม่รู้จริงๆ เดี๋ยวนี้จะทันสมัยไหม ทันสภาพธรรมะที่กำลังเป็นสมัยของธรรมะนั้นไหม?
อ.ธีรพันธ์: ไม่ทันครับ
ท่านอาจารย์: แล้วจะรีบไปไหน อย่างคำถามเมื่อกี้นี้?
อ.ธีรพันธ์: ครับ เพราะว่าได้ยินคำว่า ทันสมัย ก็รู้สึกก็เป็นคำที่อยากทันสมัยครับ แต่ก็ไม่มีเหตุปัจจัยให้ทันสมัยครับ
ท่านอาจารย์: ฟังธรรมะเพื่ออยากทันสมัย หรือฟังธรรมะเพื่อรู้ความจริงว่า สมัยคืออะไร เพราะใครก็ตามที่คิดว่า ทันสมัย แต่ไม่รู้ความจริงว่า สมัยคืออะไร จะทันไหม?
อ.ธีรพันธ์: ไม่ทันเลยครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น แต่ละคำ จะรู้ความจริงได้ก็ต่อเมื่อมีผู้รู้เป็นที่พึ่งให้รู้ได้
อ.ธีรพันธ์: ครับ ก็ได้ยินคำว่า สมัย มาในลักษณะความเข้าใจเองโดยไม่รู้ทันสมัยจริงๆ
ท่านอาจารย์: ก็ไม่ได้พึ่งใคร ไม่รู้ๆ ๆ พูดเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
อ.ธีรพันธ์: อย่างนี้ที่ว่า ทันสมัย ก็ไม่ทันสมัยจริงๆ ครับ ยิ่งคิดไปแล้วจริงๆ ก็ไม่ทันสมัยเลยครับ
ท่านอาจารย์: รู้ได้อย่างไรว่า ไม่ทันสมัย?
อ.ธีรพันธ์: เพราะไม่รู้ตามความเป็นจริงจากที่พระองค์ทรงแสดงครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ไม่มีวันที่ทันสมัยได้เลย ถ้าไม่รู้ว่า สมัยคืออะไร และเดี๋ยวนี้คือสมัยหรือเปล่า จนกว่าจะรู้ว่า สามารถรู้ได้ เพราะมีผู้ที่ได้ตรัสรู้แล้วเท่านั้นเป็นที่พึ่งให้รู้ได้ มิเช่นนั้นไม่สามารถจะรู้ได้เลย
ขอเชิญอ่านได้ที่ ..
แก่นของพรหมจรรย์ [มหาสาโรปมสูตร]
ขอเชิญรับฟังได้ที่ ..
อยากทันสมัย
ทันสมัยเพราะเข้าใจธรรม
ขอเชิญฟังคลิปวิดีโอได้ที่ ..
ล้าสมัยหรือทันสมัย
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.ธีรพันธ์ อ.คำปั่น ด้วยความเคารพค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ