ความจริงที่ทุกคนควรพิจารณา
โดย Guest  9 มี.ค. 2553
หัวข้อหมายเลข 15716

คำบรรยายโดยอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ทุกคนก็จะเห็นได้ว่าชีวิตชาติหนึ่งๆ มากหรือน้อยสำหรับการที่จะอบรมปัญญาที่จะรู้ ลักษณะของสภาพธรรมเพิ่มขึ้นเพราะว่าวันๆ หนึ่ง ก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายของ ธุรกิจการงานต่างๆ และก็ยังมีการรื่นเริง การขวนขวาย เพลิดเพลินพักผ่อนต่างๆ การที่ จะสนุกสนานโดยวิธีฟังเพลงบ้างหรือว่าวาดภาพต่างๆ บ้างหรือซื้อของบ้าง ปรุงอาหาร บ้าง ปลูกต้นไม้บ้างในวันหนึ่งๆ นะคะเพราะฉะนั้นชีวิตของชาติหนึ่งซึ่งปัญญาจะเจริญ ขึ้นที่จะเจริญความเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรม จะมากหรือจะน้อยเพราะว่าบาง ชีวิตก็สั้นมาก บางชีวิตก็อาจยืนยาวพอสมควรแต่ก็เป็นชีวิตที่ไร้สาระ เพราะเหตุว่าไม่ได้เข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฎ

แต่ละคนก็ต้องจากโลกนี้ไป หมดสภาพจากการเป็นบุคคลนี้แล้วก็ สะสมกุศลบ้าง อกุศลบ้างมากน้อยต่างๆ กันไป แต่ว่าสิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือต้องจาก เหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆ ของโลกนี้โดยสิ้นเชิงในวันหนึ่ง สิ่งที่ควรจะติดตัวไป ก็ควรจะเป็นการเจริญกุศลและการเข้าใจสภาพธรรมเพิ่มขึ้น โดยการฟัง การพิจารณาและการอบรมเจริญสติปัฏฐาน

เชิญคลิกฟังที่นี่ครับ

ความจริงที่ควรพิจารณา



ความคิดเห็น 2    โดย จักรกฤษณ์  วันที่ 9 มี.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย khampan.a  วันที่ 9 มี.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 4    โดย พุทธรักษา  วันที่ 9 มี.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย wannee.s  วันที่ 9 มี.ค. 2553

ขณะที่ไม่รู้ลักษณะของการเห็น ของการได้ยิน ของการได้กลิ่น ของนึกคิด ของสุข ของทุกข์ ขณะนั้นก็เป็นผู้มืด มืดเพราะอวิชชาไม่รู้ว่าเป็นธรรมค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย Sam  วันที่ 9 มี.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 7    โดย JANYAPINPARD  วันที่ 10 มี.ค. 2553

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้าที่ 367

๑๐. สารสูตร ว่าด้วยสาระ ๔ ประการ

[๑๕๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สาระ ๔ นี้ ฯลฯ คือ สีลสาระ สมาธิสาระ ปัญญาสาระ วิมุตติสาระ นี้แล สาระ ๔ ประการ.

จบสารสูตรที่ ๑๐

เรื่อง ชีวิตที่ประเสริฐ

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 416

ก็ผู้ใดมีปัญญาทราม มีใจตั้งมั่น พึงเป็น อยู่ ๑๐๐ ปี ความเป็นอยู่วันเดียวของผู้มีปัญญา มี ฌาน ประเสริฐกว่า (ความเป็นอยู่ของผู้นั้น) .


ความคิดเห็น 8    โดย saifon.p  วันที่ 10 มี.ค. 2553
สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือต้องจากเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆ ของโลกนี้โดยสิ้นเชิงในวันหนึ่ง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรจะติดตัวไปนะคะก็ควรจะเป็นการเจริญกุศลและการเข้าใจสภาพธรรมเพิ่มขึ้นโดยการฟัง การพิจารณาและการอบรมเจริญสติปัฏฐาน ขออนุโมทนานะคะ

ความคิดเห็น 9    โดย orawan.c  วันที่ 10 มี.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย คุณ  วันที่ 10 มี.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย วันชัย๒๕๐๔  วันที่ 10 มี.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 12    โดย homenumber5  วันที่ 13 มี.ค. 2553

สาธุ

ชีวิตแสนสั้น

พบพระธรรมแล้ว

ต้องรีบอบรมเจริญปัญญา

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 13    โดย บัวขาว  วันที่ 15 มี.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 14    โดย เมตตา  วันที่ 18 มี.ค. 2553

บางชีวิตก็อาจยืนยาวพอสมควรแต่ก็เป็นชีวิตที่ไร้สาระเพราะเหตุว่าไม่ได้เข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฎ

ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 15    โดย homenumber5  วันที่ 21 มี.ค. 2553

ชีวิตที่ยืนยาวแต่ทุกข์ทรมานนั้นมีมาก

ในมหานรกอเวจี ในอบายภูมิ 4

แต่มนุษย์นี้แม้มาเกิดด้วยกุสลน้อยนิดแล้ว

พบพระธรรมแล้วแม้สนใจแล้ว

แต่มีสักมากน้อย

ที่จะมีสัทธาเต็มเปี่ยมจนมีวิริยะเพียรในการสิกขาพระพุทธธรรม

และสิกขาสภาวธรรมตามพระธรรม

แม้สิกขาเต็มที่

จะหาสักมากน้อยที่จะเข้าถึงปรมัตถธรมตามที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้

มีมากน้อยที่สำเร็จมัค ผล

ตามที่อ่านกระทู้

เรื่องการสูญสิ้นของพระพุทธศาสนา

3000ปีหลังพระปรินิพพานจะมีแต่ผู้สามารถสำเร็จพระอนาคามีเท่านั้น

สิ่งที่เริ่มสิ้นสูญคือพระปริยัติธรรม

ขาดศาสนิกสนใจสิกขา

การมีเวบบ้านธัมมะ

เป็นทางหนึ่งที่ช่วยให้ศาสนิกได้พบปะกัลยาณมิตรในธรรม

โดยเฉพาะบางท่านได้วิริยะหาพระสูตรต่างๆ

ที่เกี่ยวข้องมาให้อ่านกันขออนุโมทนาจากใจจริง

ขอทุกท่านจงเจริญในธรรมเทอญ


ความคิดเห็น 16    โดย ที่พึ่งที่ระลึก  วันที่ 25 มี.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ