สนทนาธรรมที่ ร.พ.พระมงกุฎ 12 สิงหาคม 2557

@ ฟังเรื่องอื่นที่ไม่ทำให้รู้ความจริง และไม่ทำให้ละกิเลสมามากมาย ก็นับเป็นโอกาส ที่ดี ที่ได้ฟังธรรม ที่เป็นเรื่องที่ทำให้เข้าใจความจริงและละกิเลส
@ ภาษาไทยที่เข้าใจ คือ ปัญญา คือ ความเห็นถูก ถูกต้องในสภาพธรรมที่ปรากฎ
@ ขณะนี้ก็ยังเป็นเรา ก็ต้องเป็นอย่างนั้นเป็นปกติ ไม่ต้องเปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปตามปกติ เพราะ นั่นเป็นเรา ไม่ใช่ธรรม
@ ตราบใดที่ยังไม่เข้าใจ ก็จะละชั่ว ทำความดี แต่ไม่ใช่การชำระจิตให้บริสุทธิ์ เพราะ การชำระจิตต้องเป็นการเข้าใจสิ่งที่ปรากฎ และต้องเริ่มจากการละคลายความยึดถือว่า เป็นเรา เป็นสัตว์ บุคคลก่อน

@ ที่บอกว่าให้จัดสรร แบ่งเวลาฟังธรรม อย่างนั้นเป็นพระพุทธพจน์หรือเปล่า เพราะ ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตาทุกอย่างก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยไม่ใช่เรื่องบังคับใดๆ ทั้งสิ้น
@ เข้าใจความเป็นอนัตตา โกรธเกิดแล้ว พอเข้าใจไหมว่า เป็นธรรมไม่ใช่เรา
@ กระพริบตาเป็นธรรม มีความต้องการที่จะกระพริบตาไหม เพราะฉะนั้น โลภะเกิด แล้ว เป็นปกติอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ตัว ไม่มีตัวตนที่จะไม่ให้โลภะเกิดเลย เพราะเกิดแล้ว เป็นไป แม้กระพริบตาก็โลภะ นี่แสดงถึงความเป็นปกติของธรรมที่เป็นไป และเป็น อนัตตา หนทางที่ถูก คือ เข้าใจว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา

@ พระธรรมไม่ใช่คิดเอง ฟังเพียงเล็กน้อย แล้วจะเอามาคิดเอง ก็ผิดหมด
@ กิเลสสะสมมานับไม่ถ้วน อนันตะ แต่ก็สามารถละกิเลสที่สะสมมาอย่างนับไม่ถ้วน ได้ด้วยการเข้าใจความจริงของสภาพธรรมด้วยปัญญา
@ กายไม่ป่วย แต่ใจป่วยไหม โรคกาย หมอรักษาได้ แต่โรคใจรักษาด้วยความเข้าใจ พระธรรม แต่ต้องค่อยๆ เป็นไป และเป็นไปตามลำดับด้วยหนทางที่ถูก คือ การรู้ความ จริงของสภาพธรรมในขณะนี้
@ ถ้ามีกาย ไม่ให้หลีกเลี่ยงโรคต่างๆ ได้ไหม แล้วเราต้องการอะไร เพียงแค่หายป่วย กาย แต่สุดท้ายก็ต้องเกิด ก็ต้องป่วยไม่สิ้นสุด หรือ ควรเข้าใจความจริงเพื่อละกิเลสที่ เป็นสาเหตุของโรคทั้งหมด

@ ถึงแม้จะเจ็บกาย แต่ใจก็สามารถเข้าใจถูกว่าเป็นอนัตตา เกิดขึ้นและดับไปไม่ยั่งยืน มีเราที่เจ็บป่วยตรงไหน
@ สิ่งที่ประเสริฐที่สุด ที่เป็นสภาพธรรมที่เกิดดับ คือ ปัญญา ความเห็นถูก ไม่ว่าเวลา ใด ปัญญาเท่านั้นที่เป็นสภาพธรรมที่รักษาจิต
@ ละชั่ว ทำดี ทำใจให้บริสุทธิ์ เข้าใจแค่ไหน สำคัญที่สุด คือ ชำระจิตให้บริสุทธิ์ เพราะ ทุกคนหมักหมมด้วยความไม่รู้และกิเลสมามากมาย เพียงเห็นก็ติดข้องแล้ว แล้ว จะละอย่างไร การชำระจิตที่แท้จริง คือ เข้าใจถูกในความเป็นจริงของสภาพธรรมที่เป็น ไป ไม่ว่า กุศล หรือ อกุศลที่เกิดขึ้นก็เป็นธรรมไม่ใช่เรา

@ ขอให้มีชีวิตอยู่เพื่อเข้าใจธรรม
@ บางท่านก็พิจารณาว่า ขอมีชีวิตอีกสักนิด เพื่อเข้าใจธรรม เพราะการเข้าใจธรรม มี ค่าประเสริฐยิ่ง ชีวิตจึงควรอยู่เพื่อเข้าใจสิ่งที่ปรากฎ

@ ที่คิดว่าทุกข์น้อย น้อยจริงหรือเปล่า เพราะทุกข์เกือบตลอดโดยไม่รู้ตัว และที่ สำคัญ สภาพธรรมที่เกิดขึ้นและดับไปเป็นทุกข์
@ ความเข้าใจพระธรรมเท่านั้นที่ทำให้พ้นทุกข์ เข้าใจอย่างไร เข้าใจว่าเป็นแต่เพียง ธรรมไม่ใช่เรา
@ ขณะที่เข้าใจก็ค่อยๆ ละความไม่รู้ อันเป็นเหตุให้ละกิเลสได้หมดสิ้น
@ ทุกคนที่ได้ฟังพระธรรมเพราะได้สะสมบุญมาในอดีต
@ เป็นธรรมดา นั่นคือ เป็นอย่างนี้ ไม่เป็นอย่างอื่น ธรรมเกิดขึ้นอย่างไร ก็อย่างนั้น อกุศลเกิดก็ธรรม สำคัญที่เข้าใจว่า เป็นธรรมไม่ใช่เรา ไม่ใช่มีตัวตนที่จะเปลี่ยน จะละ อกุศล
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ด้วยความเคารพยิ่ง จาก ใหญ่ราชบุรี-ธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนา
ยินดีในกุศลจิตครับ