ไม่สบายใจมากเลยค่ะ ไม่สบายรักษามานาน ก็ไม่หายสักที
โดย Pugwaree  13 พ.ค. 2558
หัวข้อหมายเลข 26535

หนูรู้สึกเครียดมากๆ เลยค่ะ และก็ท้อใจมากด้วย ที่ตัวเองป่วยมานานแล้ว รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที ทั้งๆ ที่ก็ฟังพระธรรมว่าทุกอย่างเป็นธรรมะ แต่พอเจอเหตุการณ์จริง รู้สึกได้เลยว่าตัวเองยังไม่เข้าใจในพระธรรมเลย



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 13 พ.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เป็นปกติธรรมดาของปุถุชน ที่ยังมากด้วยกิเลส ที่เมื่อมีการประสพกับสิ่งที่ไม่น่าพอใจ มีการเจ็บป่วย ปวด ทางร่างกาย ก็ย่อมจะเกิด ความทุกข์ใจได้มาก เป็นธรรมดา ดั่งเช่นพระสาวก ที่เป็นพระโสดาบัน ท่านก็เกิดความทุกข์ใจได้ เมื่อประสบกับสิ่งที่ไม่น่าพอใจ เพราะฉะนั้น ผู้ที่ศึกษาพระธรรม ควรเข้าใจถูกว่า ปัญญาเพียงขั้นการฟัง ไม่สามารถทำอะไรกิเลสได้ แต่เพราะอาศัยการได้ฟังพระธรรม ปัญญาก็ค่อยๆ เจริญขึ้นทีละน้อย และ ค่อยๆ เข้าใจถูกว่า เป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา และ เห็นประโยชน์ที่จะฟังพระธรรมต่อไป ครับ

การเจ็บปวย จึงเปนเครื่องเตือน หรือ เรียกวา เปนเทวทูต ใหเห็นวา เปนเพราะอกุศลกรรมที่ไดทํา จึงพิจารณาวา ไมควรกระทําอกุศล อันเปนธรรมที่มีโทษ นํามาซึ่งสิ่งที่ไมดีทั้งปวง มีความเจ็บปวย เปนตน จึงคอยๆ เห็นโทษและลดละที่จะทําอกุศล และเห็นประโยชนของการเจริญกุศล เพื่อจะสะสมไปในภายภาคหนา อันนําความสุขมาให และที่สําคัญ ปญญาเทานั้นที่ประเสริฐสุด จึงควรแบงเวลาในการฟงพระธรรมในบางโอกาสครับ ที่สําคัญที่สุดโชคดีแลวที่ไดเกิดเปนมนุษยพบพระพุทธศาสนา มีโอกาสฟงพระธรรมก็เปนขณะที่ประเสริฐแลว และขณะนี้ก็ยังมีชีวิตอยูชีวิตที่เหลือ ไมวาจะนอยหรือมากประการใด ก็ควรทําใหดีที่สุด คือ สะสมความดี เทาที่ทําได้โดยเฉพาะ ฟงพระธรรม ครับ ก็มี ปญญา ความเขาใจที่เกิดขึ้นของคุณจะเปนกําลังใจที่ดีของคุณเอง และมารดา ครับ ขออนุโมทนาที่รวมสนทนา


ความคิดเห็น 2    โดย danai2523  วันที่ 14 พ.ค. 2558

สาธุ


ความคิดเห็น 3    โดย siraya  วันที่ 14 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย khampan.a  วันที่ 14 พ.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เมื่อมีรูปร่างกายแล้ว ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงความเจ็บไข้ได้ป่วยได้ เนื่องจากว่าร่างกายเป็นรังของโรค เป็นบ่อเกิดแห่งโรค การเจ็บไข้ได้ป่วย ก็เป็นผลของกรรม ซึ่งไม่มีผู้ใดจะบังคับได้เลย วันนี้แข็งแรงดี พรุ่งนี้อาจจะเจ็บป่วยก็ได้ แต่สำหรับผู้ที่มีปัญญาที่ได้อบรมมาแล้ว ถึงแม้ในขณะที่วิบากซึ่งเป็นผลของกรรม คือ การเจ็บป่วยเกิดขึ้น เป็นเครื่องเตือนได้ว่า เป็นเวลาที่ไม่ควรประมาท ไม่ประมาทในการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา และไม่ประมาทในการเจริญกุศลประการต่างๆ เป็นธรรมที่จะเป็นที่พึ่ง ต่อไปในภายหน้า ความไม่สบายใจ ความทุกข์ใจ ก็เป็นธรรมที่มีจริงที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่มีตัวตนที่จะไปห้าม หรือ ไปบังคับ เมื่อได้เหตุได้ปัจจัย ก็เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ ไม่ใช่เราเลย เป็นแต่เพียงธรรม และที่สำคัญ เป็นเรื่องของผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่อย่างแท้จริง เพราะผู้ที่หมดทุกข์ใจ หมดโรคทางใจ คือกิเลสแล้ว มีเพียงบุคคลเดียวเท่านั้น คือ พระอรหันต์ ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ..


ความคิดเห็น 5    โดย Pugwaree  วันที่ 14 พ.ค. 2558

กราบขอบพระคุณอาจารย์ทั้งสองมากๆ ค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย peem  วันที่ 14 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย ladawal  วันที่ 14 พ.ค. 2558

กราบอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย ms.pimpaka  วันที่ 14 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย yupa  วันที่ 15 พ.ค. 2558

เป็นธรรมดา เมื่อยังอยู่ในสภาวะที่ดี เช่น สุขกาย สบายใจ ฟังธรรมะ ก็เหมือนเข้าใจว่า ธรรม คือสิ่งที่มีจริง แต่ เมื่อใดมีสิ่งที่ไม่ชอบ มากระทบถูกตัวเรา เราก็ทุกข์ได้ทั้งวัน เพียงแค่คำพูด ที่ไม่น่าฟัง ก็คิดมากไปหลายวัน ซึ่งจริงๆ แล้ว เกิดแล้วก็ดับแล้ว ดิฉันก็เป็น ฟังมานานเป็นสิบปี แต่ก็ยังไม่เข้าใจ แต่ ดีกว่า ไม่ฟัง อย่างที่ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวรเขตต์ กล่าวอยู่เสมอว่า "ฟัง เพื่อ เข้าใจ ไม่ใช่เืพื่ออย่างอื่น"

กราบและขออนุโมทนาในกุศลจิต ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์


ความคิดเห็น 10    โดย ผิน  วันที่ 15 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย Tommy9  วันที่ 15 พ.ค. 2558

สาธุ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 12    โดย wannee.s  วันที่ 16 พ.ค. 2558

โรคบางอย่างรักษาจึงจะหาย โรคบางอย่างไม่รักษาก็หายเอง และ ถ้าเป็นโรคกรรม รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย ทุกอย่างเกิดเพราะกรรมที่ทำเองทั้งดีและไม่ดี ไม่มีใครหนีโรคกรรมได้ แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ทรงได้รับวิบากทางกายไม่สบาย แต่ท่านไม่ทุกข์ใจ เพราะดับกิเลสหมดค่ะ


ความคิดเห็น 13    โดย papon  วันที่ 18 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 14    โดย athisamai  วันที่ 18 พ.ค. 2558

ลองฟังเรื่องของผมเผื่อคุณพี่จะรู้สึกดีขึ้นบ้างครับ

* * * * * * * * * * *

ผมป่วยเป็นโรคไอมาหลายปี ไม่ได้เป็นหวัด ไม่เป็นโรคปอด

ร่างกายอย่างอื่นแข็งแรงหมด ปอดปกติ ความดันปกติ เบาหวานไม่เป็น

ออกกำลังกายประจำ ทานอาหารปลอดสารพิษ ไม่ทานเค็มจัดหวานจัด

แม้กระนั้นก็....... มีอาการไอเป็นเพื่อนไม่ห่างหาย

วันไหนไม่ไอแทบไม่มี ตื่นขึ้นมาไอกลางดึกนี่เป็นปกติเลยครับ

นั่งจิบน้ำอุ่นบ้าง จิบน้ำมะนาวบ้าง เป็นชั่วโมงๆ ถึงนอนได้อีกรอบ

บางวันไอตอนตี 3 จนตี 4 ได้เวลาไปทำงานก็มี

ผมไม่ตีโพยตีพาย ไม่บ่นให้คนข้างๆ เป็นห่วงมากกว่าที่เป็น

ผมพูดติดตลกบ่อยๆ ว่า ตายเมื่อไหร่ก็หายเมื่อนั้นแหละ

ผมยอมรับโดยดุษฎี ว่าเป็นวิบาก (กรรม) ไม่ใช่จะไม่เป็น ไม่บังเอิญ

เวลาไอก็มองว่ารูปมันแปรปรวน ธาตุแปรปรวน ความเจ็บปวดก็รับรู้เป็นเวทนา ไม่ใช่เรา ของเรา

กายก็ทุกข์ไป แต่ใจที่ฝึกมาดีพอควร สติปัญญาทำงาน ทุกข์ทางใจก็เหมือนจะด้อยอานุภาพ

พระบรมศาสดาว่า เกิดแก่เจ็บตายเป็นทุกข์ จริงดั่งพระองค์ว่า

ทัศนะสำคัญที่สุดครับ ทัศนะถูกทุกข์ก็คลายไปได้มากทีเดียวครับ

เอาใจช่วยคุณพี่ครับ


ความคิดเห็น 15    โดย thilda  วันที่ 18 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 16    โดย pornchai  วันที่ 19 พ.ค. 2558

ทุกอย่างเป็นสิ่งเตือนใจได้ทั้งคำถามและคำตอบ เพื่อการเห็นคุณของกุศลและโทษของอกุศล

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 17    โดย napachant  วันที่ 26 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 18    โดย ปัณฑฬะ  วันที่ 28 พ.ค. 2558

ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยคนนะครับ ทุกคนก็มีความเจ็บป่วยเป็นธรรมดาครับ ไม่วันนี้ก็อาจเป็นวันหน้า สำหรับท่านเมื่อเหตุปัจจัยมันดีพร้อม โรคภัยนั้นก็จะหายได้เองนะครับ แต่ต้องไปพบแพทย์นะครับ ขออำนาจพระรัตนตรัยคุ้มครองครับ


ความคิดเห็น 19    โดย Pugwaree  วันที่ 30 ก.ย. 2559

ขอขอบพระคุณจากทุกกำลังใจเลยนะคะ ขอบคุณค่ะ


ความคิดเห็น 20    โดย Jarunee.A  วันที่ 9 พ.ย. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ