ภัยในอนาคต ๕ ประการ (ตติยอนาคตสูตร)
โดย วันชัย๒๕๐๔  21 พ.ค. 2563
หัวข้อหมายเลข 31877

[เล่มที่ 36] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ ๑๙๓

๙. ตติยอนาคตสูตร

ว่าด้วยภัยในอนาคต ๕ ประการ

[๗๙] ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคต ๕ ประการนี้ ยังไม่บังเกิดในปัจจุบัน แต่จะบังเกิดในกาลต่อไป ภัยเหล่านั้น เธอทั้งหลาย พึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้ว พึงพยายามเพื่อละภัยเหล่านั้น ภัยในอนาคต ๕ ประการเป็นไฉน คือ

ในอนาคต ภิกษุทั้งหลาย จักไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา จักให้อุปสมบทกุลบุตรเหล่าอื่น จักไม่สามารถแนะนำแม้กุลบุตรเหล่านั้นในอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา แม้กุลบุตรเหล่านั้น ก็จักไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา ก็จักให้อุปสมบทกุลบุตรเหล่าอื่น จักไม่สามารถแนะนำแม้กุลบุตรเหล่านั้น ในอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา แม้กุลบุตรเหล่านั้นก็จักไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เพราะเหตุดังนี้แล การลบล้างวินัย ย่อมมี เพราะการลบล้างธรรม การลบล้างธรรม ย่อมมี เพราะการลบล้างวินัย ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคตข้อที่ ๑ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยข้อนี้ อันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้ว พึงพยายามเพื่อละภัยนั้น

อีกประการหนึ่ง ในอนาคต ภิกษุทั้งหลาย จักไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา จักให้นิสัยแก่กุลบุตรเหล่าอื่น จักไม่สามารถ แนะนำแม้กุลบุตรเหล่านั้นในอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา แม้กุลบุตรเหล่านั้น ก็จักไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา ก็จักให้นิสัยแก่กุลบุตรเหล่าอื่น จักไม่สามารถแนะนำแม้กุลบุตรเหล่านั้นในอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา แม้กุลบุตรเหล่านั้นก็จักไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เพราะเหตุดังนี้แล การลบล้างวินัย ย่อมมี เพราะการลบล้างธรรม การลบล้างธรรม ย่อมมี เพราะการลบล้างวินัย ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคตข้อที่ ๒ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยข้อนี้ อันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้วพึงพยายามเพื่อละภัยนั้น

อีกประการหนึ่ง ในอนาคต ภิกษุทั้งหลาย จักไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อแสดงอภิธรรมกถา เวทัลลกถา หยั่งลงสู่ธรรมที่ผิด ก็จักไม่รู้สึก เพราะเหตุดังนี้แล การลบล้างวินัย ย่อมมี เพราะการลบล้างธรรม การลบล้างธรรม ย่อมมี เพราะการลบล้างวินัย ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคต ข้อที่ ๓ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยข้อนี้ อันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้ว พึงพยายามเพื่อละภัยนั้น

อีกประการหนึ่ง ในอนาคต ภิกษุทั้งหลาย จักไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา พระสูตรต่างๆ ที่ตถาคตได้ภาษิตไว้ เป็นสูตรลึกซึ้ง มีอรรถลึกซึ้งเป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม เมื่อพระสูตรเหล่านั้น อันบุคคลแสดงอยู่ ก็จักไม่ฟังด้วยดี จักไม่เงี่ยโสตลงสดับ จักไม่ตั้งจิตเพื่อรู้ จักไม่ใฝ่ใจในธรรมเหล่านั้นว่าควรศึกษาเล่าเรียน แต่ว่าสูตรต่างๆ ที่นักกวีแต่งไว้ ประพันธ์เป็นบทกวี มีอักษรสละสลวย มีพยัญชนะสละสลวย เป็นพาหิรกถา เป็นสาวกภาษิต เมื่อพระสูตรเหล่านั้น อันบุคคลแสดงอยู่ ก็จักฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักตั้งจิตเพื่อรู้ จักฝักใฝ่ใจในธรรมเหล่านั้นว่า ควรศึกษาเล่าเรียน เพราะเหตุดังนี้แล การลบล้างวินัย ย่อมมี เพราะการลบล้างธรรม การลบล้างธรรม ย่อมมี เพราะการลบล้างวินัย ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคตข้อที่ ๔ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยข้อนี้ เธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้ว พึงพยายามเพื่อละภัยนั้น

อีกประการหนึ่ง ในอนาคต ภิกษุทั้งหลาย จักไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา ภิกษุผู้เถระ ก็จักเป็นผู้มักมาก มีความประพฤติย่อหย่อน เป็นหัวหน้าในความล่วงละเมิด ทอดธุระในความสงัด จักไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ได้ทำให้แจ้ง ประชุมชนรุ่นหลัง ก็จักถือเอาภิกษุเหล่านั้นเป็นตัวอย่าง แม้ประชุมชนนั้นก็จักเป็นผู้มักมาก มีความประพฤติย่อหย่อน เป็นหัวหน้าในความล่วงละเมิด ทอดธุระในความสงัด จักไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ได้ทำให้แจ้ง เพราะเหตุดังนี้แล การลบล้างวินัย ย่อมมี เพราะการลบล้างธรรม การลบล้างธรรม ย่อมมี เพราะการลบล้างวินัย ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคต ข้อที่ ๕ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยข้อนี้อันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้วพึงพยายามเพื่อละภัยนั้น

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคต ๕ ประการนี้แล ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จะบังเกิดในกาลต่อไป ภัยเหล่านั้น อันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะครั้นแล้วพึงพยายามเพื่อละภัยเหล่านั้น.
จบตติยอนาคตสูตรที่ ๙

อรรถกถาตติยอนาคตสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในตติยอนาคตสูตรที่ ๙ ดังต่อไปนี้ :-

บทว่า ธมฺมสนฺโทสา วินยสนฺโทโส ได้แก่ การเสียวินัย ย่อมมี เพราะเสียธรรม. ถามว่า ก็เมื่อธรรมเสีย วินัย ชื่อว่า เสียอย่างไร ตอบว่า เมื่อธรรมคือสมถวิปัสสนาไม่ตั้งท้อง วินัย ๕ อย่าง ก็ไม่มี. เมื่อธรรมเสียอย่างนี้วินัยก็ชื่อว่าเสีย ส่วนสำหรับภิกษุผู้ทุศีล ชื่อว่าสังวรวินัยไม่มี เมื่อสังวรวินัยนั้นไม่มี สมถะและวิปัสสนา ก็ไม่ตั้งท้อง. การเสียธรรม แม้เพราะเสียวินัย ก็พึงทราบโดยนัยอย่างนี้.

บทว่า อภิธมฺมกถํ ได้แก่ กถาว่าด้วยธรรมสูงสุด มีศีลเป็นต้น.

บทว่า เวทลฺลกถํ ได้แก่ กถาเจือด้วยญาณที่ประกอบด้วยความรู้.

บทว่า กณฺหํ ธมฺมํ โอกฺกมมนา ได้แก่ ก้าวลงสู่กรรมฝ่ายดำ โดยการแสวงหาด้วยการแข่งดี เพราะแส่หาความผิดเขา. อนึ่ง ภิกษุทั้งหลาย กระทบบุคคลด้วยจิตคิดร้ายก็ดี สร้างกรรมฝ่ายดำนั้น สำหรับตนก็ดี กล่าวเพื่อลาภสักการะก็ดี ชื่อว่า ก้าวลงสู่ธรรมฝ่ายดำเหมือนกัน.

บทว่า คมฺภีรา ได้แก่ ลึกโดยบาลี.

บทว่า คมฺภีรตฺถา ได้แก่ ลึกโดยอรรถ.

บทว่า โลกุตฺตรา ได้แก่ แสดงโลกุตรธรรม.

บทว่า สุญฺญตปฏิ สงฺยุตฺตา ได้แก่ ประกอบด้วยขันธ์ ธาตุ อายตนะ และปัจจยาการ.

บทว่า น อญฺญาจิตฺตํ อุปฏฺฐเปสฺสนฺติ แปลว่า จักไม่ตั้งจิตไว้เพื่อรู้.

บทว่า อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพํ ได้แก่ พึงศึกษา พึงเล่าเรียน.

บทว่า กวิกตา ได้แก่ ที่กวีแต่งโดยผูกเป็นโศลกเป็นต้น.

บทว่า กาเวยฺยา เป็นไวพจน์ของคำว่า กวิกตา นั้นนั่นแหละ.

บทว่า พาหิรกา ได้แก่ ที่ตั้งอยู่ภายนอกพระศาสนา.

บทว่า สาวกภาสิตา ได้แก่ ที่สาวกภายนอก [พระศาสนา] กล่าวไว้. คำที่เหลือในสูตรนี้ มีความง่ายทั้งนั้น เพราะมีนัยที่กล่าวไว้แล้วในหนหลัง และเพราะรู้ได้ง่าย

จบ อรรถกถาตติยอนาคตสูตรที่ ๙



ความคิดเห็น 1    โดย เฉลิมพร  วันที่ 21 พ.ค. 2563

เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย Selaruck  วันที่ 23 พ.ค. 2563

คือสิ่งเป็นไปในขณะนี้

กราบขอบคุณและอนุโมทนายิ่งค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย chatchai.k  วันที่ 29 พ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 4    โดย ประสาน  วันที่ 6 มิ.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ