ทรัพย์
โดย Kuat639  8 เม.ย. 2563
หัวข้อหมายเลข 31715

ทรัพย์คืออะไรครับ สินทรัพย์คืออะไร



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 9 เม.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ทรัพย์ คือ เครื่องปลื้มใจ อะไรก็ตามที่นำมาซึ่งสุขโสมนัส ความปลื้มใจ ชื่อว่าเป็นทรัพย์ เงินทอง รูป เสียง กลิ่น รส สิ่งที่กระทบสัมผัส ที่ดี ก็เป็นทรัพย์ แต่ทรัพย์เหล่านี้ไม่ประเสริฐ เพราะเกิดขึ้นและดับไป ไม่เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส ทรัพย์สินเงินทอง ไม่สามารถยังปัญญาให้เกิดได้ แต่กลับทำให้คนที่เป็นปุถุชน มัวเมาติดข้อง เดือดร้อน ขวนขวายด้วยความติดข้องพอใจ และก็ไม่พ้นไปจากทุกข์

เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าทรงแสดงความจริงในทรัพย์ที่ประเสริฐว่า พระองค์ไม่ได้ปฏิเสธทรัพย์สินเงินทอง ทรัพย์นั้นมีอยู่ แต่ ทรัพย์ที่ประเสริฐ นำมาซึ่งความปลื้มใจ ที่ทำให้เข้าใจถูกว่าไม่ใช่เราเป็นธรรม เบาใจด้วยปัญญา คือ คุณธรรมความดีประการต่างๆ อันมีรากฐานจากปัญญาความเข้าใจถูก มี ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญา เป็นต้น

ข้อความบางตอนจาก

อุคคสูตร

พระพุทธเจ้าตรัสว่า ดูก่อนอุคคะ ทรัพย์นั้นมีอยู่แล เรามิได้กล่าวว่าไม่มี แต่ทรัพย์นั้นแลเป็นของทั่วไปแก่ไฟ น้ำ พระราชา โจร ทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก ดูก่อนอุคคะ ทรัพย์ ๗ ประการนี้แล ไม่ทั่วไปแก่ไฟ น้ำ พระราชา โจร ทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก ๗ ประการเป็นไฉน คือ ทรัพย์ คือ ศรัทธา ๑ ศีล ๑ หิริ ๑ โอตตัปปะ ๑ สุตะ ๑ จาคะ ๑ ปัญญา ๑

ดูก่อนอุคคะ ทรัพย์ ๗ ประการนี้แล ไม่ทั่วไปแก่ไฟ น้ำ พระราชา โจร ทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก. ทรัพย์ คือ ศรัทธา ศีล หิริ โอตตัปปะ สุตะ จาคะ และปัญญาเป็นที่ ๗ ทรัพย์เหล่านี้ มีแก่ผู้ใด เป็นหญิงหรือชายก็ตาม เป็นผู้มีทรัพย์มากในโลก อันอะไรๆ พึงผจญไม่ได้ในเทวดา


และ รัตนะ คือ ทรัพย์เครื่องปลื้มใจที่ประเสริฐ คือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ เหล่านี้นำมาซึ่งความปลื้มใจที่ไม่มีกิเลส เพราะได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า ปัญญาความเข้าใจที่เกิดขึ้น ย่อมยังกิเลสทั้งหลาย ค่อยๆ ละคลาย และ กุศลเหล่านั้นก็ติดตามไปได้ ไม่เหมือนทรัพย์คือ เงินและทอง บุตร ภรรยา เป็นต้น ที่นำไปไม่ได้และนำมาซึ่งความติดข้องครับ

[เล่มที่ 47] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖- หน้าที่ 2

ข้อความบางตอนจาก

รัตนสูตร

ทรัพย์เครื่องปลื้มใจอย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้หรือในโลกอื่นหรือรัตนะใด อันประณีตในสวรรค์ ทรัพย์และรัตนะนั้นเสมอด้วยพระตถาคตไม่มีเลยพุทธรัตนะแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีตด้วยสัจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้


ขณะนี้กำลังแสวงหาทรัพย์ที่ประเสริฐ คือ ความเข้าใจถูกที่จะสะสมไปในโลกหน้าและจะได้รับประโยชน์อย่างยิ่ง คือ การดับกิเลสได้ ครับ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 9 เม.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ เล่ม ๒ ภาค ๒
- หน้าที่ ๔๕

รัฏฐปาลสูตร

ท่านพระรัฏฐปาละ ได้กล่าวคาถาประพันธ์ นี้ว่า
พวกญาติ นำเอาผู้นั้น (ซึ่งตายไป) คลุมด้วยผ้าไป ยกขึ้นเชิงตะกอน แต่นั้น ก็ทำการเผา ผู้นั้น เมื่อกำลังลูกเขาเผา ถูกแทงอยู่ด้วยหลาว มีแต่ผ้าผืนเดียว ละโภคสมบัติไป ญาติก็ดี มิตรก็ดี หรือ สหายทั้งหลาย เป็นที่ต้านทานของบุคคลผู้จะตาย ไม่มี ทายาททั้งหลาย ก็ขนเอาทรัพย์ของผู้นั้นไป ส่วนสัตว์ ย่อมไปตามกรรมที่ทำไว้ ทรัพย์อะไรๆ ย่อมติดตามคนตายไปไม่ได้

(พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ รัฏฐปาลสูตร)


ทรัพย์ เมื่อกล่าวโดยประเภทใหญ่ๆ แล้ว มีอยู่ ๒ ประเภท คือ ทรัพย์ภายนอก และทรัพย์ภายใน

ทรัพย์ภายนอก เช่น ทรัพย์สิน เงิน ทอง เป็นต้น ไม่มีความมั่นคง ไม่มีความปลอดภัย อาจจะถูกแย่งชิง หรืออาจจะเสื่อมสูญวันใดวันหนึ่งก็ได้ ไม่ได้เป็นที่พึ่งสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของทรัพย์ (ภายนอก) อย่างแท้จริง บางครั้งบางคราวยังอาจจะเป็นเหตุนำอันตรายมาให้แก่ผู้ที่เป็นเจ้าของเสียอีก แต่ทรัพย์ภายใน คือ คุณความดีประการต่างๆ รวามถึงการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาสะสมปัญญาซึ่งเป็นความเข้าใจถูก เห็นถูกในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง เป็นทรัพย์ที่มีความมั่นคง มีความปลอดภัย ใครๆ ก็ลักไปไม่ได้ เป็นที่พึ่งได้อย่างแท้จริง เป็นสิ่งที่จะติดไปตนไปในภพหน้า พร้อมทั้งยังเป็นเหตุอำนวยผลที่น่าปรารถนาได้ทุกอย่าง ครับ
...ยินดีในความดีทุกของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 3    โดย chatchai.k  วันที่ 23 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ