ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษา และพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๗๓๙
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ไม่ได้สามารถจะบันดาลให้ใครรู้ตามได้ แต่ทรงแสดงความจริงให้ฟังและไตร่ตรอง ก่อนจะทรงแสดงพระธรรม พระองค์ตรัสว่าจงฟัง จงใส่ใจให้ดี จงฟังยังไม่พอ ยังต้องจงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจักกล่าวคำที่พระองค์ได้ตรัสรู้แล้ว เพราะฉะนั้น จงฟัง จงใส่ใจให้ดี เหมือนเดี๋ยวนี้เลย สิ่งที่มีจริง เป็นธรรม เปลี่ยนไม่ได้
~ เข้าใจพระธรรม จากการฟังก็จะเป็นการสะสมให้ความเข้าใจนั้นเพิ่มขึ้น เพราะว่าใครก็ไม่สามารถทำให้ปัญญาเกิดขึ้นได้ นอกจากการได้ยินได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไตร่ตรองจนกระทั่งมีความเข้าใจเพิ่มขึ้น
*** ~ รู้ว่าธรรม ยาก ลึกซึ้ง ก็ฟังต่อไป พิจารณาต่อไป เพราะไม่มีใครจะไปทำให้ปัญญาความเข้าใจเกิดขึ้นมากกว่านี้ได้ นอกจากแต่ละครั้งที่ได้ฟังแล้ว เป็นผู้ตรง เข้าใจแค่ไหนก็ตามเหตุตามปัจจัย จึงฟังอีก เพราะถ้าไม่ฟังอีก ก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจมากกว่านี้ได้***
~ กว่าจะหมดความไม่รู้และการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ใช่หวัง แต่ต้องด้วยการเข้าใจที่เพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อยซึ่งเป็นการละความไม่รู้ทีละเล็กทีละน้อย จนกว่าความไม่รู้นั้นจะหมด
~ สิ่งที่เพียงปรากฏให้เห็นว่ามีแล้วก็หมดไป ไม่เหลืออีกเลย ควรติดข้องในสิ่งนั้นไหม? ต้องจากโลกนี้ไป ไม่มีอะไรติดตามไปสักอย่าง ร่างกายที่เข้าใจว่าเป็นของเราก็ติดตามไปไม่ได้ แล้วนี่หรือจะเป็นของเรา เพราะความจริง ไม่มีเรา แต่มีสิ่งที่มีจริงๆ ซึ่งมีปัจจัยปรุงแต่งให้เกิดขึ้นแล้วก็หมดไปๆ
~ จะรู้ได้ว่าใครเห็นผิดระดับไหน อย่างไร ก็เพราะการกระทำและวาจาของเขานั่นแหละ เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเขาเห็นผิดมากน้อยแค่ไหน
~ ถ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงแสดงไว้ เราจะไม่รู้เลยว่าความไม่รู้มากมายมหาศาล เพียงแค่ลืมตา ก็ไม่รู้แล้ว กิเลสก็เกิดแล้วด้วยก็ไม่รู้
~ เห็นคุณของพระธรรมว่าอนุเคราะห์ให้ชีวิตทั้งชีวิตซึ่งเกิดมานานแสนนานในสังสารวัฏฏ์ได้มีโอกาสได้รู้ความจริงซึ่งยากที่จะรู้ เมื่อรู้แล้วก็เห็นประโยชน์อย่างยิ่ง ไม่ได้เบื่อหน่าย ไม่ได้ท้อถอย แต่รู้ว่าชีวิตควรจะดำเนินไปอย่างไร ที่ขาดไม่ได้คือการที่จะได้เข้าใจธรรม เท่าที่จะมีโอกาสตามเหตุตามปัจจัย ทำความดีทุกขณะที่สามารถจะกระทำได้ อย่างนั้นก็จะเป็นผู้ที่ได้กระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ กับการที่มีโอาสได้ยินได้ฟังธรรม
~ เคยโกรธใคร จะไม่ให้อภัยคนนี้แล้ว แต่ธรรมเตือนใจมาแล้ว ความโกรธเป็นธรรม ไม่ใช่เรา เป็นอกุศล เกิดแล้วจะสะสมสืบต่อไปทุกชาติ เพราะฉะนั้น ขณะนั้น อภัยเลยทันทีหรือยัง?
~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ล้ำค่าเพราะสามารถที่จะทำให้สภาพธรรมที่เป็นอกุศล ค่อยๆ เบาบางลงจนกระทั่งสามารถเป็นผู้ที่ไวในกุศล
~ ไม่สะสมกิเลสมากๆ อย่างเดิมเหมือนเดิม เอาไปทำไมกิเลส เพราะกิเลสเป็นโทษกับตนเอง นำไปนรก
~ ให้รู้ว่าขณะใดที่เข้าใจ ประโยชน์มหาศาล คือ ขณะนั้น ละความไม่รู้และความติดข้อง
*** ~ ไม่มีอย่างอื่นใดทั้งสิ้นที่จะกล้าสู้กับกิเลสหรือจะทำลายกิเลสได้ นอกจากความเข้าใจทีละเล็กทีละน้อยตามความเป็นจริง ไม่ลืมกำลังของปัญญา แต่ต้องมีปัญญา ไม่ใช่ไม่มีปัญญาแล้วไปคิดถึงกำลังของปัญญา***
~ เจริญกุศลทุกประการ เพื่อที่จะขัดเกลาอกุศล ด้วยความจริงใจที่จะละคลายอกุศล ไม่ใช่ต้องการหรือปรารถนาสิ่งอื่น นี่คือผู้เห็นคุณของพระธรรมและเห็นโทษของอกุศล และก็รู้ว่าสิ่งที่ควรเจริญในชาตินี้คือปัญญา เพราะเหตุว่าสิ่งอื่นไม่สามารถจะติดตามไปได้ ทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มีอยู่ ก็ติดตามไปไม่ได้ แต่ปัญญาความเข้าใจพระธรรมจากชาติหนึ่งไปอีกชาติหนึ่ง ก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น
~ ถ้าเป็นผู้ที่ยังไม่ได้ฟังพระธรรม ยังไม่ได้พิจารณาพระธรรม ยังไม่ได้อบรมเจริญปัญญา ก็ลองคิดดูว่าชาตินี้ทั้งชาติจะจบลงอย่างไร ก็ต้องจบลงด้วยกิเลสที่หนาขึ้นๆ ทุกวัน แต่ถ้ามีโอกาสได้ฟัง ละคลายความไม่รู้ อบรมเจริญกุศลทุกประการเพิ่มขึ้น ก็เป็นชาติที่มีประโยชน์ เมื่อกระดูกทุกชิ้นยังรวมกันอยู่ ยังไม่กระจัดกระจาย ก็ควรที่จะให้เป็นประโยชน์ ในการที่จะได้เกิดปัญญาเพิ่มขึ้น
~ ถ้าไม่มีความเข้าใจว่าบุญคือการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์และขัดเกลากิเลสของตนเอง ก็ไปทำสิ่งที่ไม่ใช่บุญ แต่หลงเข้าใจว่าเป็นบุญ
~ ทุกอย่างเกิดแล้วดับไปไม่กลับมาอีก เพราะฉะนั้น จะเป็นเราหรือจะเป็นของใครไม่ได้ ข้อสำคัญ คือ ต้องเกิดอีก ต้องมีคนใหม่ที่มาจากคนนี้ ดีชั่วอย่างไรที่ได้สะสมไว้ในชาตินี้ และในชาติก่อนๆ ก็จะติดตามสืบต่อไป เป็นคนต่อไป เพราะฉะนั้น ถ้าเห็นโทษของความไม่ดี ชาตินี้ก็เป็นคนดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ ด้วยการเข้าใจธรรมเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย
~ ไม่โกรธ เป็นบุญไหม? แค่นี้ก็ต้องรู้ว่า บุญคือขณะที่จิตไม่ประกอบด้วยอกุศลเจตสิกนั่นเอง
~ ไม่โกรธใครก็เป็นบุญ ไม่ริษยาใครก็เป็นบุญ ไม่กลั่นแกล้งใครก็เป็นบุญ อภัยให้ใครก็เป็นบุญ
~ ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญพระบารมีกว่าจะมีแต่ละคำให้เราได้เข้าใจ เพื่อตัวเราที่จะไม่เป็นอกุศล ไม่โกรธ ไม่โลภ ไม่หลงสารพัดอย่างตั้งแต่เล็กน้อยที่สุดจนถึงใหญ่ที่สุด การฟังพระธรรม ก็เป็นบุญ เพราะฉะนั้น ก็จะเห็นได้ว่า ความดี ถ้าเข้าใจ เมื่อไหร่ก็เกิดได้ คิดดีกับคนอื่นได้ไหม? แค่นั้นก็เป็นบุญ ไม่ใช่คิดร้ายกับคนอื่น
~ พูดดี เป็นบุญไหม? จากเคยนิสัยที่พูดไม่ดี พอเห็นโทษของการพูดไม่ดี ขณะที่พูดไม่ดี เป็นอกุศล ซึ่งทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย ขณะที่ไม่พูดคำที่ไม่ดี ก็เป็นบุญ
~ ข้าศึกศัตรูคือกิเลส ถูกปราบด้วยปัญญา
~ เมื่อถึงคราวที่จุติจิตจะเกิดขึ้นเคลื่อนจากความเป็นบุคคลนี้ (ตาย) ก็เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย มีเงินทองมากมายมหาศาล หรือจะมีแพทย์สักกี่คน ก็ไม่สามารถทำให้ไม่ตายได้ และเมื่อสิ้นสุดความเป็นบุคคลนี้แล้ว จะไม่สามารถย้อนกลับมาเป็นบุคคลนี้ได้อีกเลย
~ ตราบใดยังเห็นประโยชน์ เห็นคุณค่าของพระธรรม แม้ว่าชาตินี้อาจจะได้เข้าใจธรรมขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ถูก ต่อไปข้างหน้าก็จะไม่หลงผิด ไม่ไปทางผิด และรู้ว่าสามารถอบรมเจริญปัญญาต่อไปได้
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อนเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นใคร? เป็นเจ้าชายสิทธัตถะ สละทุกอย่างหมด ทำไมล่ะ? ประโยชน์สูงสุดมีค่าที่สุดในชีวิต คือ รู้ความจริงแล้วให้คนอื่นได้รู้ด้วย นั่นแหละเป็นชีวิตที่มีค่า
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๗๓๘


... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอน้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ
ธรรมมีมานัสพร้อม รับฟัง
อันเกิดกุศลดัง ธาตุรู้
จิตเจตสิกเป็นพลัง เสริมส่ง หนุนแฮ
กราบอาจารย์สุจินต์ผู้ เปี่ยมด้วยเมตตา
ตราบใดยังเห็นประโยชน์ เห็นคุณค่าของพระธรรม แม้ว่าชาตินี้อาจจะได้เข้าใจธรรมขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ถูก ต่อไปข้างหน้าก็จะไม่หลงผิด ไม่ไปทางผิด และรู้ว่าสามารถอบรมเจริญปัญญาต่อไปได้
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ
น้อมกราบบูชาคุณพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า
กราบท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
กราบอนุโมทนาในกุศลทุกประการค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ