ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาต แบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมในแต่ละครั้งรวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
[ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๐] *
[1] ธรรมทั้งหมดที่เป็นฝ่ายกุศลธรรม เป็นห้วงน้ำที่ไม่มีเปือกตม เพราะสามารถที่จะชำระขัดล้างบาปธรรมซึ่งเป็นเหงื่อไคลและมลทินออกได้ ส่วน ศีล เป็นเครื่องลูบไล้ ซึ่งมีกลิ่นหอมไม่รู้จักหาย ไม่เป็นที่รังเกียจของใครเลย บุคคลผู้มีศีลอยู่ใกล้ใคร จะไม่มีบุคคลใดรังเกียจ
[2] คำพูดที่แสดงถึงความสำคัญตน ย่อมเกิดจากอกุศลจิตที่ตรงกันข้ามกับสภาพจิตใจที่อ่อนโยน มีเมตตา มีความเป็นเพื่อน อย่างสิ้นเชิง
[3] บุคคลผู้มีโลภะมากๆ ติดข้องมากๆ ย่อมไม่รู้จักคำว่าพอ ถึงแม้ภูเขาจะเป็นทองคำ ก็ยังไม่พอแก่กำลังของโลภะของผู้นั้น
[4] จะต้องมีชาติหน้า ก็เพราะเหตุว่าชาตินี้ยังมีโลภะอยู่ คนที่ไม่มีโลภะเท่านั้นที่จะไม่มีภพใหม่
[5] ข้อสำคัญที่สุด ควรจะเห็นข้าศึกภายใน คือ ความโกรธของตนเอง แทนที่จะคิดว่า ท่านมีศัตรูหลายคน หรือว่าอาจจะมีคนที่ไม่ชอบท่าน ทำสิ่งที่ไม่ดีกับท่านหลายคน แต่ตามความเป็นจริงแล้ว ข้าศึกที่แท้จริงอยู่ภายใน คือ ความโกรธของท่านเอง
[6] ในขณะที่คิดมุ่งร้ายต่อผู้อื่น ตนเองย่อมเดือดร้อนก่อน
[7] จิตใจของเราเศร้าหมอง ที่ใช้คำว่า “เศร้าหมอง” ในทีนี้ หมายความว่า ไม่สะอาด สกปรก เต็มไปด้วยอกุศล
[8] อุตส่าห์มาฟังพระธรรม แล้วยังไปคิดถึงเรื่องอื่น
[9] สิ่งที่มีจริงในขณะนี้ คือ สิ่งที่มีจริงๆ
[10] จริงที่สุด คือ ปรมัตถธรรม
[11] การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม มีความเข้าใจอย่างถูกต้อง ทำให้พ้นจากการคิดธรรมเอาเอง สิ่งที่ทำให้ผิดปกติ คือ ความเห็นผิดและความไม่รู้
[12] เกิดมาในโลกนี้ ด้วยความไม่รู้ แล้วยังจะไม่รู้ต่อไปอีกหรือ?
[13] ที่สุดของความไม่รู้ คือ จมอยู่ในสังสารวัฏฏ์อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
[14] ที่สุดของความรู้ คือ ละความไม่รู้ได้อย่างหมดสิ้น
[15] ขณะที่อกุศลจิตเกิดขึ้น เหมือนอยู่ในบ้านของศัตรู เลี้ยงดูศัตรูให้อิ่มหนำสำราญ
[16] กิเลส เป็น ศัตรู / ไม่มีศัตรู คือ ไม่มีกิเลส
[17] สิ่งที่ทำให้ผิดปกติ คือ ความเห็นผิดและความไม่รู้
[18] อบายภูมิ มี นรก เป็นต้น มีจริง แต่ว่าใครจะไปเกิดเมื่อไร ไม่ทราบ แต่มี เพราะฉะนั้น กิเลสทั้งหลายเมื่อสำเร็จลง กรรมที่ได้กระทำแล้ว ชื่อว่ามีภูมิที่ได้แล้ว เพราะเมื่อถึงคราวที่อกุศลกรรมให้ผล ก็ทำให้เกิดในอบายภูมิ มีนรก เป็นต้น ได้
[19] บุคคล ผู้มากไปด้วยอกุศล พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงอกุศลธรรม เพื่อให้เข้าใจว่าเป็นอกุศล มีมากอย่างนี้แล้วจะบรรเทาอกุศลได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่ด้วยปัญญา
[20] กิเลส เป็นภัย สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย มาจากกิเลสทั้งหมด
[21] ปลูกฝังความมั่นคง ด้วยความเป็นผู้ตรงต่อพระธรรม
[22] ถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจจริงๆ ก็พูดคำที่ไม่รู้จักตั้งแต่เกิดจนตาย
[23] เวลาเห็นคนอื่นทำความดี แล้ว (คิด) อย่างไร จะปล่อยให้คนอื่นดีไป หรือว่าเราก็ควรจะเป็นคนดีอย่างเขาด้วย
[24] กำลังของกุศลเท่านั้น ที่จะทำให้ทุกอย่างดำเนินไปในทางที่ดี
[25] พระธรรมเป็นสิ่งที่ประเสริฐ ศึกษาต่อไปเถิด
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ ๑๙ ได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๙
... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
[หมายเหตุ : เป็นกระทู้ที่ตั้งซ้ำใหม่ เนื่องจากข้อมูลได้หายไปครับ]
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาอาจารย์คำปั่นและทุกท่านครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
...ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย...
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ

หนังใหญ่ วัดขนอน จังหวัดราชบุรี
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอน้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ธรรมมีมานัสพร้อม รับฟัง อันเกิดกุศลดัง ธาตุรู้ จิตเจตสิกเป็นพลัง เสริมส่ง หนุนแฮ กราบอาจารย์สุจินต์ผู้ เปี่ยมด้วยเมตตา
ยินดีในกุศลจิตค่ะ ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ