เห็นโทษเห็นภัยของกิเลส
โดย nattawan  12 พ.ค. 2568
หัวข้อหมายเลข 49910

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สุ. เรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มีข้อที่น่าคิดอย่างหนึ่งว่า ท่านที่ทำความดี ท่านทำเพราะอยากจะได้ผลดี หรือว่าท่านทำดีเพื่ออะไร หรือเพราะอะไร นี่เป็นสิ่งที่ น่าคิด

ถ้าทุกคนในโลกนี้ทำดีเพื่อหวังผล คือ หวังที่จะได้สิ่งตอบแทนที่ดี ในขณะที่หวังจะได้สิ่งตอบแทนที่ดี ขณะนั้นไม่ใช่กุศลจิตแน่ เพราะยังเต็มไปด้วยความหวัง ความติด ความต้องการ

เพราะฉะนั้น คนที่ทำความดี ก็น่าจะจำแนกออกไปอีกว่า ความดีนั้นดีแท้ๆ คือ ทำดีโดยไม่หวังผลตอบแทน หรือว่าทำดีเพราะต้องการผลตอบแทน และ ระหว่างบุคคล ๒ คนนี้ คิดดู อยากจะเป็นบุคคลไหน คือ เป็นคนที่ทำดีโดยไม่หวัง ผลตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น กับเป็นคนที่ทำดีเพราะหวังว่าจะได้สิ่งตอบแทน

ตราบใดที่ทำดีและหวังผล ได้รับผลดีแน่จากการทำดีนั้น เพียงแต่ว่าจะช้า หรือเร็วเท่านั้นเอง แต่ไม่ใช่ว่าสิ่งที่เราทำไปในวันนี้ซึ่งเป็นเหตุจะทำให้เกิดผลได้ทันที เพราะว่าไม่มีกรรมอะไรที่ให้ผลเร็วอย่างนั้น นอกจากโลกุตตรธรรม คือ เมื่อมรรคจิตเกิดดับไปแล้วผลจิตเกิดสืบต่อทันที หรือสำหรับผู้ที่มีโอกาสพบพระอรหันต์หรือ พระอนาคามีที่ออกจากนิโรธสมาบัติ และมีโอกาสได้ทำกุศลกับท่าน ก็จะได้รับผลภายใน ๗ วัน

รู้สึกว่าทุกคนพอใจที่จะได้ผลเร็วอย่างนั้น คือ ได้ผลเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี แต่ ในพระไตรปิฎกแสดงว่า ผล ๗ วันที่ได้รับนั้นไม่ใช่ผลมาก ผลมากจริงๆ ต้องเป็น การเกิดในชาติต่อไป ซึ่งจะทำให้เป็นผู้มีอายุยืน มีวรรณะ มีสุข มีพละ คือ เกิด ในสวรรค์ ซึ่งจะมีอายุยาวนานกว่าโลกมนุษย์ และมีสิ่งที่น่ารื่นรมย์กว่าในโลกมนุษย์ แต่ว่าคนไม่พอใจที่จะคอย ที่จะอดทน เพราะฉะนั้น ก็คิดว่าการได้ผลใน ๗ วันนั้นพอแล้ว เพราะทำให้เป็นเศรษฐีมั่งมีขึ้นมาอย่างทันตา นั่นคือการหวังผลของกุศล

แต่ที่ถูกแล้วน่าจะคิดว่า ความดีจริงๆ ต้องเป็นการทำโดยไม่หวังผล มิฉะนั้นเป็นผู้ที่ยังมีกิเลสมาก จนกระทั่งแม้ทำความดีแล้วก็ยังไม่พ้นบ่วงของกิเลส คือ ยังมีกิเลสติดตาม คอยหวัง คอยรอผลของกรรมดีนั้น ซึ่งถ้าเป็นในลักษณะนั้น ไม่มีวัน ที่จะหมดกิเลส

เพราะฉะนั้น ผู้ที่ต้องการหมดกิเลสจริงๆ เพราะเห็นโทษเห็นภัยของโลภะ ของโทสะ ของโมหะ ย่อมกระทำดีโดยไม่หวังผล แม้ว่ากรรมดีนั้นถึงอย่างไรก็ต้องให้ผล แต่ก็ไม่ได้ทำเพราะความหวังในผล ซึ่งย่อมดีกว่า เพราะไกลจากบ่วงของกิเลส

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 1717

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 12 พ.ค. 2568

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ