มิตรคฤหัสถ์ ๑ มิตรบรรพชิต ๑
โดย บ้านธัมมะ  6 ก.ย. 2565
หัวข้อหมายเลข 43712

ในสูตรนี้ อธิบายคำว่า มิตร ว่ามิตรมี ๒ จำพวก คือ มิตรคฤหัสถ์ ๑ มิตรบรรพชิต ๑ มิตรคฤหัสถ์นั้น ย่อมให้ของซึ่งให้กันยาก ย่อมสละของที่สละกันยากทำกิจที่ทำกันยาก อดทนอารมณ์ที่อดทนกันยาก บอกความลับแก่มิตร ปิดบัง ความลับของมิตร ไม่ละทิ้งในคราวที่มีอันตราย ถึงชีวิตก็ยอมสละเพื่อประโยชน์แก่มิตร เมื่อมิตรยากจนก็ไม่ดูหมิ่น ส่วนลักษณะของมิตรบรรพชิตนั้น ก็อธิบายไว้ว่า ภิกษุเป็นที่เคารพ เป็นผู้ควรแก่การสรรเสริญ เป็นผู้อดทนถ้อยคำ เป็นผู้ทำถ้อยคำลึก ย่อมไม่ชักชวนในเหตุอันไม่ควร ย่อมชักชวนแต่อธิศีลในการขวนขวายบำเพ็ญสติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ ย่อมชักชวนในการขวนขวายบำเพ็ญอริยมรรค์มีองค์ ๘ นี้ชื่อว่ามิตรบรรพชิต

สำหรับลักษณะของคนที่มีใจดี ก็มีคำอธิบายว่า การไปสบาย มาสบาย การยืนสบาย นั่งสบาย นอนสบาย พูดสบาย เจรจาสบาย สนทนาสบาย ปราศรัยสบายกับบุคคลใด บุคคลนั้นท่านกล่าวว่า คนที่มีใจดี และในพยัญชนะข้างต้นก็แสดงไว้แล้วว่า บุคคลเมื่ออนุเคราะห์พวกมิตรและพวกที่มีใจดี การอนุเคราะห์ท่านก็จะสังเกตุได้ว่า ท่านย่อมอนุเคราะห์มิตรและผู้ที่มีใจดี เพราะเหตุว่า ผู้ใดที่เป็นมิตร ผู้นั้นก็ย่อมรับการอนุเคราะห์ หรือว่าคนที่มีใจดีก็ย่อมจะง่ายแก่การที่จะอนุเคราะห์ด้วย ไม่เหมือนกับผู้ที่ไม่ใช่มิตรแล้ว ก็ผู้ที่ไม่ใช่คนใจดี การอนุเคราะห์ก็อนุเคราะห์กันยากทั้งผู้ที่จะอนุเคราะห์และผู้ที่จะรับการอนุเคราะห์ด้วย แต่ถ้าผู้ใดเป็นมิตรกันก็อนุเคราะห์กันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทั้งมิตรคฤหัสถ์ และมิตรบรรพชิต หรือว่าคนที่มีใจดีก็ตาม ก็ย่อมจะมีเหตุการณ์ที่จะทำให้อนุเคราะห์กันเสมอ แต่ต้องระวังในการอนุเคราะห์นั้น อย่าให้ประโยชน์เสื่อมไป การอนุเคราะห์ควรจะเป็นสิ่งที่ดีแน่นอนทีเดียว การให้ การอนุเคราะห์ การสงเคราะห์ให้คนอื่นได้รับความสะดวกสบายนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ควรกระทำ แต่ว่าเมื่อจะกระทำก็ควรที่จะไม่ให้ประโยชน์เสื่อมไปด้วย

สำหรับประโยชน์ที่เสื่อมนั้น ก็มีข้อความอธิบายไว้ว่า ได้แก่ประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่น ประโยชน์ทั้งสอง ประโยชน์ชาตินี้ชาติหน้า และประโยชน์อย่างยิ่ง เสื่อมไป อันตธานไป ที่ประโยชน์จะเสื่อมนั้น ก็ต้องเป็นอกุศล ที่อกุศลจะเกิดขึ้นในการ อนุเคราะห์สงเคราะห์นั้น ท่านแสดงว่า ย่อมเป็นผู้มีจิตผูกพัน และในพระสูตรนี้ก็อธิบายว่า การเป็นผู้มีจิตผูกพัน นั้น มีด้วยเหตุ ๒ อย่าง คือ ๑ เมื่อตั้งตนไว้ต่ำ ๑ ตั้งคนอื่นไว้สูง ๑ ประการที่ ๒ เมื่อตั้งตนไว้สูง ๑ ตั้งคนอื่นไว้ต่ำ ๑ เพราะฉะนั้น เวลาให้เวลารับ ก็อาจจะมีความรู้สึกผูกพันว่า ตนเองต่ำบ้าง คนอื่นสูงบ้าง หรือว่าตนเองสูง คนอื่นต่ำบ้าง ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 28 - ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 29

รับฟัง ... ขัคควิสาณสุตตนิทเทส