จริงใจในการเข้าใจความจริง
โดย บ้านธัมมะ  19 พ.ค. 2565
หัวข้อหมายเลข 43128

真誠的去瞭解真相

จริงใจในการเข้าใจความจริง


問: 當我們聽到 “什麼正在出現” 時就直覺性的去尋覓那是 “什麼” ,可是又尋不到,就放棄不找了。

ผู้ถาม: ในขณะที่เราได้ยินคำว่า "อะไรกำลังปรากฏ" โดยความเคยชินเราก็จะไปหาว่า"อะไร" แต่ก็หาไม่เจอว่า ก็เลยยอมปล่อย ไม่หาแล้ว

Ajhan Sujin: 現在什麼正在出現? 要很誠實的正視那個真相,瞭解現在這一刻正在出現的法是要依靠“誠實波羅蜜” 真心誠意的正視真相,現在在那裡出現的是什麼? 倘若沒有眼識去看,會有什麼被看到嗎? 在那裡正在出現的是真的還是不是真的? 都是要依據佛陀所說的話來瞭解真相是不是這樣子。 現在就有 “在看”,也有什麼被看到,那麼佛陀對這個說了什麼? 佛陀是因為開悟了,瞭解了真相,所以佛陀就告訴我們真相,是什麼在看,是什麼被看到。 當無明生起的那一刻真相是不可能被知道,只有智慧才可以知道或瞭解那個真相。 因此,我們把這些真相當作是我的在看,是我的看到。

อ.สุจินต์: เดี๋ยวนี้ อะไรกำลังปรากฏ? ต้องเป็นผู้ที่ตรงต่อความจริงอันนั้น การเข้าใจในสิ่งที่กำลังปรากฎเดี๋ยวนี้ ขณะนี้ต้องอาศัย "สัจจบารมี" มีความจริงใจที่ตรงต่อความจริง เดี๋ยวนี้ สิ่งที่กำลังปรากฏคืออะไร? ถ้าไม่มีจิตเห็น จะมีสิ่งที่ถูกเห็นได้ไหม? สิ่งที่กำลังปรากฏเป็นสิ่งที่จริงหรือว่าเป็นสิ่งที่ไม่จริง? ทั้งหมดต้องอาศัยคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าอย่างไร "เห็น" มีอยู่เดี๋ยวนี้ และมีสิ่งที่ถูกเห็น แล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกล่าวถึงสิ่งนี้ไว้ว่าอย่างไร? เพราะเหตุว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ความจริง พระองค์จึงทรงแสดงความจริง ว่าอะไรที่กำลังเห็น และอะไรที่เป็นสิ่งที่ถูกเห็น ในขณะที่อวิชชาเกิด ไม่สามารถรู้ความจริงนั้นได้ มีเพียงปัญญาเท่านั้นที่สามารถจะรู้หรือเข้าใจความจริง ด้วยเหตุนี้ เราจึงถือเอาความจริงทั้งหมดนี้ว่าเป็นเราที่กำลังเห็น เป็นเห็นของเรา

所以無明並不是在書裡面,智慧沒有生起去瞭解真相的那一刻,無明就在那裡掩蓋住真相了,無明與智慧是完全相反的。 所以現在什麼在看以及什麼被看到,對於無明與智慧來說,是完全不同的。 當無明在的那一刻,那一刻是不可能瞭解真相是什麼? 所以什麼是開始去瞭解,就是現在一定有在看對不對,那個在看是什麼? 一定有什麼被看到,那個被看到的是什麼?

เพราะฉะนั้น อวิชชาไม่ได้อยู่ในหนังสือ เมื่อไหร่ก็ตามที่ไม่มีปัญญาเกิดขึ้นเข้าใจความจริงในขณะนั้น อวิชชาก็อยู่ที่นั่น ปิดบังความจริงเอาไว้ อวิชชาและปัญญาเป็นสภาพธรรมที่ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้น”เดี๋ยวนี้อะไรเห็นและอะไรที่ถูกเห็น” ระหว่างอวิชชาและปัญญา เป็นสิ่งที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในขณะที่เป็นอวิชชา ขณะนั้นไม่เข้าใจความจริงว่าคืออะไร ดังนั้นคือการเริ่มที่จะเข้าใจ ก็คือเดี๋ยวนี้มีเห็น แล้วที่กำลังเห็น คืออะไร? แน่นอนว่าต้องมีสิ่งที่ถูกเห็น แล้วสิ่งที่ถูกเห็น คืออะไร?

我們一直都在看,可是佛陀告訴我們 “在看” 的真相是什麼? 眼識是有許多因緣條件才能夠生起,眼識生起執行在看的功能,就只是看,這樣的瞭解就是開始去瞭解什麼叫作法,法並不在書裡,現在在看就如此的真實,在看是什麼? 被看到的是什麼? 這些都沒有在書裡面,而是現在,是最真實的,就只是法。 “在看” 就只是在看,有誰會是 “在看” 嗎?這是真實嗎? 這就是 “誠實波羅蜜” 和 “決意波羅蜜” 的開始,對佛陀的教導真的有堅定信心,一點一點的慢慢的真的去瞭解,“在看” 是一個法,“在看” 並不是我。

เราเห็นอยู่ตลอดเวลา แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสความจริงของ "เห็น" ว่าคืออะไร? จิตเห็นมีเหตุปัจจัยหลายอย่างจึงเกิดขึ้น จิตเห็นเกิดขึ้นกระทำกิจเห็น ก็คือเพียงเห็น การเข้าใจอย่างนี้ก็คือเริ่มเข้าใจว่าอะไรคือ ธรรมะ ธรรมะไม่ได้อยู่ในหนังสือ เดี๋ยวนี้ เห็นมีจริงอยู่อย่างนี้ เห็นคืออะไร? สิ่งที่ถูกเห็นคืออะไร? ทั้งหมดนี้ไม่ได้อยู่ในหนังสือ แต่คือเดี๋ยวนี้ ที่จริงที่สุด เป็นเพียงธรรมะ "เห็น" ก็คือเห็น มีใครเป็น"เห็น"ไหม? นี่เป็นความจริงหรือเปล่า? นี่คือการเริ่มต้นของ "สัจจบารมี" และ "อธิษฐานบารมี" มีศรัทธาที่มั่นคงในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ค่อยๆ เข้าใจจริงๆ ทีละนิดๆ ว่า "เห็น" เป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่ง "เห็น" ไม่ใช่เรา

“在看” 不管在任何地方,任何時候,“在看” 就只是在看的法,因為有因緣條件生起去看了,這就是法的意義,並不是我們所認為的是有什麼一個東西,“諸法無我” 意思就是全部都沒有我,沒有人,沒有東西。 “諸法” 指的就是全部一切所有的真相,不只是指一個真相一個法而已,指的就是全部所以的一切。 因此,要有對法堅定的信心,法是有因緣條件才會生起的,例如,倘若沒有眼根,沒有色塵,沒有心,沒有心所,眼識能夠生起嗎? 法的真相一直都在那裡,每一刻都是機會更瞭解那個真相是什麼?

"เห็น" ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด เวลาใด "เห็น" ก็คือสภาพที่เห็น เพราะมีเหตุปัจจัยจึงเกิดขึ้นเห็น นี่คือความหมายของธรรมะ สิ่งที่มีจริง ไม่เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดอย่างที่เราเข้าใจผิดเลย "สัพเพ ธัมมา อนัตตา" ความหมายคือ ทั้งหมด ไม่มีเรา ไม่มีใคร ไม่มีตัวตน ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด "สัพเพ ธัมมา" หมายความว่าความจริงทั้งหมดทั้งปวงทุกอย่าง ไม่ได้มุ่งหมายถึงเพียงความจริงของสภาพธรรมอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่มุ่งหมายถึงทั้งหมดทุกสิ่งทุกอย่าง ด้วยเหตุนี้ ต้องมีศรัทธาและความเข้าใจที่มั่นคงในความเป็นธรรมะของทุกอย่างที่มีจริง ธรรมะมีเหตุปัจจัยจึงเกิดขึ้น เช่น ถ้าไม่มีตา ไม่มีสิ่งที่สามารถปรากฏให้เห็นได้ทางตา ไม่มีจิต ไม่มีเจตสิก จิตเห็นเกิดขึ้นได้ไหม? ความจริงของธรรมะอยู่ที่นั่นตลอด ทุกขณะจึงคือโอกาสของการที่จะเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ

樹木,太陽,月亮,並不能去經驗,那個去看的心,是能去經驗,眼識它是要有因緣條件才能夠生起去經驗的。 能夠瞭解真相是要有堅定的決心 “決意波羅蜜”,因為每個人都可以運用佛陀的話去講法,但是真的有瞭解現在正在出現的真相嗎? 在現在在那裡的法是什麼?

ต้นไม้ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ไม่สามารถรู้อะไรได้ จิตเห็นที่เห็นก็คือสามารถเห็นได้ จิตเห็นมีเหตุปัจจัยเกิดขึ้น มีสิ่งที่สามารถปรากฏให้เห็นได้ จิตเห็นจึงสามารถเห็นได้ การที่จะเข้าใจความจริง จึงต้องมีความแน่วแน่และมั่นคงในความจริง "อธิษฐานบารมี" เพราะทุกคนสามารถที่จะใช้คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวตามพระองค์ แต่เข้าใจความจริงจริงๆ ของสิ่งที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ขณะนี้หรือเปล่า?

倘若對法的真相是有堅定的瞭解,就不會懷疑是什麼在出生,是什麼在死亡。 在看的,在聽的,在想的,在喜歡,在討厭,都只是因緣生滅的法。 真相就是這樣子嗎?並不是我在聽,我在看,我在想,就只是法嗎? 開始誠心誠意的去瞭解去正視真相,這就是開始瞭解和培養“誠實波羅蜜”,都不必去哪裡尋找真相,真相就在這裡,真相就是這一刻。

ถ้ามีความเข้าใจที่มั่นคงในความจริง ก็จะไม่มีความสงสัยว่าอะไรกำลังเกิด อะไรกำลังตาย กำลังเห็น กำลังได้ยิน กำลังคิด กำลังชอบ กำลัง เกลียด ทั้งหมดเป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดดับเพราะเหตุปัจจัย ความจริงเป็นอย่างนี้หรือเปล่า? ไม่ใช่เป็นเราได้ยิน ไม่ใช่เป็นเราเห็น ไม่ใช่เป็นเราคิด เป็นเพียงธรรมะหรือเปล่า? เริ่มที่จะมีความจริงใจที่จะเข้าใจความจริง นี่คือการเริ่มอบรมเจริญ "สัจจบารมี" ไม่จำเป็นที่จะต้องไปค้นหาความจริงที่ไหน? ความจริงอยู่ที่นี่ ความจริงคือเดี๋ยวนี้ ขณะนี้

即使真相就在那裡,我們也不知道,因為 “無明” 它掩蓋了真相。 當智慧生起去瞭解在那裡的真相是什麼的那一刻,也會有 “精進波羅蜜” “忍辱波羅蜜” “誠實波羅蜜” “決意波羅蜜”同智慧一起生起,因為這些波羅蜜是支助智慧生起的因緣條件。 現在就有 “在看”,倘若只是刻意去想著什麼是 “看”,實際上那只是 “想” 而已。 當我們談到 “誠實波羅蜜” “決意波羅蜜” “忍辱波羅蜜” “精進波羅蜜” 就是瞭解現在在那裡正在出現的真相。 倘若沒有培養波羅蜜的建立,又怎麼能夠開始逐漸的慢慢的去捨離“無明”。 即使是在痛的那一刻或者任何時刻,每一刻就只是因緣條件而已,這樣堅定的瞭解就會非常清楚並沒有人能作什麼。

แม้ความจริงจะอยู่ที่นั่น แต่เราก็ไม่รู้ เพราะว่าอวิชาปิดบังความจริง เมื่อปัญญาเกิดขึ้นเข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนั้นว่าคืออะไร ขณะนั้นย่อมมีวิริยบารมี มีขันติบารมี มีสัจจบารมี เกิดร่วมด้วยกับปัญญา เพราะบารมีเหล่านี้เป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้ปัญญาเกิดขึ้น เดี๋ยวนี้มี "เห็น" ถ้ามีความจงใจที่จะไปคิดถึงว่าอะไร คือ "เห็น" นั่นก็เป็นเพียงการคิดเท่านั้น ในขณะที่เรากล่าวถึง "สัจจบารมี" "อธิฐานบารมี" "ขันติบารมี" "วิริยบารมี" ก็คือ การเข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏอยู่ขณะนี้เดี๋ยวนี้ ถ้าหไม่มีการอบรมเจริญบารมี แล้วจะเริ่มที่จะค่อยๆ ละ"อวิชชา"ได้อย่างไร แม้ในขณะที่ปวดหรือขณะอื่นๆ ทุกขณะก็เป็นเพียงสิ่งที่มีจริงที่เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัยเท่านั้น การเข้าใจที่มั่นคงอย่างนี้ก็ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าไม่มีใครสามารถทำอะไรได้

Jon: 很自然的,當我們聽到老師提醒 “現在什麼正正在出現?” 這樣的問題,我們就很自然的去找,一旦開始要去找有什麼在那裡,表示已經忘了那一刻只是因緣生滅的法。 “現在什麼正在出現?” 這個問題,如果我們的認知是提醒關於佛陀的教導,對法的真相是一種提醒。 比如說,當我們聽到現在有眼識去看的,耳識去聽的,並不代表聽到了這些話,法就會立刻明顯的出現。

จอน: ก็เป็นปกติที่เมื่อเราได้ยินคำถามที่ท่านอาจารย์กล่าวเตือนว่า "เดี๋ยวนี้อะไรกำลังปรากฏ?" เราก็จะพยายามไปหา ทันทีที่เริ่มไปหา แสดงว่าขณะนั้นลืมไปแล้วว่า เป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดดับเพราะเหตุปัจจัย "เดี๋ยวนี้อะไรกำลังปรากฏ?" คำถามนี้ ถ้าเราเข้าใจว่านั่นเป็นเครื่องเตือนใจในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นคำเตือนถึงความจริงของสภาพธรรมอย่างหนึ่ง ตัวอย่างเช่น ในขณะที่เราได้ยินคำว่า เดี๋ยวนี้มีจิตเห็นกำลังเห็น ไม่ได้หมายความว่าการได้ยินคำอย่างนี้แล้ว สภาพธรรมก็จะปรากฎออกมาอย่างชัดเจนทันที

當我們被問 “這一刻什麼正在出現” 時,其實我們看到的出現的都已經是人跟東西,因為佛陀的教導我們才能有機會聽聞真理,因此應當感恩懷念佛陀的恩 惠。 當出現的是人跟東西的時候,那一刻已經是在想了不是在看,並不是一定要去尋找到那個法而是去思考佛陀對真相所描述的是怎麼樣的,究竟實相是什麼? 每個禮拜的討論佛法,其實是一種提醒進來看看佛陀所說的真相,因為去思考佛陀所說的法,這會是真正能夠近一步去瞭解真相的因緣條件。

ในขณะที่เราถูกถามว่า "ขณะนี้อะไรกำลังปรากฏ" โดยความเป็นจริง สิ่งที่เราเห็น สิ่งที่ปรากฎเป็นคนเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปเรียบร้อยแล้ว แต่เป็นเพราะคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราจึงมีโอกาสได้ฟังคำจริง ด้วยเหตุนี้จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะซาบซึ้งในพระปัญญาคุณ พระมหากรุณาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในขณะที่เราเห็นเป็นคน เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ขณะนั้นคือคิดแล้ว ไม่ใช่เห็น จึงไม่ใช่เป็นการให้ไปหาสภาพธรรมนั้น แต่ให้คิด พิจารณาว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสความจริงไว้ว่าอย่างไร ปรมัตถธรรมคืออะไร? ทุกสัปดาห์ในการสนทนาธรรม จริงๆ แล้วก็เป็นโอกาสที่จะได้มีการพิจารณาไตร่ตรองความจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ เพราะนี่คือหนทางที่จะเข้าใกล้ความจริงด้วยความเข้าใจ



敬感恩阿姜舒淨 (Ajhan Sujin Boriharnwanaket) 的恩惠

น้อมเคารพในคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

謹以此施法之功德與我們在輪迴裡每一世的父母 師長 同修 親友 仙人 各位讀者及其他一切眾生分享

กุศลในการนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศแด่บิดามารดาในทุกภพทุกชาติ ครูบาอาจารย์ ญาติมิตรสหาย เทวดา และผู้อ่าน รวมถึงสัตว์ทั้งหลาย

By line group Just Dhamma

หมายเหตุ

ที่มา : การสนทนาธรรมออนไลน์ระหว่างท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ กับ ชาวจีน

สรุปใจความภาษาจีน โดย 陳品彤 เฉินผิ่นถง (คุณแพท)

แปลภาษาไทย โดย คุณปาล สว่างพัฒนกุล (黃如蓮)


อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... บทความแปลภาษาจีน



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 19 พ.ค. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย เมตตา  วันที่ 19 พ.ค. 2565

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง และกราบยินดีในความดีทุกท่านค่ะ