พระภิกษุที่เป็นพระโสดาบันแล้ว มีสิทธิ์ลาสิกขาได้หรือไม่?
โดย DustInTheWind  19 มี.ค. 2558
หัวข้อหมายเลข 26340

มีความเข้าใจว่าผู้ที่บรรลุโสดาปัตติผลแล้ว ได้กระทำโลภะ โทสะ ให้เบาบางลง ละความเห็นผิด ละความตระหนี่ ละริษยาได้แล้ว อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ไหมครับ

สำหรับที่พระภิกษุ ผู้เข้าถึงโสดาปัตติผลแล้ว จะมีโอกาสที่มีใจออกห่างจากชีวิตบรรพชิตหรือลาเพศบรรชิตด้วยเหตุอันใดอันหนึ่ง (เนื่องเพราะยังละความติดข้องในกามคุณไม่ได้เด็ดขาด) หรือไม่ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ท่านก็จะไม่มีทางลาสิกขาเด็ดขาด? และมีพระบาลีหรือคัมภีร์ใดที่รับรองไหมครับ?

ขอบพระคุณและอนุโมทนาครับ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 19 มี.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สำหรับผู้ที่เป็นปุถุชน มีกิเลสโดยมาก เมื่อบวชเป็นบรรพชิต แม้จะมีศรัทธาอย่างมากที่บวชในตอนแรก แต่เพราะว่ายังมีกิเลสที่ยังไม่ได้ดับ และปัญญายังไม่ถึงระดับโลกุตตระ ย่อมมีความไม่แน่นอน ที่จะหวนกลับมาสู่เพศบรรพชิตได้เป็นธรรมดา ดังเช่นในพระไตรปิฎกที่แสดงไว้ว่า ก่อนที่พระรูปหนึ่งจะเป็นพระอรหันต์ เมื่อยังเป็นปุถุชน ท่านก็สึกแล้วบวชอีก อย่างนี้ถึง 7 ครั้ง แต่ภายหลังท่านก็บวชอีก และบรรลุเป็นพระอรหันต์ นี่แสดงให้เห็นว่า เป็นธรรมดาของปุถุชนที่ยังหวั่นไหวไปตามอำนาจของกิเลส ส่วนผู้ที่อบรมปัญญา จนถึงการบรรลุเป็นพระอริยเจ้า มี พระโสดาบัน เป็นต้นแล้ว หากอยู่ในเพศคฤหัสถ์ในขณะที่บรรลุก็อาจจะบวชหรือไม่บวชก็ได้ ตามอัธยาศัยของท่านที่สะสมมา และแม้เป็นพระอนาคามี ก็ไม่จำเป็นจะต้องบวช สำหรับคฤหัสถ์ หากท่านไม่มีอัธยาศัย ดั่งเช่น ท่านฆฏิการช่างหม้อที่เป็นพระอนาคามีในเพศคฤหัสถ์ แต่ตนเองก็ไม่ยอมบวช เพราะเหตุที่ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ แต่สำหรับพระอริยเจ้าที่เป็นพระอริยบุคคล เมื่อเป็นบรรพชิตหรือ เป็นพระโสดาบัน แล้วบวชเป็นบรรพชิต ด้วยกำลังปัญญาที่มีมากแล้ว ที่ประจักษ์พระนิพพาน ท่านย่อมเห็นคุณของการเป็นบรรพชิตมากขึ้น จึงไม่สละเพศบรรพชิต แต่อบรมปัญญาในเพศบรรพชิตต่อไป ครับ ไม่สึกออกมาเป็นเพศคฤหัสถ์

เชิญคลิกหลักฐานอ้างอิงจากพระไตรปิฎกได้ที่นี่ ครับ

ภิกษุผู้เจริญสติปัฏฐานไม่ลาสิกขา [สลฬาคารสูตร]

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 19 มี.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

บุคคลผู้ที่สละอาคารบ้านเรือน ออกบวชเป็นบรรพชิต แสดงให้เห็นถึงการสะสมมาที่จะอบรมเจริญปัญญาในเพศที่สูงกว่าคฤหัสถ์ เพราะเห็นว่าการอยู่ครองเรือนเป็นที่หลั่งไหลมาของกิเลสอกุศลธรรมทั้งหลาย จึงบวชเป็นบรรพชิต มีการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสของตนเอง โดยดำเนินตามหนทางที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง คือ อริยมรรค เมื่อมีปัญญาคมกล้าขึ้น ก็สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอริยบุคคลได้ พระอริยบุคคลขั้นต้น คือ พระโสดาบัน เป็นผู้ดับกิเลสได้ในระดับหนึ่ง คือ ดับความเห็นผิด ดับความลังเลสงสัยในสภาพธรรม ดับความตระหนี่ ดับความริษยา เป็นผู้ที่มีศรัทธาไม่หวั่นไหวในพระรัตนตรัย พระอริยบุคคล เป็นผู้ที่มั่นคงในหนทาง สำหรับผู้ที่เป็นบรรพชิตจึงไม่มีทางหันกลับมาสู่เพศที่เป็นคฤหัสถ์อยู่ครองเรือนแต่งงานมีครอบครัวได้อีก มีแต่จะอบรมเจริญปัญญาให้ยิ่งๆ ขึ้นในเพศบรรพชิต ต่อไป

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 3    โดย Patchanon  วันที่ 19 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 4    โดย papon  วันที่ 19 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย Thanapolb  วันที่ 19 มี.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระอริยบุคคล แสดงถึงผู้มีความมั่นคงในพระธรมจริงๆ น้อ

ต่างจากเราผู้ยังมากด้วยกิเลส หวั่นไหว ไม่มั่นคง

จึงต้องไม่เว้นที่จะคอยขัดเกลาตนเอง ศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม

ประพฤติธรรมตามสมควรแก่ธรรมะ อย่างนั้นใช่ไหมครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ


ความคิดเห็น 6    โดย wannee.s  วันที่ 20 มี.ค. 2558

ในพระไตรปิฏกมีแสดงไว้ ในครั้งพุทธกาล มีหลายท่านได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า บรรลุเป็นพระโสดาบันก็ขอบวช ไม่ต้องพูดถึงภิกษุที่เป็นพระโสดาบันจะสึก ท่านมีแต่ไปสูงขึ้นไม่สึกค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย peem  วันที่ 20 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย lokiya  วันที่ 9 เม.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 9    โดย chatchai.k  วันที่ 5 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ 


ความคิดเห็น 10    โดย Jarunee.A  วันที่ 14 ม.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ