ตถาคตรู้โลกและอารมณ์ ๖ [โลกสูตร]
โดย เมตตา  27 มิ.ย. 2568
หัวข้อหมายเลข 50260

[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 65 - 67

ปฐมปัณณาสก์

อุรุเรลวรรคที่ ๓

๓. โลกสูตร

ว่าด้วยตถาคตรู้โลกและอารมณ์ ๖

[๒๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โลก ตถาคตรู้ประจักษ์ด้วยตนเองแล้ว ตถาคตจึงออกจากโลกได้ โลกสมุทัย ตถาคตก็รู้ประจักษ์ด้วยตนเองแล้ว ตถาคตจึงละโลกสมุทัยได้ โลกนิโรธ ตถาคตก็รู้ประจักษ์ด้วยตนเองแล้ว โลกนิโรธตถาคตจึงทำให้แจ้งแล้ว โลกนิโรธคามินีปฏิปทา ตถาคตก็รู้ประจักษ์ ด้วยตนเองแล้ว โลกนิโรธคามินีปฏิปทา ตถาคตจึงทำให้มีแล้ว

ภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่ชาวโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลกหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณและพราหมณ์ พร้อมทั้งเทวดาและมนุษย์ ได้เห็นแล้ว ได้ยินแล้ว ได้ทราบแล้ว ได้รู้สึกแล้ว ได้ประสบแล้ว ได้แสวงหาแล้ว ได้คิดค้นทางใจแล้วสิ่งนั้นตถาคตได้ตรัสรู้โดยชอบแล้ว เพราะเหตุนั้น จึงได้ชื่อว่า ตถาคต.

ข้อที่ตถาคตได้ตรัสรู้ในเวลาราตรี และปรินิพพานในเวลาราตรี ตถาคตกล่าวแสดงชี้แจงข้อคำอันใดในระหว่างนั้น ข้อคำทั้งปวงนั้นย่อมเป็นอย่างนั้น ไม่เป็นอย่างอื่นไป เพราะเหตุนั้น จึงได้ชื่อว่า ตถาคต.

ตถาคตพูดอย่างใดทำอย่างนั้น ทำอย่างใดพูดอย่างนั้น เพราะตถาคต (ยถาวาที ตถาการี) พูดอย่างใดทำอย่างนั้น (ยถาการี ตถาวาที) ทำอย่างใด พูดอย่างนั้น เพราะเหตุนั้น จึงได้ชื่อว่า ตถาคต.

ในโลกทั้งเทวโลกทั้งมารโลกทั้งพรหมโลกในหมู่สัตว์ทั้งเทวดามนุษย์ ทั้งสมณพราหมณ์ ตถาคตเป็นผู้ยิ่งใหญ่ (โดยอริยสีลาทิคุณ) ไม่มีใครครอบงำได้ เป็นผู้เห็นถ่องแท้ เป็นผู้ครองอำนาจ เพราะเหตุนั้น จึงได้ชื่อว่า ตถาคต.

ท่านผู้ใดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่งซึ่งโลกทั้งปวง รู้อารมณ์ตามที่เป็นจริงอยู่อย่างไรในโลกทั้งปวง เป็นผู้ไม่ติดอยู่ในโลก เป็นผู้ไม่มีตัณหา ทิฏฐิ และริษยาในโลก ทั้งปวง ท่านผู้นั้นแล เป็นปราชญ์ใหญ่ยิ่งกว่าสรรพสัตว์ ปลดเปลื้องเครื่องผูกมัดเสียสิ้น ได้บรมสันติ คือ พระนิพพาน อันไม่มีภัยแต่ที่ไหนๆ นั่นคือ พระขีณาสพพุทธเจ้า ผู้ไม่มีทุกข์ ผู้ตัดความสงสัยแล้ว ผู้ถึงแล้วซึ่งความสิ้นกรรมทั้งปวง ผู้หลุดพ้นแล้วเพราะสิ้นอุปธิ.

เพราะอย่างนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น จึงเป็นพระพุทธเป็นสีหะประเสริฐ (ในหมู่มนุษย์) ทรงประกาศพรหมจักรแก่ชาวโลกกับทั้งเทวดา.

เพราะรู้พระคุณเช่นนี้ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายที่ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ จึงพากันมานมัสการพระองค์ ผู้เป็นมหาบุรุษผู้ปราศจากความครั่นคร้าม.

พระองค์ทรงฝึกพระองค์แล้ว ประเสริฐกว่าผู้ฝึกทั้งหลาย พระองค์เป็นพระฤษีผู้สงบแล้ว ประเสริฐกว่าผู้สงบทั้งหลาย พระองค์ทรงพ้นแล้ว เลิศกว่า ผู้พ้นทั้งหลาย พระองค์ทรงข้าม (โอฆะ) แล้ว ประเสริฐกว่าผู้ข้ามทั้งหลาย.

ด้วยเหตุนี้ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย จึงนมัสการพระองค์ผู้เป็นมหาบุรุษ ผู้ปราศจากความครั่นคร้าม บุคคลเปรียบปานพระองค์ไม่มีในโลกมนุษย์กับทั้งโลกเทวดา.

จบโลกสูตรที่ ๓



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 27 มิ.ย. 2568

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น