รู้สิ่งที่เกิดแล้วเดี๋ยวนี้เท่านั้น
โดย เมตตา  5 ก.ย. 2568
หัวข้อหมายเลข 50875

[เล่มที่ 66] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้า 360

อัฏฐกวัคคิกะ

ตุวฏกสุตตนิทเทสที่ ๑๔

[๗๗๙] ก็ภิกษุรู้ธรรมนั้นแล้วค้นคว้าอยู่ พึงเป็นผู้มีสติ ศึกษา ในกาลทุกเมื่อ ภิกษุรู้ความดับว่าเป็นความสงบแล้ว ไม่ พึงประมาทในศาสนาของพระโคดม.


อ.วิชัย: ข้อความใน ขุททกนิกาย มหานิทเทส แม้ข้อความไม่ยาวครับ แต่ก็ลึกซึ้งที่จะพิจารณาในแต่ละคำครับ อย่างฟังการสนทนาเมื่อสักครู่นี้ ก็จะเห็นถึงข้อความที่กล่าวถึงว่า ก็ภิกษุรู้ธรรมนั้นแล้วค้นคว้าอยู่ ท่านก็จะมีคำที่แสดง ก็คือคำที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ ดังนั้น ที่จะศึกษา หรือว่า รู้ธรรมะ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโดยประการทั้งปวง ก็ต้องเป็นผู้ที่มีโอกาสได้ยินได้ฟัง แล้วก็เป็นผู้ที่ศึกษาอย่างที่ท่านอาจารย์ให้ความเข้าใจ แม้ ธรรม จะกล่าวถึงการค้นคว้า แต่ว่าก็เป็นการค่อยๆ ฟังแล้วพิจารณา และมีความเข้าใจเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อยในความเป็นจริงของธรรมแม้ขณะนี้อย่าง เห็น เป็นต้นครับ

แต่ประเด็นที่จะกราบเรียนสนทนากับท่านอาจารย์ ก็คือข้อความที่กล่าวว่า พึงเป็นผู้มีสติ ศึกษา ในกาลทุกเมื่อ ท่านอาจารย์ครับเมื่อวานนี้ก็มีสนทนาเรื่องของการที่จะรู้จักสติครับ เพราะว่าอย่างการคิดถึงธรรมะ กับการมีสติ ที่ท่านอาจารย์ให้ความเข้าใจ ก็คือการที่จะ ถ้าเป็นผู้ที่ไม่รู้จักสติก็ไม่ได้มีความเข้าใจว่า พึงเป็นผู้มีสติ เป็นอย่างไรครับ

ตามการศึกษาก็พอจะรู้ได้ว่า สติเป็นเจตสิกที่ดีงาม มีสภาพที่ระลึกเป็นไปในคุณความดีโดยเฉพาะกุศลธรรม ที่สามารถที่จะพอพิจารณาได้อย่างขณะนี้ที่กำลังกราบเรียนสนทนากับท่านอาจารย์ ก็ไม่ได้เป็นการใส่ใจเรื่องอื่น แต่ว่า ก็เป็นการพิจารณาใน คำ ที่แสดงไว้ในพระไตรปิฎกครับ แต่ก็ไม่ได้เป็นการที่จะรู้จักสติจริงๆ ครับ ดังนั้น ข้อความที่จะให้เป็นผู้เข้าใจที่จะไม่เข้าใจผิดในลักษณะของสตินี้คืออย่างไรครับท่านอาจารย์ ในเมื่อลักษณะของสติก็ยังไม่ปรากฏ เพียงแต่ฟังเรื่องราวของสติครับ

ท่านอาจารย์: สติเป็นธรรมะหรือเปล่า?

อ.วิชัย: เป็นธรรมะแน่นอนครับ

ท่านอาจารย์: อยู่ไหน?

อ.วิชัย: อยู่กับจิต เกิดพร้อมกับจิตครับเมื่อเกิดขึ้น

ท่านอาจารย์: ใครๆ ก็รู้ใช่ไหมถ้าตอบอย่างนั้น?

อ.วิชัย: ใครๆ ก็ตอบอย่างนี้ได้ครับ ตอบตามที่ศึกษามา

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น อย่างเมื่อกี้นี้ เมื่อวานนี้ มีสติเกิดบ้างไหม?

อ.วิชัย: เมื่อวานนี้คิดว่า มีสติเกิดครับ มีการสนทนาธรรมะ และก็มีการพิจารณา และก็มี และก็มีความเข้าใจธรรมะเพิ่มขึ้นครับ

ท่านอาจารย์: ค่ะ เมื่อวานนี้สติเกิด รู้จักสติที่เกิดเมื่อวานนี้ไหม?

อ.วิชัย: ไม่รู้จักครับ เพียงแต่การคิดพิจารณา คาดคะเนว่ามีครับ แต่ไม่ได้เป็นการรู้ตัวสติจริงๆ ครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น วันนี้ตั้งแต่ตื่นมามีสติบ้างไหม?

อ.วิชัย: คิดว่ามีสติบ้างครับ เพราะตอนเช้าก็มีการฟังธรรมะบ้าง

ท่านอาจารย์: ถ้าไม่รู้จักสติ ตอบได้ไหม?

อ.วิชัย: ถ้าไม่รู้จักสติ ตอบไม่ได้ครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ตอนนี้รู้ว่า สติต้องเป็นสภาพธรรมะที่ดีงามใช่ไหม?

อ.วิชัย: ใช่ครับ

ท่านอาจารย์: ระลึกเป็นไปในกุศล

อ.วิชัย: ครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น วันนี้มีสติบ้างไหม?

อ.วิชัย: มีครับ

ท่านอาจารย์: ขณะไหน?

อ.วิชัย: ขณะที่เป็นกุศล จิตผ่องใส อย่างการฟังพระธรรมเป็นต้นครับ เป็นอาการของจิตที่ผ่องใส เข้าใจในสิ่งที่ได้ฟังครับ และก็ไม่ได้เป็นการคิดวุ่นวายในเรื่องของอกุศลโดยประการอื่นครับ

ท่านอาจารย์: แล้วรู้เมื่อไหร่ว่า เป็นสติ?

อ.วิชัย: ต้องรู้เมื่อสติปรากฏให้รู้ได้ครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น มีสติพูดได้ แต่ไม่รู้จักสติใช่ไหม?

อ.วิชัย: ใช่ครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น นอกจากมีสติแล้ว วันนี้มีอะไรอีก?

อ.วิชัย: นอกจากมีสติแล้ว ก็มีอกุศลเยอะเยะครับ อย่างทำกิจหน้าที่ แสวงหาสิ่งต่างๆ ก็เป็นอกุศลครับ โดยเฉพาะความพอใจติดข้อง

ท่านอาจารย์: พูดได้ แต่เวลาเป็นอย่างนั้นไม่รู้ใช่ไหม?

อ.วิชัย: ใช่ครับ คิดในภายหลังครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเตือนให้รู้ว่า รู้สิ่งที่เกิดแล้วเดี๋ยวนี้เท่านั้น มิเช่นนั้น จะไม่มีวันรู้อะไรเลยทั้งสิ้น ถูกต้องไหม?

อ.วิชัย: ถูกต้องครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ถ้าสติเกิดแล้วเดี๋ยวนั้นไม่รู้ว่าเป็นสติ จะไม่มีทางรู้ว่า เป็นธรรมะ และสติเลยใช่ไหม?

อ.วิชัย: ใช่ครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น จึงต้องรู้ว่า การฟังเป็นการที่จะเข้าใจในความเป็นธรรมะแต่ละหนึ่งมั่นคงว่า ฟังเรื่องราวของสภาพธรรมะนั้น เพื่อที่จะรู้ลักษณะนั้นเมื่อเกิดแล้ว

อ.วิชัย: ฟังเรื่องราวของธรรมะนั้น จนมีความเข้าใจมั่นคงที่จะเป็นเหตุให้สามารถรู้จักธรรมะจริงๆ ได้นี่คืออย่างไรครับ เป็นการปรุงแต่งของความเข้าใจเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นอย่างนี้หรือครับท่านอาจารย์ ที่จะไปสู่ลักษณะที่ท่านอาจารย์สนทนากับ อ.อรรณพ เมื่อกี้นี้ครับ ก็เป็นการพิจารณาได้ว่า การศึกษาไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องราวครับ แต่ว่าก็ต้องอาศัยเรื่องราวแน่นอน ไม่อย่างนั้นจะไปเข้าใจตัวธรรมะได้อย่างไรครับ

ขอเชิญอ่านเพิ่มได้ที่..

ฟังธรรมเพื่ออะไร

ขอเชิญฟังได้ที่..

ศึกษาแบบทัพพีที่ไม่รู้รสแกงก็สูญเปล่า

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ

กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.วิชัย ด้วยความเคารพค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 5 ก.ย. 2568

ต้องรู้ว่า การฟังเป็นการที่จะเข้าใจในความเป็นธรรมแต่ละหนึ่งมั่นคงว่า ฟังเรื่องราวของสภาพธรรมนั้น เพื่อที่จะรู้ลักษณะนั้นเมื่อเกิดแล้ว

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ


ความคิดเห็น 2    โดย มังกรทอง  วันที่ 6 ก.ย. 2568

ธรรมมีมานัสพร้อม รับฟัง อันเกิดกุศลดัง ธาตุรู้ จิตเจตสิกเป็นพลัง เสริมส่ง หนุนแฮ กราบอาจารย์สุจินต์ผู้ เปี่ยมด้วยเมตตา