ผมมีเรื่องสอบถามหน่อยครับคือผมมีภรรยาแล้วแต่แม่ใหับวช ครับ วันนี้ผมเล่นไลน์คุยกับภรรยาผม เขาบอกว่าวันที่ 16 จะกลับมางานวันเกิดพ่อเขา คือบ้านพ่อเขาสร้างยังไม่เสร็จ ผมก็เลยบอกว่าถ้างั้นพอดีผมจะสึกประมาณวันที่ 10 งั้นมานอนบ้านผมดีกว่าเพราะอยู่นั้นมันไม่มีที่นอน ผมกลัวเขาคิดถึงเรื่องนั้น ผมเลยบอกว่าไม่ต้องกลัวและไม่ต้องคิด ผมไม่ทำอะไรหรอก ผมพึ่งสึก คือผมพูดแบบนี้ มันจะเข้าข่ายพูดพาดพิงเมถุนธรรมหรือเปล่าครับ

กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพ ครับ

จากเรื่องที่กล่าวมา ไม่ใช่การล่วงถึง อาบัติสังฆาทิเสส เพราะไม่ได้มีเจตนาจะกล่าวพาดพิงโดยตรงในเมถุน แต่เป็นเจตนาบอกกล่าวให้ทราบ จึงไม่ต้องอาบัติ สังฆาทิเสส ครับ ขออนุโมทนา

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ตราบใดที่ยังปฏิญาณว่าเป็นพระภิกษุอยู่ ก็จะต้องมีความจริงใจในการที่จะได้ ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสของตนเองเป็นหลัก การที่จะทำอะไรแล้ว ส่งเสริมสนับสนุนให้อกุศลธรรมเกิดมากขึ้น ล่อแหลมต่อการต้องอาบัติ เช่น การเล่นไลน์ เหมือนอย่างคฤหัสถ์ ก็ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะควรแก่เพศบรรพชิต ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ....

อยู่ที่เจตนา ถ้าไม่มีเจตนาก็ไม่อาบัติ ค่ะ

พอดีในช่วงนี้ดิฉันได้ฟังรายการแนวทางวิปัสนาโดยอ.สุจินต์ตอนหกโมงเช้าที่ช่องสถานีวิทยทหารเรือคลื่นเอเอ็ม กำลังกล่าวถึงเรื่อง พระวินัยพระภ้กษุพอดี โดยส่วนตัวเห็นว่า ถ้าบวชแล้วไม่ควรติดต่อกับสตรี ไม่ว่ากรณีไหนทั้งสิ้นค่ะ ยิ่งเป็นภริยาเก่าแล้ว ยิ่งไม่สมควร ยังแต่ทำให้กิเลสเกิดขึ้น จะประสงค์ของการบวชพระสมัยนี้ดิฉันรู้สึกว่าไม่เหมือนครั้งพุทธกาล ไม่ทราบว่า ท่านอื่นมีความเห็นอยางไรบ้างคะ เท่าที่ฟัง อ.สุจินต์ นำเรื่องพระไตรปิฎกมาบรรยาย พระแต่ละรูปครั้งพุทธเจ้า ล้วนฟังพระธรรมแล้วถึงบวชทั้งนั้น ไม่ใช่บวชแล้วค่อยมาฟังธรรม รู้สึกสมัยนี้กลับกันกับสมัยก่อนแล้ว