
บวชเป็นพระภิกษุเพื่อที่จะประพฤติตามใคร ประพฤติตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่ประพฤติตามใจชอบเหมือนเดิม เพราะว่าหลายคนแค่อยากบวช เห็นเพศบรรพชิตครองจีวรมาก็อยากบวช แต่ว่าไม่ได้เข้าใจธรรม เพราะฉะนั้น การบวชอย่างนั้นไม่ใช่ภิกษุในพระธรรมวินัย แต่ถ้าจะเป็นภิกษุจริงๆ ต้องเข้าใจธรรมก่อน และรู้จักตนเองด้วยว่า จะศึกษาธรรม เข้าใจธรรม ขัดเกลากิเลสในเพศไหน เมื่อตัดสินใจที่จะสละอาคารบ้านเรือนแล้ว ก็คือสละจริงๆ เพื่อศึกษาธรรม จุดประสงค์ของชีวิตไม่มีอะไรยิ่งกว่าการจะได้เข้าใจธรรม ซึ่งต้องศึกษาพระธรรมด้วยความเคารพอย่างยิ่งเหนือกว่าเพศคฤหัสถ์ เพราะรู้ความต่างกันว่า ไม่ใช่คฤหัสถ์อีกต่อไป จะทำอย่างคฤหัสถ์อีกต่อไปไม่ได้ ถ้าจะมีชีวิตคล้ายคฤหัสถ์ อย่างคฤหัสถ์ ก็ต้องเป็นคฤหัสถ์
พระภิกษุจริงๆ จะต้องประพฤติตามพระธรรมวินัย (ไม่รับและไม่ยินดีเงินและทอง เป็นต้น) ถ้าชาวบ้านไม่เข้าใจพระธรรมวินัย จะรู้จักพระภิกษุได้อย่างไรว่าใครคือพระภิกษุในพระธรรมวินัย ใครไม่ใช่ภิกษุในพระธรรมวินัย
คำบรรยาย อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ 24 ส.ค.2561 จากหนังสือ พระพุทธศาสนาเถรวาท
ขอเชิญอ่านและดาวโหลดหนังสือได้ที่ลิ้งนี้
พระพุทธศาสนาเถรวาท
ปัจจุบันจะเห็นถึงความวิกฤตของการบวช วิกฤตของพระพุทธศาสนา ไม่มีอัธยาศัยในการบวชคือสละชีวิตทุกสิ่งที่เป็นแบบคฤหัสถ์แต่ก็จะบวช บวชชุบตัวทำผิดอะไรมาก็ไปบวช บวชตามประเพณี บวชเพื่อทดแทนคุณบิดามารดาแต่ประพฤติผิดพระวินัย เข้าไปรับเงินทองต้องอาบัติ ก่อนบวชจัดงานใหญ่ มีงานรื่นเริงในวัด วัดก็ให้จัดงานรื่นเริงในวัด บวชไม่ได้เพื่อสละ และ บวชเนกขัมมะ สำคัญว่าเป็นบุญใส่ชุดขาว แต่ไปสำนักปฏิบัติธรรม ไปปฏิบัติหนทางผิด ไปนั่งสมาธิโดยปัญญาไม่รู้อะไร สอนผิดปิดวาจาแต่ปัญญาไม่รู้อะไร สำคัญผิดว่าสงบ ไม่ใช่บุญแต่เป็นบาป ไม่เข้าใจเลยว่าบุญคืออะไร ไม่บวชก็เป็นคนดีได้ เข้าใจธรรมได้
เพราะชาวพุทธไม่ได้ศึกษาธรรมโดยละเอียดถ่องแท้ จึงสำคัญผิดในเรื่องการบวชเป็นพระภิกษุ รวมทั้งการบวชเนกขัมมะในปัจจุบัน ที่ถูกพระภิกษุที่ไม่เข้าใจธรรมและเป็นอลัชชีไม่ละอายมีการรับเงินทอง หลอกให้บวชพระและบวชเนกขัมมะ แต่พระภิกษุสอนธรรมผิด วิกฤตพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง วัดให้มีประชาสัมพันธ์บวชพระ ผู้บวชไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ให้มีเจ้าภาพในการบวช รูปละหนึ่งหมื่นห้าพันบาท หาเงินเข้าวัด วิกฤตพระพุทธศาสนา