ทาน ศีล ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา ปริญัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ
โดย homenumber5  2 ต.ค. 2553
หัวข้อหมายเลข 17298

ท่านกัลยาณมิตรทุกท่าน

ดิฉันได้อ่าน ฟัง มาหลากหลายว่าการสร้างกุสลเพื่อหลุดพ้นทุกข์ตามพระพุทธวัจจนะนั้น มีมากมายที่จัดกลุ่มได้คือ

๑. ทาน ศีล ภาวนา

๒. ศีล สมาธิ ปัญญา

๓. ปริญัตติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ

ดิฉันมีความสงสัยว่า ทั้งสามกลุ่มนี้ ข้อ๑ และ๒ เหมือนกันตรงศีลแต่ข้ออื่นๆ ไม่เหมือนกันเลย

จึงขอเรียนท่านวิทยากรช่วยชี้แนะถึงความเชื่อมโยงของสามกลุ่มนี้ด้วยค่ะ

และ เราที่เป็นปุถุชนนี้ควรจะสร้างกุสลในกลุ่มไหนนอกจากการฟังธรรมให้รู้ตามสภาพที่ปรากฏแบบที่อาจารย์สุจินต์สอนอยู่นี้

ขออนุโมทนาค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย prachern.s  วันที่ 4 ต.ค. 2553

ขอเรียนว่า การแสดงพระธรรมของพระพุทธองค์ ส่วนใหญ่ ทรงแสดงตามอัธยาศัยของผู้ฟัง ในบางแห่ง แสดงกับคฤหัสถ์ แสดงกุศล ๓ ระดับ ทาน ศีล ภาวนา แต่ถ้าแสดงกับบรรพชิต ส่วนใหญ่ไม่กล่าวถึงกุศลขั้นทาน เพราะท่านออกบวช สละวัตถุกามแล้ว จึงทรงแสดงกุศลที่ยิ่งขึ้นไป ศีล สมาธิ ปัญญา ก็รวมลงใน ศีลและภาวนาสำหรับลำดับของการศึกษาอบรมเจริญปัญญา ควรเป็นไปตามลำดับ ตั้งการฟัง การศึกษาพระธรรมคำสอน ต่อมา จึงมีการระลึกรู้สภาพธรรมตามที่ศึกษามา และเมื่อเหตุสมควรแก่ผล ผลคือปฏิเวธ ย่อมเกิดขึ้น ดังนั้นทั้งหมดก็สอดคล้องกัน และไม่จำเป็นต้องไปโยงกันก็ได้ ศึกษาเพื่อเข้าใจ อบรมเจริญกุศลทุกประการครับ


ความคิดเห็น 2    โดย จักรกฤษณ์  วันที่ 5 ต.ค. 2553

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย choonj  วันที่ 6 ต.ค. 2553

ทาน ศีล ภาวนา .......เป็นโอกาสที่ กุศลจิตเกิด เพราะนอกจากนี้แล้ว ก็เป็นอกุศลศีล สมาธิ ปัญญา .....เป็นโอกาสที่จะเข้าใจธรรม ให้เป็นหมวดหมู่ เป็นการเข้าใจที่ มั่นคงจนจดเยื่อในกระดูกปริญัตติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ....เป็นโอกาสที่จะศึกษาธรรมให้ถูก ต้องตามลำดับ ไม่หลงใน มิจฉาทิฏฐิ