จิตทำงานได้ทีละอย่างหรือเปล่าค่ะ แล้วตอนเราขับรถไปด้วย พูดคุยไปด้วยได้ ถือว่าเป็นการทำงานพร้อมกันหรือไม่ค่ะ

กราบขอบพระคุณมากค่ะ

จิตเกิดขึ้นทีละขณะแต่เกิดดับสลับกันอย่างรวดเร็วมากจึงปรากฏว่ามีการเห็นการได้ยินการคิดนึกปราฏกเหมือนพร้อมๆ กัน แต่ความจริงไม่พร้อม เพราะความเกิดดับรวดเร็วของจิตที่เรายังไม่ประจักษ์จึงสำคัญว่าพร้อมกัน สรุปคือ จิตเกิดดับทีละขณะ

เพราะอวิชชาปิดบังไม่เห็นสภาพธรรมะตามเป็นจริง จึงเหมือนเราเห็นและได้ยินพร้อมกัน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ค่ะ จิตเห็นดับไปภวังคจิตคั่น จิตได้ยินจึงเกิดต่อ

ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

ต้องเข้าใจว่าจิตเกิดดับทีละขณะ และจิตแต่ละประเภทก็มีกิจหน้าที่เฉพาะของเขา ในแต่ละดวงครับ ขณะนี้ก็ได้ครับ ขณะนี้เห็นใช่ไหม (จิตเห็น) จิตทำกิจหน้าที่เห็น มีอ่อนแข็งไหม (มี) เป็นกายวิญญาณจิต เป็นจิตที่ทำหน้าที่รู้กระทบสัมผัส มีได้ยินไหม (มี) (โสตวิญญาณ) ทำหน้าที่ได้ยิน ที่สำคัญเราต้องเข้าใจก่อนว่าจิตเกิดดับอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องห่วงว่าจิตจะเกิดไม่ทันเมื่อขับรถ หรือพูดคุยไปด้วย แค่วินาทีเดียว จิตก็เกิดดับนับไม่ถ้วนแล้วครับ สรุปก็ คือจิตทุกดวงมีกิจหน้าที่การงานของเขา และจิตเกิดดับอย่างรวดเร็วมากครับ จนดูเหมือนว่าทุกอย่างไม่ดับเลย คงที่ แต่ทุกอย่างก็เกิดดับครับ

อนุโมทนา

ถ้าเราจะเปรียบเหมือนหลอดฟลูออเรชเชนต์ได้ไหมครับ (เป็นตัวอย่างง่ายๆ ) เพราะ แสงที่เราเห็นว่าสว่างอยู่ตลอดเวลาจริงๆ แล้วเปิด ปิด อยู่ตลอดเวลาแต่ความไวมาก เกินกว่าสายตาเราจะสังเกตเห็นได้ จึงดูเสมือนหนึ่งว่า หลอดไฟดวงนั้นสว่างอยู่ ตลอดเวลา เนื่องจากไวเกินกว่าสายตาเราจะสังเกตเห็นได้

เป็นข้อเปรียบเทียบที่ดีค่ะ แต่การเกิดดับของจิตก็ยังรวดเร็วกว่านั้นมาก ท่านกล่าว ไว้ว่าชั่วเวลาเพียงลัดนิ้วมือเดียว จิตเกิดดับแสนโกฏิขณะ ไม่ใช่แค่พันหรือแค่หมื่น ขณะนะคะ

ขอเรียนถามท่านผู้รู้ครับ ว่ามีหน่วยวัดเหมือนทางวิทยาศาสตร์หรือไม่ เช่น ๑๐๐ กม/ชม หรืออะไรทำนองนี้

ตามหลักคำสอนของพระผู้มีพระภาคแสดงว่า การเกิดดับของรูปธรรมและนามธรรม รวดเร็วมากไม่มีเครื่องมือใดๆ วัดได้ โดยเฉพาะนามธรรมจะใช้รูปเป็นเครื่องวัดไม่ได้ เพราะนามธรรมไม่มีรูปร่างสัณฐาน แต่เมื่อเทียบกับรูปธรรม นามธรรมเกิดดับเร็วกว่า คือรูปหนึ่งขณะจิตเกิดดับ ๑๗ ขณะ

ยินดีในกุศลจิตค่ะ