ท่านอาจารย์สุจินต์ ไปสนทนาธรรมที่เดอะวินเทจ เขาใหญ่ ๑๓-๑๔ ส.ค. ๒๕๕๖
โดย khampan.a  14 ส.ค. 2556
หัวข้อหมายเลข 23376

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

วันอังคารที่ ๑๓ และ วันพุธที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๖ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

และคณะวิทยากร ได้ไปสนทนาธรรมที่ เดอะวินเทจ โฮเต็ล เขาใหญ่ จ. นครราชสีมา

ด้วยกุศลศรัทธาของคุณแสงมณี ชิงดวง สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลำดับที่

๑๔๓๗ เดิมทีคุณแสงมณีมีจุดประสงค์หลักเพื่อจะให้ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ได้พักผ่อน ด้วยความระลึกถึงพระคุณของท่านอาจารย์จึงขอโอกาสเจริญกุศลในครั้งนี้

แต่ท่านอาจารย์ท่านเห็นว่าควรที่จะมีการสนทนาธรรมด้วย จึงเป็นเหตุให้สมาชิกชมรม

บ้านธัมมะ มศพ. ได้เดินทางมาในครั้งนี้ เพื่อสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกจากการ

มีโอกาสได้ฟังได้สนทนาธรรมซึ่งเป็นมงคลอันประเสริฐอย่างยิ่ง

สำหรับการจัดการสนทนาธรรมในครั้งนี้ ได้รับความสะดวกสบายทุกอย่างเป็นอย่างดี

จากอาสาสมัครฝ่ายจัดกิจกรรมสนทนาธรรมนอกสถานที่ การเดินทางในครั้งนี้ คณะอาสา

สมัครฝ่ายบันทึกภาพวีดีโอการสนทนาธรรมและ คณะวิทยากร ได้เดินทางโดยรถตู้ซึ่ง

สนับสนุนโดยบริษัทมนตรีทรานสปอร์ต ก็ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน มา ณ

ที่นี้ด้วย

อนึ่ง เป็นที่น่าอนุโมทนา คือ ในช่วงทีมีการสนทนาธรรม นั้น มีเจ้าหน้าที่ดูความ

เรียบร้อยอาคารสถานที่ของ เดอะวินเทจโฮเต็ล เขาใหญ่นี้ ได้นั่งฟังพระธรรมอยู่ด้าน

หลัง ไตร่ตรองพิจารณาตามในสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง ถึงกับกล่าวว่า ไม่เคยฟังความจริง

อย่างนี้มาก่อน และยังได้รับหนังสือธรรมของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

ไปศึกษาต่อ พร้อมกับแบ่งปันให้เพื่อนได้อ่านด้วย และยังกล่าวด้วยว่า ถ้ามีกิจกรรมดีๆ

อย่างนี้อีก ยินดีต้อนรับคณะของมูลนิธิฯ เป็นอย่างยิ่ง

การสนทนาธรรมในครั้งนี้ ข้าพเจ้าก็ได้ร่วมฟังและสนทนาด้วย จึงขออนุญาต

ประมวลสาระสำคัญของพระธรรม ตลอดการสนทนาทั้งสองวัน มาฝากผู้ศึกษา

พระธรรมร่วมกันทุกท่าน ได้พิจารณาไตร่ตรอง ร่วมกัน เท่าที่จะประมวลได้

ตามกำลังของตนเอง ดังต่อไปนี้

@จะเริ่มต้นอย่างไรกับการที่จะเข้าใจธรรม? เริ่มจากความเป็นผู้ตรง จริงใจ ในการศึกษาว่า

ศึกษาเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งทีมีจริงๆ ในขณะนี้ ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อน

@ไม่มีอะไรยากเท่ากับพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ซึ่งเป็นพระปัญญา

ตรัสรู้ของพระองค์ พระธรรม จึงไม่ง่าย และไม่สั้น เพราะเหตุว่า พระองค์ทรงแสดง

พระธรรมนานถึง ๔๕ พรรษา

@ต้องเริ่มฟังตั้งแต่คำแรก คือ คำว่า ธรรม

@อะไรบ้างที่มีจริงในขณะนี้? ไม่ว่าจะกล่าวถึงคำใด ก็ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริง

ในขณะนี้เลยเช่น เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ฯลฯ ถ้าไม่ฟังพระธรรม จะไม่มีทางรู้เลย ทั้งๆ

ที่มีจริงแต่ก็ไม่รู้

@ไม่มีใครบังคับให้สภาพธรรมเกิดหรือไม่เกิดได้ แต่ธรรมเกิดเพราะเหตุปัจจัย

และเกิดแล้วก็ดับไป ไม่กลับมาอีกเลย

@ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิด เกิดเพราะเหตุปัจจัย เห็นขณะนี้ เกิดแล้วดับแล้ว คิดขณะนี้

เกิดแล้วดับแล้ว ไม่มีธรรมแม้แต่อย่างเดียวที่เกิดแล้วจะไม่ดับ

@เกิดแล้วก็ตาย ระหว่างที่ยังไม่ตาย มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ก็ไม่พ้นไปจากธรรมที่มีจริง

แต่ละอย่างๆ ซึ่งเป็นชีวิตจริงๆ ของแต่ละคนนั่นเอง

@เห็น กับ ได้ยิน ไม่พร้อมกัน

@เห็น เป็น เห็น ได้ยินเป็นได้ยิน เป็นอย่างอื่นไม่ได้

@แต่ละหนึ่งที่มีจริงๆ นั่นแหละ เป็นธรรม

@ทำอะไรไม่ได้ นอกจากเข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ให้ถูกต้อง

@พระธรรมที่ทรงแสดง แสดงให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ตามความเป็นจริง

@พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้ทรงมอบปัญญาของพระองค์ให้กับใครเลย แต่พระองค์

ทรงแสดงธรรม แสดงความจริง เกื้อกูลให้สัตว์โลกได้ฟังได้ศึกษาสะสมความเข้าใจถูก

เห็นถูกตามความเป็นจริง เป็นปัญญาของตนเอง

@เย็น เป็น เย็น สิ่งที่มีจริงนั้น ใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่นไม่ได้ นี้เป็นสิ่งที่มี

จริงๆ ในชีวิตประจำวัน

@ถ้าไม่ติดข้อง จะไม่เดือดร้อนเลย เพราะบางคนจะใส่เสื้อสักตัว เดือดร้อนทั้งคืน

@ความทุกข์ ความเศร้าโศก ก็มาจากความติดข้อง

@ความไม่รู้ ทำให้ติดข้อง ติดข้องมากเท่าใด ความไม่รู้ก็มากเท่านั้น ความติดข้อง

เกิดเมื่อใดความไม่รู้ก็เกิดด้วยทุกครั้ง

@การเกิดเป็นทุกข์แน่ๆ ถ้าไม่มีการเกิดเลย ทุกข์ใดๆ ก็จะมีไม่ได้

@การมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ก็ต้องเป็นผู้มีบุญที่ได้กระทำมาแล้วตั้งแต่ปางก่อน เช่น

เห็นประโยชน์ของพระธรรมว่า วิชาการต่างๆ ยังศึกษาเล่าเรียนได้ แล้วสิ่งที่ประเสริฐ

ที่เป็นพระปัญญาตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะไม่ศึกษาหรือ จึงเริ่มฟัง เริ่มศึกษา

เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกต่อไป

@ธรรม เป็นสิ่งที่ยาก แต่ก็สามารถค่อยๆ เข้าใจขึ้นได้

@ความเห็นที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ไม่ตรงตามความเป็นจริง นั่นเป็นความ

เห็นผิด ตรงกันข้ามกับความเห็นถูก

@เห็น อย่างเดียว ได้ยินอย่างเดียว แล้วคนอยู่ที่ไหน ไม่มีคนเลย มีแต่ธรรมเท่านั้น

@สภาพธรรมที่เป็นรูปธรรม ไม่สามารถรู้อะไรได้เลย เช่น วางของไว้บนโต๊ะ โต๊ะจะไม่

รู้สึกเลยว่าหนัก เพราะเหตุว่าไม่ใช่สภาพรู้ นั่นเอง

@ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า มีอะไรที่เป็นเราหรือของเราหรือเปล่า หรือว่ามีแต่ธรรมที่มีจริง

แต่ละหนึ่ง เท่านั้น?

@การศึกษาพระธรรม จะทำให้เราเข้าใจความจริงในคำที่ได้ยินได้ฟังว่า เดิมทีนั้นคำนั้น

มีความหมายว่าอย่างไรที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เมื่อศึกษาแล้วจะทำให้เข้าใจ

ถูกต้องตามความหมายเดิม ไม่ใช่ความหมายที่เลือนมาแล้วเอามาใช้ไม่ถูกต้องตาม

ความเป็นจริงของสภาพธรรม

@เห็น เป็นธรรม เป็นธาตุ อย่างหนึ่ง แต่เพราะไม่รู้ จึงเห็นว่าเป็นเราที่เห็น

@ความเข้าใจทีละนิดทีละหน่อย ในที่สุดก็จะเป็นความเข้าใจที่มากได้

@ความเข้าใจ ไม่สูญหายไปไหน

@น้อมรับพระธรรม ก็เริ่มเป็นธรรมทายาทตามกำลังปัญญาของแต่ละคน

@มีเงินทองมาย แต่ก็อยู่ไม่สุข เพราะกิเลส

@มีทุกข์เพราะกิเลส แต่ก็สามารถดับกิเลสได้ เมื่อมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง

@การพึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ต้องพึ่งพระคุณของพระองค์ คือ พระบริสุทธิคุณ

พระปัญญาคุณ และพระมหากุรุณาคุณที่ทรงแสดงความจริง แม้พระองค์จะเสด็จดับขันธ-

ปรินิพพานแล้ว แต่ผู้สะสมเหตุที่ดีมายังมีโอกาสได้ฟังพระธรรมทีพระองค์ทรงแสดง

ณ พระวิหารเชตวัน เป็นต้น ทำให้ได้เข้าใจความจริง เป็นการพึ่งเพื่อให้เกิดปัญญา

ความเข้าใจถูกเห็นถูก ไม่ใช่พึ่งด้วยขอ

@บางคนโกรธเร็วมาก ได้ยินคำบางคำไม่ได้เลย โกรธทันที

@พระธรรม ไม่ใช่ให้ไม่เข้าใจ ไม่ใช่ให้เห็นผิด แต่เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูก

@ผู้รับพระธรรมคำสอน เมื่อมีความเข้าใจถูกเห็นถูก ก็จะสืบต่อพระธรรมคำสอนต่อไป

ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง

@ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง จะไม่ได้รับประโยชน์จาก

พระธรรมเลย

@บุญที่ได้กระทำมาแล้วตั้งแต่ชาติปางก่อน จึงทำให้ผู้นั้นน้อมมาสู่การฟังพระธรรม

@ที่จะเข้าจความเป็นจริงของธรรมได้ จะต้องเป็นผู้ตรง จริงใจ อดทนอย่างยิ่ง เพราะ

ธรรมยากอย่างยิ่ง

@ขณะนี้ ฟังอะไร ฟังเรื่องของธรรม เพื่ออะไร เพื่อเข้าใจถูกเห้นถูกว่า ความจริงเป็น

อย่างนี้จริงๆ

@พระธรรม เตือนให้เป็นผู้ไม่ประมาทในอกุศล และ กุศล แม้เพียงเล็กน้อย

@แต่ละคนแต่ละท่าน ก็เป็นธรรมแต่ละหนึ่ง ซึ่งไม่พ้นไปจากธรรม ที่เป็นนามธรรมและ

รูปธรรม

@ควรที่จะเป็นผู้น้อมรับพระธรรมคำสอนหรือเปล่า เพราะผู้ทีทรงแสดงนั้น เป็นพระสัมมา

สัมพุทธเจ้า

@ชีวิตสั้นแสนสั้น การมีโอกาสได้ฟังความจริง นี้แหละ เป็นสิ่งที่ประเสริฐ

@ถ้าไม่มีความเข้าใจถูกเห็นถูกแล้ว ไม่สามารถขุดรากของกิเลสได้เลย

@ธรรม คิดเอาเองไม่ได้ จะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม ความจริงก็เป็นความจริง เปลี่ยนแปลง

ไม่ได้

@ที่ไม่ทำกุศล ก็เพราะไม่รู้ว่าถ้ากุศลไม่เกิดก็เป็นอกุศล

@ความดีที่ได้สะสมเพิ่มขึ้นๆ จะขัดเกลาอกุศลให้เบาบาง ฟังพระธรรมก็เข้าใจขึ้น

@ชวนกันให้ไปทำอไรด้วยความไม่รู้ ชวนกันไปให้ไม่รู้ จะมีประโยชน์อะไร

@อันตรายมากถ้าปฏิญาณตนว่่าเป็นภิกษุแล้ว ไม่ได้กระทำตามที่ปฏิญาณไว้ เที่ยว

ย่ำยีพระธรรมวินัย ไม่ประพฤติตามคำสอน เป็นโทษโดยส่วนเดียว

@ผู้ที่มีอกุศลมากๆ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงแสดงเรื่องของอกุศลธรรม เพื่อให้รู้ ให้

สำนึกว่ามีมากมายเพียงใด

@ผู้ที่มีปัญญาเท่านั้น ที่จะรักษาพระวินัยได้ ถ้าไม่มีปัญญาแล้ว ไม่สามารถจะรักษาได้เลย

มีแต่จะกระทำในสิ่งที่ผิด ละเลยในสิ่งที่ถูกเพราะไม่เข้าใจ

@ถ้ามีความเข้าใจธรรมถูกต้องตามความเป็นจริงแล้ว ใครพูดผิด ก็รู้ ใครพูดถูก ก็รู้

@ทดแทนพระคุณมารดาบิดา ด้วยการฟังพระธรรมให้เข้าใจ

@ชีวิต ไม่พ้นไปจากธรรมเลย จะจำ หรือ จะลืม ก็คือ ธรรม เกิดเพราะเหตุปัจจัย

ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น

@ชีวิตของแต่ละคน เปรียบเสมือนเรือที่ผูกอยู่บนหลักในท่ามกลางน้ำอันมีกระแสเชียว

(เชี่ยว เพราะกิเลส ถูกพัดพาไปด้วยกิเลส ขึ้นอยู่กับว่าใครจะอาศัยหลักที่มั่นคงคือ

คุณความดีเป็นเครื่องประคับประคองมากแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ความเข้าใจ

พระธรรม)

@เด็กบางคน ใหม่ๆ เป็นคนน่ารักมาก (ก่อนที่จะถูกสิ่งแวดล้อมทับถม) เป็นคนเอื้อ

อาทรถือของให้ผู้ใหญ่ โดยไม่ต้องมีใครบอกกล่าว แต่แล้ววันเดือนปี ผ่านไป ก็เป็น

สมาชิกของสังคมก้มหน้า (วันๆ ไม่ทำอะไร มีแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นเกม เล่นไลน์)

@ทุกคนตายแน่ๆ แต่ก่อนตาย ได้ประโยชน์อะไรจากการได้เกิดมาเป็นบุคคลนี้้.

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของคุณแสงมณี ชิงดวง

ตลอดจนถึงขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ด้วยครับ...



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 14 ส.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

@การมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ก็ต้องเป็นผู้มีบุญที่ได้กระทำมาแล้วตั้งแต่ปางก่อน เช่น

เห็นประโยชน์ของพระธรรมว่า วิชาการต่างๆ ยังศึกษาเล่าเรียนได้ แล้วสิ่งที่ประเสริฐ

ที่เป็นพระปัญญาตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะไม่ศึกษาหรือ จึงเริ่มฟัง เริ่มศึกษา

เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกต่อไป

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของคุณแสงมณี ชิงดวง

ขออนุมทนา อาจารย์คำปั่น ที่นำภาพ และ ธรรมดีๆ มาให้อ่านกัน เหมือนได้ไปเขาใหญ่

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่าน ครับ


ความคิดเห็น 2    โดย วันชัย๒๕๐๔  วันที่ 14 ส.ค. 2556

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ คุณคำปั่น มากครับ

ที่ได้นำข้อความและภาพการสนทนาธรรมมาให้ทุกๆ ท่าน ที่ไม่มีโอกาสได้ไป

ได้รับประโยชน์ด้วย รวดเร็วจริงๆ ครับ

"...ชีวิตสั้นแสนสั้น การมีโอกาสได้ฟังความจริง นี้แหละ เป็นสิ่งที่ประเสริฐ..."

กราบท่านอาจารย์

ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของคุณแสงมณี ชิงดวง

และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ


ความคิดเห็น 3    โดย napachant  วันที่ 15 ส.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย nong  วันที่ 15 ส.ค. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย ผู้ร่วมเดินทาง  วันที่ 15 ส.ค. 2556

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของคุณแสงมณี ชิงดวง และคณะ

ในการจัดการสนทนาธรรม

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาอาจารย์คำปั่น สำหรับภาพ และ ธรรมดีๆ ครับ

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ


ความคิดเห็น 6    โดย wannee.s  วันที่ 16 ส.ค. 2556

แต่ละหนึ่งที่มีจริงๆ นั่นแหละ เป็นธรรม

อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย raynu.p  วันที่ 17 ส.ค. 2556

กราบอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย ch.  วันที่ 17 ส.ค. 2556

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 9    โดย ธนัตถ์กานต์  วันที่ 17 ส.ค. 2556

กราบอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย h_peijen  วันที่ 18 ส.ค. 2556

กราบอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย rrebs10576  วันที่ 19 ส.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 12    โดย wirat.k  วันที่ 20 ส.ค. 2556

ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ