กราบอนุโมทนา ขอเรียนถามดังนี้
1.ช่วงที่ภวังคจิตเกิดดับสืบต่อจาก วิถีจิตทางทวารต่างๆ ที่ดับไปแล้ว ขณะนั้น ภวังคจิตมีอะไรเป็นอารมณ์หรือ เป็นอารมณ์เดิมกับปฏิสนธิจิต ซึ่งรู้อารมณ์เดียวกับจิตใกล้จุติ ของชาติก่อน
2.โสมนัส สันติรณกุศลวิบากจิต ทำกิจปฏิสนธิไม่ได้เพราะเหตุใด ในขณะที่ อุเบกขา สันติรณกุศลวิบาก และอกุศลวิบากทำกิจปฏิสนธิได้
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
1.ช่วงที่ภวังคจิตเกิดดับสืบต่อจาก วิถีจิตทางทวารต่างๆ ที่ดับไปแล้ว ขณะนั้นภวังคจิตมีอะไรเป็นอารมณ์หรือ เป็นอารมณ์เดิมกับปฏิสนธิจิต ซึ่งรู้อารมณ์เดียวกับจิตใกล้จุติ ของชาติก่อน
♢ การศึกษาพระธรรม ก็ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย และประการที่สำคัญ จุดประสงค์ของการศึกษาพระธรรมก็เพื่อเข้าใจถูกเห็นถูกในสภาพธรรมที่มีจริงๆ ในชีวิตประจำวัน แต่ไม่เคยรู้ไม่เคยเข้าใจ แม้จะกล่าวถึง ภวังคจิต ก็ดี วิถีจิตก็ดี ก็คือ สภาพธรรมที่มีจริงๆ ซึ่งถ้าไม่ได้ฟัง ไม่ได้ศึกษาจะไม่สามารถเข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริงได้เลย
ทุกขณะของชีวิต ก็คือ การเกิดดับสืบต่อกันของจิตแต่ละขณะๆ เป็นไปอย่างไม่ขาดสาย จิต เมื่อจำแนกเป็นประเภทใหญ่ๆ แล้ว มี ๒ ประเภท คือ จิตที่เป็นวิถีจิต กับ จิตที่ไม่ใช่วิถีจิต ซึ่งก็ต้องกล่าวถึงความหมายของจิต ๒ ประเภทนี้เป็นเบื้องต้นก่อนว่า วิถีจิต คือ จิตที่เกิดขึ้นโดยอาศัยทวารหนึ่งทวารใดใน ๖ ทวาร (ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ) ในการรู้แจ้งอารมณ์
จิตที่ไม่ใช่วิถีจิต คือ จิตที่เกิดขึ้นรู้แจ้งอารมณ์โดยไม่อาศัยทวารหนึ่งทวารใดใน ๖ ทวารเลย จิตที่ไม่ใช่วิถีจิต มี ๓ ประเภท คือ ปฏิสนธิจิต ภวังคจิต และจุติจิต ภวังคจิต คือจิตที่ทำกิจสืบต่อดำรงภพชาติ ทำให้สภาพที่บัญญัติว่า สัตว์ มีชีวิตอยู่ได้ ภวังคจิตเป็นวิบากจิต เป็นจิตประเภทเดียวกับปฏิสนธิจิต จุติจิต ภวังคจิต คือ จิตที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ดำรงภพชาติความเป็นบุคคลนี้ไว้ จนกว่าจะจุติ
จิตเกิดขึ้นต้องมีอารมณ์ แม้ ภวังคจิต ก็เป็นจิต ก็ต้องมีอารมณ์เช่นกัน ซึ่งภวังคจิตทำกิจหน้าที่ดำรงภพชาติ มีอารมณ์ของชวนจิตสุดท้ายของชาติก่อน ซึ่งภวังคจิตมีอารมณ์เดียวกันกับปฏิสนธิจิต และจุติของชาตินี้ ครับ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
2.โสมนัส สันติรณกุศลวิบากจิต ทำกิจปฏิสนธิไม่ได้เพราะเหตุใด ในขณะที่ อุเบกขาสันติรณกุศลวิบาก และอกุศลวิบากทำกิจปฏิสนธิได้
♢ โสมนัสสันตีรณกุศลวิบากจิต ทํากิจปฏิสนธิไม่ได้ ด้วยเหตุผลที่ว่า หากเป็นโสมนัสเวทนาแล้ว เป็นเวทนาที่มีกำลัง ย่อมจะทำกิจปฏิสนธิ ในมหาวิบาก ที่เป็น กุศลวิบากที่เป็นโสมนัส ครับ เพราะโสมนัสเวทนา มีกำลังกว่า อุเบกขาเวทนา ดังนั้น เมื่อโสมนัสเวทนา เป็นเวทนาที่มีกำลัง ย่อมไม่คู่ควรกับจิตที่มีกำลังอ่อน ที่ไม่ประกอบด้วยเหตุเลย ที่เป็น สันตีรณจิต ที่จะทำกิจปฏิสนธิ แต่ย่อมคู่ควรกับ มหาวิบากที่เป็นกุศล ที่มีกำลัง ที่เป็นโสมนัส ที่จะทำกิจปฏิสนธิ ครับ ส่วนอุเบกขาเวทนา เป็นเวทนาที่มีกำลังอ่อนกว่า โสมนัส ย่อมคู่ควรกับ จิตที่เป็นสันตีรณจิต ที่ไม่ประกอบด้วยเหตุ จึงทำกิจปฏิสนธิได้ครับ
เชิญคลิกฟังคำบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ที่นี่ครับ
สัมปฏิจฉันนจิต - สันตีรณจิต กับ ปฏิสนธิกิจ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ความเป็นจริงของธรรมเป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น ใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ตามความเป็นจริงของจิตแล้ว เมื่อเกิดขึ้นก็ต้องรู้อารมณ์ ตามควรแก่จิตประเภทนั้นๆ แม้ภวังคจิต ก็ต้องรู้อารมณ์ แต่ในขณะที่เป็นภวังค์นั้น โลกนี้ไม่ปรากฏ สำหรับในชาตินี้ นั้น ปฏิสนธิจิต ภวังคจิต และ จุติจิต รู้อารมณ์เดียวกัน คือ อารมณ์ของชวนจิตก่อนจุติของชาติก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจตามได้
-จิตที่กิจปฏิสนธิในกามภูมิ มีดังนี้ คือ
♢ อุเบกขาสันตีรณอกุศลวิบาก ๑ ดวง เป็นผลของอกุศลกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำปฏิสนธิกิจในอบายภูมิ ๔ คือ เกิดในนรก เกิดเป็นเปรต เกิดเป็นอสุรกาย เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน
♢ อุเบกขาสันตีรณกุศลวิบาก ๑ ดวง เป็นผลของกุศลกรรมอย่างอ่อนไม่มีกำลัง จึงทำปฏิสนธิกิจในมนุษย์โดยมีอกุศลกรรมเบียดเบียน ทำให้เป็นบุคคลพิการ บ้า ใบ้ บอด หนวก เป็นต้น ตั้งแต่กำเนิด
♢ มหาวิบาก ๘ ดวง ทำปฏิสนธิกิจในภูมิมนุษย์และสวรรค์ ๖ ภูมิต่างๆ กันตามกำลังและความประณีตของกุศลกรรมนั้นๆ จิตประเภทอื่นไม่สามารถทำกิจปฏิสนธิในกามภูมิได้
เป็นที่น่าพิจารณาว่า ได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ซึ่งก็ต้องด้วยผลของกุศลอย่างแน่นอน แม้ไม่สามารถจะทราบได้ว่าเป็นผลของกุศลดวงใด แต่ก็สามารถที่จะได้สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก และสะสมคุณความดีประการต่างๆ สะสมเป็นที่พึ่งให้กับตนเองต่อไปได้ เพราะธรรมที่จะเป็นที่พึ่งได้ ต้องเป็นธรรมฝ่ายดีเท่านั้น ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ปฏิสนธิจิต ภวังคจิต จุติจิต มีอารมณ์เดียวกัน กับ ชวนจิตสุดท้ายของขาติก่อน ค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาและขอบคุณทุกท่านค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ