สมถภาวนาต้องมีปัญญาก่อนจะไปทำ


    แล้วอีกอย่างที่เรียกว่าทำสมาธิแล้วจะได้บุญ ถ้ายังไม่รู้ว่าบุญคือขณะไหน จะไม่รู้เลยว่ายังคงเป็นโมหะ ในวิสุทธิมรรคมีการอบรมเจริญภาวนา แล้วก็มีอารมณ์ของสมถภาวนา ๔๐  อย่าง เริ่มต้นด้วยกสิณ คือการที่เอาดินมาทำเป็นวงกลม แล้วก็เพ่งดูเพื่อที่จะให้จิตสงบ คนที่อ่านวิสุทธิมรรคทำตามนั้น แต่ผลก็คือว่าไม่มีปัญญา หรือไม่มีความเข้าใจ ไม่มีสติสัมปชัญญะที่จะรู้ว่า จิตขณะที่สงบต่างกับขณะที่ไม่สงบอย่างไร  ในขณะนี้คะ เพราะเหตุว่าจิตเกิดดับสลับเร็วมากจนยากที่จะรู้ได้ว่า จิตที่สงบนั้นต่างกับจิตที่ไม่สงบ ขั้นนี้ต้องมีก่อนในการทำสมาธิที่เป็นสัมมาสมาธิ แต่ถ้าไม่มีการระลึกรู้สภาพของจิตเลย ไม่มีความต่างกันเลย มีแต่ความต้องการเหมือนเดิม เพียงแต่ย้ายสิ่งที่ถูกต้องการเท่านั้นเอง ก่อนจะทำสมาธิก็อาจจะต้องการอาหารอร่อย ต้องการเสียงเพราะๆ ต้องการฟังเพลง นั่นคือก่อนสมาธิ  แต่พอทำสมาธิก็ไม่ต้องการรูป ไม่ต้องการเสียง ไม่ต้องการกลิ่น ไม่ต้องการรส แต่ต้องการใจสบายๆ ที่ไม่กังวล ไม่เดือดร้อน ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่เหน็ดเหนื่อย ไม่คิดมาก ไม่ห่วงใย ก็เลยคิดว่าขณะนั้นเป็นกุศล แต่ความจริงขณะที่กำลังพอใจสิ่งใดก็ตาม ขณะนั้นเป็นอกุศล เป็นความติดข้อง เป็นลักษณะของโลภะ เพราะฉะนั้นจึงต้องศึกษาอย่างละเอียดในความต่างกันของอกุศลจิตกับกุศลจิต  แล้วอย่าเป็นผู้ที่เชื่อง่าย แต่เป็นผู้ที่มีสติสัมปชัญญะ ซึ่งสัมปชัญญะที่นี่ก็คือปัญญา ต้องมีปัญญาพร้อมสติที่จะรู้ลักษณะของจิตซึ่งกำลังเกิดดับเป็นอยู่ในขณะนี้ ผู้ที่จะอบรมเจริญกุศลขั้นความสงบของจิต ที่จะให้จิตตั้งมั่นคงเป็นสมาธิ ต้องมีสติสัมปชัญญะที่จะรู้ว่า ลักษณะของกุศลจิตต่างกับอกกุศลจิต แล้วก็เจริญกุศลยิ่งขึ้น  จิตสงบยิ่งขึ้น อย่างนั้นจึงจะเป็นกุศล  

     


    หมายเลข 4319
    26 ส.ค. 2558