การสะสมที่ชวนวิถีจิตสะสมไปทุกขณะจนเป็นอุปนิสัย


    เพราะฉะนั้นการสะสมที่ชวนวิถีจิตก็สะสมไปทุก ๆ ขณะ จนกระทั่งเป็นอุปนิสัยต่าง ๆ การกระทำกิริยาอาการทางกาย ทางวาจาต่าง ๆ เพราะฉะนั้นบางท่านแม้เห็นพระอรหันต์ ก็ยังสันนิษฐานอาการที่ปรากฏภายนอกแล้วก็เกิดการดูหมิ่นขึ้น เช่น วัสสการพราหมณ์ มหาอำมาตย์ของแคว้นมคธ เวลาเห็นท่านพระมหากัจจายนะลงมาจากภูเขา ก็กล่าวว่า ท่านผู้นี้มีอาการเหมือนลิง

    การสั่งสมของชวนวิถีจิตของวัสสการพราหมณ์ที่สำคัญตน แม้ว่าพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจะตรัสให้ท่านขอให้ท่านพระมหากัจจายนะอดโทษให้ การสั่งสมมานะ ทำให้วัสสการพราหมณ์ไม่สามารถจะกระทำเช่นนั้นได้ แม้พระผู้มีพระภาคจะทรงพยากรณ์ว่า เมื่อวัสสการพราหมณ์สิ้นชีวิตลง จะต้องเกิดเป็นลิงในป่าไผ่ วัสสการพราหมณ์ก็ให้คนไปปลูกกล้วย อาหารของลิงไว้ พร้อมที่จะไปเกิดเป็นลิง

    เพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ให้เห็นโทษของการสะสมของทางฝ่ายอกุศลว่า ถึงแม้ว่าจะเป็นพระอรหันต์แล้ว การสะสมของจิตแต่ละขณะ โดยความสามารถของชวนวิถี ซึ่งเกิดซ้ำกันถึง ๗ ครั้ง ก็จะทำให้แต่ละบุคคลนี้มีกาย มีวาจา ต่าง ๆ กัน เป็นวาสนา  ซึ่งคำว่า “วาสนา” นี้ หมายความถึงการสะสมจนชิน จนกระทั่งเป็นอาการที่ปรากฏ ไม่ใช่ความหมายในภาษาไทย ซึ่งวาสนาแล้วจะหมายความถึง ความเป็นใหญ่เป็นโตต่างๆ แต่ “วาสนา” หมายความถึงการสะสมของอกุศล จนกระทั่งเป็นสิ่งที่เคยชินเป็นประจำทางกาย ทางวาจา

     


    หมายเลข 6884
    24 ส.ค. 2558