เนื้อ ๑๐ อย่าง ที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม

 
ทรง
วันที่  22 ม.ค. 2555
หมายเลข  20427
อ่าน  210,308

เนื้อ ๑๐ อย่าง ที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม มีอะไรบ้างครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 22 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระวินัยบัญญัติทุกสิกขาบท พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติด้วยพระองค์เอง เพื่อให้พระภิกษุ ได้ศึกษาให้เข้าใจ เพื่อจะได้สำรวมระวัง ไม่ล่วงละเมิดในส่วนที่พระองค์ทรงห้าม และน้อมประพฤติปฏิบัติในส่วนที่พระองค์ทรงอนุญาต ตามสมควรแก่เพศบรรพชิตอันเป็นเพศที่จะต้องขัดเกลากิเลสเป็นอย่างยิ่ง เนื้อที่ทรงห้ามสำหรับพระภิกษุมี ๑๐ ชนิด คือ เนื้อมนุษย์ เนื้อช้าง เนื้อม้า เนื้อสุนัข เนื้อราชสีห์ เนื้องู เนื้อหมี เนื้อเสือโคร่ง เนื้อเสือดาว เนื้อเสือเหลือง ซึ่งมีเหตุผลในการทรงบัญญัติไว้ด้วย ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความโดยตรงจากพระวินัยปิฎกเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อมนุษย์ เป็นต้น

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 23 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สิกขาบทที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ มีเหตุผลเพื่อประโยชน์คือ ขัดเกลากิเลสของพระภิกษุที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และจะเกิดขึ้นในอนาคต และประการที่สำคัญ พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติสิกขาบท แม้แต่เรื่องการห้ามฉันเนื้อ ๑๐ ประการ ด้วยเหตุผลที่ทรงพิจารณาสังคมทางโลกด้วยครับ คือ เพื่อความเลื่อมใสของประชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส และ ที่เลื่อมใสแล้ว ก็ทำให้เลื่อมใสมากขึ้น แต่สิ่งใดที่ขัดกับทางโลกและอาจทำให้ชาวโลกติเตียนและไม่เลื่อมใสได้ พระองค์ก็จะห้ามและบัญญัติสิกขาบทนั้น เพื่อคล้อยตามกับชาวโลก แต่สิกขาบทที่พระองค์บัญญัตินั้น ก็ต้องเป็นไปในทางที่ถูกต้อง ขัดเกลากิเลสด้วย ไม่ใช่คล้อยตามในทุกเรื่องครับ

อย่างเรื่อง การห้ามฉันเนื้อ ๑๐ ประการ ในความเป็นจริง พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ฉันเนื้อได้ และพระองค์ก็ฉันเนื้อ ไม่ใช่ทานแต่ผัก หรือ มังสวิรัติ แต่พระองค์ฉันเนื้อด้วยความบริสุทธิ์ โดยส่วน ๓ คือ ไม่ได้เห็นผู้อื่นฆ่าเพื่อตน ไม่ได้ยิน และไม่ได้สงสัย และพระองค์ก็ทรงบัญญัติสิกขาบท ในเรื่องการห้ามฉันเนื้อ ๑๐ ประการ

ด้วยเหตุผลประการแรกที่ว่า เพราะบรรพชิตต้องขัดเกลา ถ้ามาบริโภค เนื้อ ๑๐ อย่าง ก็จะไม่ต่างกับคฤหัสถ์เลย นี่คือ เหตุผลประการหนึ่งครั

ประการที่สอง คือ ชาวบ้านติเตียน ย่อมทำให้ไม่เกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และผู้ที่เลื่อมใสแล้ว ก็ไม่เลื่อมใสได้ เพราะการฉันเนื้อ ๑๐ ประการ ดังเช่นคฤหัสถ์ครับ

ประการที่สาม เพราะการฉันเนื้อ บางประการ ใน ๑๐ ประการ มีการฉันเนื้อเสือ เป็นต้น กลิ่นเสือย่อมติดที่กายพระภิกษุ เสือตัวอื่นก็ย่อมมาทำร้ายพระภิกษุนั้นได้ครับ

ดังนั้น เหตุผล ที่ไม่ฉันเนื้อ ๑๐ ประการในบางประการ เพื่อความปลอดภัยของพระภิกษุ ครับ ซึ่งเหตุผลโดยย่อ ของการห้ามฉันเนื้อ ๑๐ ประการที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ มีดังนี้

ห้ามฉันเนื้อมนุษย์ เพราะมนุษย์เป็นเนื้อที่ไม่ทานกัน ใครทาน แม้แต่คฤหัสถ์ก็ถูกติเตียน จะกล่าวไปไยถึงเพศบรรพชิตที่เป็นเพศขัดเกลา จึงทรงห้ามการฉันเนื้อมนุษย์ และประชุมชนก็จะไม่เลื่อมใส

ห้ามฉันเนื้อช้าง ม้า เพราะ สัตว์ทั้งสอง เป็นพาหนะของพระราชา พระราชาทราบ ก็ไม่เลื่อมใสและชาวบ้านก็ติเตียนเรื่องนี้

ห้ามฉันเนื้อ งู และ สุนัข เพราะสัตว์ทั้งสอง เป็นสัตว์น่ารังเกียจ ชาวบ้านติเตียนในเรื่องนี้ในการฉันเนื้อทั้งสองที่เป็นสัตว์น่ารังเกียจ

ห้ามฉันเนื้อราชสีห์ เนื้องู เนื้อหมี เนื้อเสือโคร่ง เนื้อเสือดาว เนื้อเสือเหลือง ด้วยเหตุผล คือ สัตว์ตัวอื่นได้กลิ่น เนื้อที่พระภิกษุฉันแล้ว กลิ่นยังติดตัวพระภิกษุ สัตว์ตัวอื่นนั้นย่อมมาทำร้ายพระภิกษุได้ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เซจาน้อย
วันที่ 23 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pat_jesty
วันที่ 23 ม.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
h_peijen
วันที่ 23 ม.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
pamali
วันที่ 26 ม.ค. 2555

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
กรกวรรษ
วันที่ 21 ก.ค. 2559

สาธุครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Nobpadon
วันที่ 2 ต.ค. 2561

ขอบคุณมากครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ธรรมะ
วันที่ 22 ธ.ค. 2562

ขอขอบพระคุณ

ที่ลงข้อมูลข้อเท็จจริงในเรื่องนี้

สาธุ.

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ทองแท้
วันที่ 5 เม.ย. 2563

จำไม่ถึงสิบสักที​ ขอบพระคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
chatchai.k
วันที่ 5 ต.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ