ทำไมคนเราถึงฆ่าตัวตาย!

 
LNS
วันที่  26 ก.ค. 2551
หมายเลข  9379
อ่าน  5,748

อะไรนะที่ทำให้คนเราอยากตาย แค่ความอยากคงไม่มีกำลังพอถึงลงมือฆ่าตัวตายต้องมีอะไรบางอย่างส่งเสริมแน่ๆ ใช่ไหม มีเหมือนกันที่เกิดความคิดนี้ หลายครั้งกลัว "บาป" ผลของกรรมเพราะเคยได้ยินมาว่าไม่ดี แต่ก็ไม่รู้ว่าไม่ดีอย่างไร ผลกรรมของการฆ่าตัวตายเป็นอย่างไรหรือ? และพอจะแนะนำการปฎิบัติตนอย่างไรให้พ้นจากความคิดนี้ได้บ้าง อย่าบอกให้ฟังธรรมนะ ข้อนี้ทราบอยู่แล้วและพยายามทำอยู่ สงสัยว่าตัวเองขณะนี้ จิตตกมากแน่ๆ ถึงได้ถามคำถามแบบนี้ แต่ก็ขออนุโมทนาล่วงหน้าสำหรับคำตอบ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 27 ก.ค. 2551

ความคิดเรื่องฆ่าตัวตาย หรือ ความคิดเรื่องอื่นๆ ก็ดี เกิดเพราะการเคยคิด เคยทำเรียกว่า สะสมเป็นอุปนิสัย ทั่วๆ ไปก็มีคำแนะนำสำหรับผู้ที่มีความคิดฆ่าตัวตาย หลากหลาย เช่น พยายามอย่าอยู่คนเดียว ให้มีกิจกรรมกับเพื่อนๆ อยู่เสมอ เป็นต้น แต่คำแนะนำเหล่านั้นก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง ไม่สามารถห้ามความคิดของเขาได้ตลอดไป ชาตินี้ไม่ฆ่า ชาติหน้าก็อาจจะฆ่าอีกก็ได้ แต่ผู้ที่ศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมของพระพุทธเจ้า ดับกิเลสอันเป็นสาเหตุของความคิดฆ่าตัวตายได้ ย่อมไม่คิดฆ่าตัวตายอีกเลย สำหรับความคิดฆ่าตัวตายเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ที่ประสบอยู่ ไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดเลย ผู้ที่มีปัญญาท่านไม่คิดเช่นนั้น และอย่าคิดว่าตายไปแล้วจะไม่มีปัญหาอย่างนี้อีก อาจจะมากกว่าที่เป็นอยู่หลายร้อยหลายพันเท่าก็ได้ ควรคิดว่าปัญหาทั้งหลายมีทางแก้ไขให้ดีได้ สรุปคือ แนะนำให้สะสมอบรมเจริญปัญญาจนกว่าดับความคิดที่จะฆ่าตัวตาย เชิญคลิกอ่านเพิ่มที่ อยากทราบว่าการฆ่าตัวตายบาปหรือไม่

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ajarnkruo
วันที่ 27 ก.ค. 2551

อยากตายเพราะสะสมความเศร้าหมองด้วยอกุศลจิตมา ไม่ใช่แค่วันเดียว ชาติเดียว แต่สะสมมาแล้วแสนโกฏิกัปป์นับไม่ถ้วน และในชาตินี้ ก็ยังจะต้องมีการสะสมเพิ่มขึ้นต่อไป ด้วยอกุศลจิตที่มีเหตุปัจจัยให้เกิดได้อีก อกุศลจิตที่เกิดแต่ละครั้ง จะสะสมอยู่ในจิตแต่ละดวงที่เกิดดับสืบต่อกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีกำลังมากขึ้น เมื่อได้โอกาสเมื่อไร ก็จะแสดงออกมาทางกาย ทางวาจา หรือทางใจ

ที่บอกว่า เกิดความคิดแบบนี้หลายครั้ง ก็เป็นเพราะไม่ได้เคยคิดมาแค่ครั้งเดียว แต่เคยคิดอย่างนี้มาแล้วมากมายก่อนหน้านี้ สะสมจนเป็นอุปนิสัย เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ก็อาจจะกลับมามีความคิดอย่างนี้ได้อีก และที่ชาตินี้เกิดความคิดอย่างนี้ ก็แสดงให้เห็นถึงการสะสมมาก่อนหน้าว่าไม่ใช่น้อยๆ เลย ต่อให้ใครจะบอกว่าคิดอย่างนี้ไม่ดีอย่างไร แต่ถ้าไม่ใช่ด้วยความเข้าใจของตนเอง ปัญญานั้นก็ยังไม่มีกำลังจะทำอะไรกับอกุศลได้ เพราะความคิดที่จะแยบคายขึ้น จนไม่ไหลไปตามกำลังของอกุศล ต้องมาจากการเจริญปัญญารู้ความจริงของธรรมเท่านั้น ส่วนความคิดในทางโลกที่วิเคราะห์สาเหตุของการฆ่าตัวตายไปต่างๆ นาๆ โดยมากเป็นไปกับอกุศลจิต ไม่ได้เป็นไปกับการละความเห็นผิดใดๆ หรือความสงสัยใดๆ ได้จริงๆ เลย

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
prakaimuk.k
วันที่ 27 ก.ค. 2551

การประสบกับปัญหาต่างๆ การไม่สมหวัง และความอยากในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เมื่อความรู้สึกเหล่านี้มีกำลังแรงขึ้น ถูกปรุงแต่งมากขึ้น จากความคิดหรือจินตนาการในด้าน

ลบของตนเอง ก็อาจเป็นสาเหตุให้ทำลายชีวิตตนเองได้ ซึ่งทั้งหมดก็มีรากฐานมาจากกิเลส ความโลภ โกรธ หรือหลงทั้งสิ้น

การศึกษาพระธรรม ให้ค่อยๆ เข้าใจมั่นคงขึ้น ในเรื่องของทุกข์ สาเหตุแห่งทุกข์ และการดับทุกข์ เข้าใจเรื่องกรรม เรื่องเหตุเรื่องผล เข้าใจชีวิตยิ่งขึ้น จะเป็นปัจจัยให้ค่อยๆ เห็นความทุกข์ของตนเป็นเรื่องธรรมดา ทุกคนต้องมีทุกข์เหมือนกันหมด เพียงแต่มาในรูปแบบต่างกันตามการสะสม

ขณะที่คุณ LNS ฟังธรรม ขณะนั้นก็เป็นกุศลแล้วค่ะ อย่างน้อยก็ละความคิดฟุ้งซ่านต่างๆ ที่จะคิดฆ่าตัวตายไปได้หนึ่งขณะ ถ้ามีความตั้งใจที่จะฟังธรรมได้นานๆ ก็ละไปได้หลายขณะนะคะ และในที่สุดพระคุณของการเข้าใจธรรม ก็อาจจะทำให้เลิกคิดฆ่าต้วตายไปเลย หันมาเพียรศึกษาพระธรรมอย่างจริงจังมากขึ้น

ธรรมะและปัญญาเท่านั้นค่ะ ที่จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ในชิวีตได้อย่างถูกต้องสมเหตุสมผล อย่าทิ้งพระธรรมค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
พุทธรักษา
วันที่ 27 ก.ค. 2551

มีชีวิตอยู่ ทำความดี ดีกว่าค่ะ เพราะฆ่าตัวตายไปแล้วไม่สามารถทราบได้ว่ายังมีโอกาสได้ทำความดีหรือไม่ ไม่มีใครที่มีแต่ความสุขไม่มีความทุกข์ ทุกข์ได้ก็สุขได้ สลับกันอยู่ตลอดเวลา สุข ก็อยากให้นานๆ และไม่มีความอยากที่จะตายเวลาทุกข์ แม้รู้สึกว่านานจนทนไม่ได้ อยากฆ่าตัวตายให้พ้นๆ ไปแม้ขณะที่ทุกข์ก็เรียนรู้ลักษณะของความทุกข์ได้ เมื่อทุกข์ได้ก็หมดได้ ตามหลักความไม่เที่ยงและคุณจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่าเมื่อผ่านจุดนี้ไปได้ ก็เป็นช่วงเวลาของความสุขเหมือนในอดีตที่ผ่านมา หากตรองดูให้ดีความทุกข์ ความสุขเป็นธรรมดาของผู้เกิดมาทุกคนต้องประสบเปรียบเหมือนฤดูกาลที่ต้องมีหน้าฝน หน้าร้อน หน้าหนาวไม่ว่าจะชอบหรือไม่ ก็ต้องประสบแล้วที่ผ่านมาแล้ว ผ่านมาได้ไง?แล้วจะผ่านไปอีกครั้ง (อย่างผู้มีสติ) มิได้หรือ? ขอให้ระลึกถึงคุณของผู้มีความดีเป็นเครื่องอยู่

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 27 ก.ค. 2551

คนที่สะสมการฆ่าบ่อยๆ เศษของกรรมเป็นเหตุปัจจัยให้ถูกคนอื่นฆ่า หรือฆ่าตัวเองก็ได้ ในพระไตรปิฏกก็มีแสดงไว้ แม้แต่คนที่ได้ฌานก็ยังคิดฆ่าตัวตาย เช่น พระโคธิกะ ท่านได้ฌานและเสื่อมจากฌานหลายครั้ง ท่านคิดว่าคติของคนที่เสื่อมจากฌานไม่แน่นอน ท่านก็เลยฆ่าตัวตาย แล้วพิจารณาสังขารสุดท้าย ท่านได้บรรลุเป็นพระอรหันต์และก็ปรินิพพานค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เซจาน้อย
วันที่ 27 ก.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
suwit02
วันที่ 28 ก.ค. 2551
สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Komsan
วันที่ 29 ก.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
LNS
วันที่ 10 ส.ค. 2551

ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำ LNS เองได้ออกไปทำกิจกรรมอื่นบ้างก็รู้สึกดีขึ้นจริง แต่อย่างว่าไม่ถาวรเลย ความคิดของเราเองนิ่ตัดออกยากจริงๆ ยิ่งรู้ว่าเป็นความคิดที่เคยสะสมมาแล้วหลายๆ ชาติ ก็ยิ่งเศร้านะ ทำไมเราถึงได้บาปจัง กลัวไม่อยากให้มีความคิดแบบนี้สะสมไปถึงชาติอื่นๆ เลย LNS จะพยายามฟังธรรม ศึกษาให้มากขึ้น และจะทำตนให้มีประโยชน์กับผู้อื่นในชาตินี้

web board นี้ดีนะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นมากๆ อย่างน้อย LNS ก็รู้สึกมีเพื่อน สหายธรรมที่คอยรับรู้และแนะนำข้อคิดดีๆ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เมตตา
วันที่ 10 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

ทุกๆ ความเห็นมีประโยชน์มากน่ะค่ะ ดีใจมากค่ะที่คุณ LNS ดีขึ้น ความคิดที่คิดจะฆ่าตัวตายที่ได้สะสมมาเนิ่นนานในอดีตไม่สามารถจะทำให้หยุดคิดได้โดยเร็ว แต่ถ้าได้มีโอกาสมาฟังพระธรรมมีความเข้าใจในพระธรรมว่าสภาพธรรมทั้งหลายเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่มีใครที่จะไปทำให้สภาพธรรมใดเกิดขึ้นได้ จึงควรที่จะอบรมเจริญปัญญาให้เกิดความเห็นถูกในสภาพธรรมตามความเป็นจริงว่าไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตนใดๆ แม้แต่ความเศร้า ความกลัว ก็เป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่มีใครสามารถบังคับไม่ให้ความเศร้า ความกลัวเกิดขึ้นหรือไม่ให้เกิดขึ้นได้ จึงควรค่อยๆ อบรมเจริญปัญญาให้เกิดความเห็นถูกในสภาพธรรมตรงตามความเป็นจริงว่าเป็นเพียงสภาพธรรม ไม่ใช่เรา สัตว์ บุคคลใดๆ ฉนั้นจึงควรที่จะอบรมเจริญความเห็นถูก สะสมเป็นอุปนิสัยดีกว่าที่จะสะสมความคิดที่จะฆ่าตัวตายเป็นอุปนิสัยน่ะค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 13 ส.ค. 2551

ระลึกว่า "ความคิดฆ่าตัวตายเป็นสภาพธรรม ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ใคร" นะครับ ระลึกได้ก็เกิดสัมปชัญญะ คือ ปัญญา ครับ
ความเศร้าหมองเกิดจากที่เราคิดนั่นแหละ คำถามของคุณทำให้หลายท่านเกิดกุศลจิต เมตตา กรุณา ครับขออนุโมทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ