มองมุมมุ่งธรรม ๐๗ - บุญกิริยาวัตถุเป็นอย่างไร

 
สารธรรม
วันที่  30 ธ.ค. 2550
หมายเลข  6753
อ่าน  2,937

มองมุมมุ่งธรรม ๐๗

บุญกิริยาวัตถุ

บุญกิริยาวัตถุ คือ การกระทำของจิต ที่เป็นบุญกุศล มี ๑๐ ประการ คือ

๐๑. ทานมัย

๐๒. สีลมัย

๐๓. ภาวนามัย

๐๔. อปจายนมัย

๐๕. เวยยาวัจจมัย

๐๖. ปัตติทานมัย

๐๗. ปัตตานุโมทนามัย

๐๘. ธัมมัสสวนมัย

๐๙. ธัมมเทสนามัย

๑๐. ทิฏฐุชุกัมม์


กุศลที่เป็นไปในทาน การให้ มี ๓ คือ ...

๑. ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการให้

๒. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการอุทิศส่วนกุศลให้ผู้อื่นอนุโมทนา

๓. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนาในกุศลที่ผู้อื่นทำ

การให้นั้น เมื่อให้แล้วก็ยังอุทิศส่วนกุศลให้ผู้อื่นได้อนุโมทนา การอุทิศส่วนกุศลเป็นปัตติทานมัย และแม้ว่าท่านจะไม่ได้ทำกุศลเอง แต่ท่านยินดีด้วยในกุศลที่คนอื่นทำนั้น ขณะนั้นเป็นกุศลที่เนื่องกับทาน เป็นปัตตานุโมทนามัย เพราะฉะนั้น กุศลที่เป็นไปในทานจึงมี ๓ อย่าง


กุศลที่เป็นไปในศีล ก็มี ๓ คือ

๑. สีลมัย ได้แก่ การวิรัติทุจริต

๒. อปจายนมัย การนอบน้อมต่อผู้ที่ควรนอบน้อม ขณะใดมีความรู้สึกว่าควรแสดงความนอบน้อมต่อคนอื่น แต่ทำไม่ได้หรือไม่อยากทำ ขณะนั้นรู้ได้ทันทีว่าเป็นอกุศล สภาพของอกุศลจิตนั้นหยาบกระด้าง ไม่อ่อนโยน จึงกระทำกิริยาอ่อนน้อมไม่ได้เลย แต่ขณะใดก็ตามที่เห็นผู้ใหญ่ที่สูงวัยหรือผู้ที่มีคุณความดี แล้วมีจิตใจอ่อนโยนกระทำความนอบน้อมต่อคุณความดีของท่านผู้นั้น ขณะนั้นเป็นกุศลจิตซึ่งเป็นอปจายนมัย

๓. เวยยาวัจจมัย การสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้อื่น เมื่อเห็นใครอยู่ในภาวะที่เดือดร้อน หรือต้องการความช่วยเหลือ ถ้าท่านไม่เมินเฉยและช่วยเหลือเขา ขณะนั้นก็เป็นกุศลจิต บางคนไม่เข้าใจสภาพธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล เมื่อทำกุศล ทำการช่วยเหลือคนแล้วถามว่าเป็นกุศลไหม ทั้งนี้ เพราะไม่เข้าใจว่ากุศลนั้นไม่ใช่เพียงทานอย่างเดียวเท่านั้น แต่ขณะใดก็ตาม จิตใจที่ดีงามเกิดขึ้น เป็นจิตที่ไม่มีโลภะ โทสะ โมหะ ขณะนั้น เป็นกุศลประการหนึ่งประการใดในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐


กุศลที่เป็นไปในภาวนา คือ การอบรมจิต ก็มี ๓ คือ

๑. ธัมมัสสวนมัย การฟังพระธรรม

๒. ธัมมเทศนามัย การแสดงธรรม

๓. ภาวนามัย การอบรมเจริญสมถภาวนาหรือวิปัสสนาภาวนา

การฟังธรรมก็เป็นกุศลจิต เพราะฟังเรื่องสัจจธรรม เรื่องธรรมที่มีจริงเป็นจริงในชีวิตประจำวัน ทำให้เข้าใจสภาพธรรมที่เคยยึดถือว่าเป็นตัวท่านและบุคคลอื่น ทำให้เข้าใจโลก เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างตามความเป็นจริง ฉะนั้น ปัญญาที่เกิดจากการฟังธรรม จึงต่างกับปัญญาในภาษาไทย ปัญญาในภาษาไทยเป็นความรู้เรื่องอื่นๆ ที่ไม่ใช่ความรู้เพื่อขัดเกลาและดับอกุศล ฉะนั้น การฟังพระธรรมจึงเป็นการศึกษาให้เข้าใจสภาพธรรมที่พระผู้มีพระภาคฯ ทรงแสดงให้รู้จักตัวเองทุกขณะตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นประโยชน์กับทุกคน เพราะฉะนั้น ขณะที่ฟังพระธรรม ขณะนั้นเป็นกุศลไม่ต้องขวนขวายซื้อหาวัตถุมาให้ทานก็เป็นกุศลในขณะฟังพระธรรม ขณะพิจารณาพระธรรมและเป็นกุศลอย่างมาก ... เพราะเป็นกุศลขั้นภาวนา

ขอเชิญคลิกอ่านตอนต่อไป ...

๐๑ - ธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียด

๐๒ - สติมีหลายระดับ

๐๓ - ทุกขณะในชีวิตเป็นธรรม

๐๔ - ทรงแสดงพระธรรมเพราะอะไร

๐๕ - รู้จักพระพุทธเจ้าหรือยัง

๐๖ - สังฆทานที่ถูกต้องเป็นอย่างไร

๐๗ - บุญกิริยาวัตถุเป็นอย่างไร

๐๘ - ภาวนุปนิสัยเป็นกุศลที่ควรเริ่มสะสม

๐๙ - สมถภาวนาและวิปัสสนาภาวนา

๑๐ - ทิฏฐชุกรรม คืออย่างไร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
เจริญในธรรม
วันที่ 6 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pamali
วันที่ 3 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
นัน
วันที่ 20 ก.ค. 2554
ขออนุโมทนา
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
นัน
วันที่ 25 ก.ค. 2554
กราบอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ms.pimpaka
วันที่ 21 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 24 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 3 มี.ค. 2565

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ