น่าเสียดายเวลาที่ไปประพฤติปฏิบัติผิด

 
khampan.a
วันที่  8 ธ.ค. 2560
หมายเลข  29350
อ่าน  2,927

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ประมวลสาระสำคัญของการสนทนาพิเศษ

ที่บ้านคุณทักษพล-คุณจริยา เจียมวิจิตร

วันศุกร์ที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๐

(ภาพขณะสนทนา)

(ทีมงานบันทึกการถ่ายทำการสนทนาพิเศษในครั้งนี้)

~ ธรรม ลึกซึ้ง ไม่มีใครมีปัญญาเทียบเท่ากับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ด้วยเหตุนี้ ก็จะต้องฟังคำของพระองค์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง จะต้องศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบ เพราะคำของพระองค์ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าใจได้ทันที

~ ธรรมคืออะไร (คือสิ่งที่มีจริงๆ) ถ้าเราไม่ศึกษา เราก็ทำตามกันไป หลงคิดว่าเราเข้าใจธรรมแล้ว แต่ว่าเพราะได้ตระหนักว่าพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นผู้ที่ไม่มีใครที่จะมีปัญญาเปรียบปานได้ เพราะฉะนั้น คำของพระองค์ ต้องละเอียดลึกซึ้ง การศึกษา ต้องศึกษาด้วยความละเอียดจริงๆ ทุกคำ จึงสามารถที่จะทำให้มีพระองค์เป็นที่พึ่งได้

~ คนส่วนใหญ่สนใจธรรมแล้วทำอะไร เห็นไหม (ส่วนใหญ่) ไม่ได้คิดเลยที่จะเข้าใจธรรม

~ แม้แต่คำว่าธรรมคำเดียว ถ้าประมาท ไม่ศึกษาให้เข้าใจจริงๆ ก็ปกปิดทุกอย่าง

~ แม้แต่คำเดียวของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าไม่ศึกษาด้วยความเคารพ ก็ปกปิดความจริง แล้วทำให้หลงทางไปด้วย เพราะคิดว่าเข้าใจแล้ว

~ ทำด้วยความไม่เข้าใจ แล้วจะเข้าใจอะไรได้ ไม่มีคำตอบเลย

~ ต้องเป็นผู้ที่ละเอียดมาก เพราะเหตุว่า ถ้าเป็นคนเผิน เขาว่าอะไร ก็ใช่ไปหมด ไม่คิดเลยว่าอย่างไร เข้าใจจริงๆ หรือเปล่า

~ ต้องเข้าใจธรรมจริงๆ ทีละคำ ถ้าไม่เข้าใจก็สับสนหมด แม้แต่คำว่าปฏิบัติธรรม ถ้าไม่เข้าใจคำว่า ธรรม ไม่เข้าใจคำว่า ปฏิบัติ ก็ผิด

~ ถ้าไม่ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเข้าใจไหม เพราะมีแต่คำของครูบาอาจารย์ แต่ก็ไม่ได้กล่าวถึงคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้

~ ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คล้อยไป นำไปที่จะเข้าใจสิ่งที่กำลังมี

~ ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เพื่อพ้นจากความมืดบอดที่ไม่เข้าใจสิ่งที่มีมานานแสนนานทำให้เริ่มที่จะเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อย

~ ยาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือ พระธรรมทุกคำที่ทำให้เข้าใจความจริง เพราะขณะนั้น สามารถที่จะละความไม่เข้าใจได้

~ ขณะที่กำลังให้ทาน ไม่เหมือนคิดอย่างอื่น ไม่เหมือนคิดว่าจะไปซื้อของไว้สะสม แต่นี่คิดที่จะให้เพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น ขณะนั้นเพราะมีสภาพธรรมที่ระลึกได้เป็นไปในการที่จะสละสิ่งที่เรามี เพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น

~ น่าเสียดายเวลาที่ไปประพฤติปฏิบัติผิด แทนที่จะเป็นเวลาฟังพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหมือนอย่างบุคคลในสมัยพุทธกาลที่ไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระวิหารเชตวัน พระวิหารเวฬุวัน เพื่อฟังธรรม

~ ถ้าเขาไม่มีความสนใจที่จะเข้าใจความจริง ก็หมดหนทาง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า แล้วเราจะทำอะไรเขาได้ พวกเดียรถีย์ในสมัยโน้น เยอะ ครูอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น ก็มาก คนก็ไปเป็นศิษย์มากมาย ทั้งๆ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ประทับอยู่ไม่ไกล แต่เขาก็ไปสู่ความเห็นผิด

~ ไปทำสมาธิแล้วบอกว่าสบายดี แล้วคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าอย่างไร พระองค์ตรัสไว้ว่านั่น เป็นอกุศล เพราะสบายดีเป็นอกุศล ก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้น คำของคนอื่นตรงข้ามกันกับคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประมาทไม่ได้ เพราะกล่าวถึงสิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้

~ ข้อสำคัญที่สุดต้องมั่นคงว่าไม่ใช่เราแต่เป็นธรรม คือ สิ่งที่มีจริง หลากหลายมาก แต่ละหนึ่ง ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น

~ เห็นเป็นอะไร เห็นเป็นสภาพรู้ เป็นเราหรือเปล่า ตามความเป็นจริงไม่ใช่เรา เพราะบอกแล้วชัดเจนว่า เป็นสภาพรู้ จึงไม่ใช่เรา

~ ชีวิต ก็คือ แต่ละหนึ่งขณะที่เกิดดับสืบต่อกัน

~ ที่กล่าวถึงความละเอียดของสภาพธรรมที่เป็น จิต (สภาพธรรมที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์) เจตสิก (สภาพธรรมที่เกิดประกอบพร้อมกับจิต) และ รูป ก็เพื่อให้เข้าใจถึงความไม่ใช่เรา

~ ผู้ที่เป็นบรรพชิต สละเพศคฤหัสถ์เหมือนตายจากคฤหัสถ์ เกิดใหม่ในเพศบรรพชิตโดยมีศีลเป็นกำเนิด ต้องสะสมอุปนิสัยใหญ่มากที่สามารถที่จะสละเพศคฤหัสถ์ คือ เป็นคฤหัสถ์อีกต่อไปไม่ได้ จะเป็นเหมือนอย่างคฤหัสถ์ ไม่ได้

~ ไม่ว่าจะเป็นบรรพชิตหรือคฤหัสถ์ มีวิถีชีวิตต่างกัน แต่หนทางไปสู่การรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ย่อมเป็นหนทางเดียวกัน (หนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญา)

~ ไม่ว่าอะไรจะเกิด เกิดแล้ว ไม่มีใครทำ เป็นแล้วตามเหตุตามปัจจัย

~ ถ้าไม่มีปัญญา ไม่เป็นภิกษุในพระธรรมวินัย รักษาพระธรรมวินัยไม่ได้

~ ไม่ใช่ว่าใครอยากจะบวชก็บวช แต่ต้องรู้ว่าบวช ยากแค่ไหน ที่จะสละทั่วซึ่งความเป็นคฤหัสถ์ที่เคยเป็นทั้งหมด จะเป็นอย่างคฤหัสถ์อีกต่อไปไม่ได้เลย

~ เขารู้ไหมว่าคนที่จะบวชให้เขา (พระอุปัชฌาย์) รับเงินและทอง แล้วไง ถ้าเขาบวชไป ก็ต้องสอนให้เขารับเงินและทองเหมือนตน ใช่ไหม เพราะฉะนั้น ก็ไม่เป็นไปตามพระธรรมวินัย ก็เป็นบาป

~ ไม่ต้องบวช ก็สามารถที่จะเข้าใจพระธรรมได้ตลอดชีวิต เมื่อได้ศึกษาพระธรรม

~ ธรรมทุกอย่างที่เกิด ต้องมีปัจจัย ไม่ใช่เรา

~ เราต้องพูดความจริง ตามสถานการณ์ให้คนที่ไม่รู้ ซึ่งในขณะนี้ก็ระบาดแพร่หลายไปทั่วโลกในเรื่องเข้าใจว่าพระพุทธศาสนาคือสำนักปฎิบัติ เข้าใจว่าสมาธิ นั่น เป็นพระพุทธศาสนา เพราะฉะนั้นถ้าคนเข้าใจอย่างนี้ก็คือพระพุทธศาสนาอันตรธาน ถ้ามีคนที่เชื่ออย่างนี้มากขึ้นๆ เพราะฉะนั้น ก็เป็นทางเดียวที่เราจะเห็นประโยชน์แก่คนอื่นที่สมควรที่จะมีโอกาสได้ยินได้ฟังพระธรรม โดยเฉพาะกล่าวว่าเป็นชาวพุทธ ที่จะไม่ประมาทโดยการที่ว่าเชื่อคำของคนอื่นแต่ไม่ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ เพราะฉะนั้น การที่เรามีความหวังดี จึงต้องพูดทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสำนักปฏิบัติ เรื่องพระธรรมวินัย หรือแม้แต่เรื่องภิกษุรับเงินและทอง ซึ่งต้องแก้ไข เพราะเหตุถ้าไม่แก้ไข ไม่มีทางที่จะจบสิ้นลงไปได้ มีแต่เลวลง

~ ภิกษุรับและยินดีในเงินและทอง ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ตราบใดที่ยังเป็นของภิกษุนั้น ก็ยังต้องมีความยินดีในเงินและทอง และพระภิกษุรับไปทำไม ในเมื่อชีวิตของพระภิกษุสละเพศคฤหัสถ์เพื่อที่จะมีชีวิตเพื่อศึกษาพระธรรมอย่างมั่นคง โดยการที่ว่าสามารถที่จะดำรงเพศบรรพชิตตามพระธรรมวินัยได้ จึงเป็นภิกษุในธรรมวินัย ถ้าใครก็ตามไม่สามารถที่จะดำรงเพศตามพระธรรมวินัย ก็ไม่ต้องบวช เพราะเป็นโทษกับตนเอง เป็นโทษกับพระศาสนา และทำลายประเทศชาติด้วย เพราะว่าเงินทอง เสียไปโดยการที่ไม่ได้เข้าใจธรรม มากมาย

~ ชอบไม่รู้ ก็ไม่รู้ต่อไป

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง

และในอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
มกร
วันที่ 9 ธ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
papon
วันที่ 9 ธ.ค. 2560

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
worrasak
วันที่ 9 ธ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ อาจารย์

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
จิตโอภาส
วันที่ 9 ธ.ค. 2560

กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยความเคารพยิ่ง และอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
mammam929
วันที่ 9 ธ.ค. 2560

กราบบูชาพระรัตนตรัยและกราบอนุโมทนากุศลจิตที่เกิดขึ้นเป็นไปในสังสารวัฏค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
thilda
วันที่ 9 ธ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
peem
วันที่ 9 ธ.ค. 2560

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เพียงดิน
วันที่ 11 ธ.ค. 2560

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
วิริยะ
วันที่ 12 ธ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เมตตา
วันที่ 12 ธ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
kukeart
วันที่ 15 ธ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 16 ธ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ