สอบถามพระสูตรครับ

 
Tanach
วันที่  11 ก.ย. 2560
หมายเลข  29165
อ่าน  862

กราบสวัสดีท่านวิทยากร

อยากทราบพระสูตรที่มีข้อความเกี่ยวกับพระภิกษุรูปหนึ่ง บรรลุธรรมจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วเมื่อพระผู้มีพระภาคละคลองจักษุไป มารก็จำแลงกายเป็นพระผู้มีพระภาคกลับมาหาพระภิกษุนั้นใหม่ แล้วกล่าวธรรมว่า เมื่อครู่เรากล่าวผิด จริงๆ ธรรมเป็นอย่างนี้ ซึ่งไม่ตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อจะลองดูว่าภิกษุนี้รู้แจ้งอริยสัจหรือยัง ภิกษุนั้นทราบว่านี้ไม่ใช่คำสอน จึงกล่าวว่านี้มารผู้มีบาป ท่านจงไปเสีย เรารู้จักท่าน

อยากทราบว่าเป็นพระสูตรอะไรครับ

แล้วมาร เหตุใดจึงสามารถจำแลงเพศเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ในเมื่อรูปกายของท่าน ไม่ใช่ของที่แม้ช่างปั้น หรือใครคนหนึ่งจะสามารถกระทำให้เหมือนได้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 20 ก.ย. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

คงหมายถึงเรื่องของปุรพันธอุบาสก หรือ สูรอัมพัฏฐอุบาสก ซึ่งเป็นพระโสดาบัน
พระโสดาบัน เป็นพระอริยบุคคลขั้นต้นที่สามารถดับกิเลสได้ในระดับหนึ่ง ดับกิเลสได้เพียงบางประเภท กล่าวคือ ดับความเห็นผิดได้ทุกชนิด ดับความตระหนี่ ดับความริษยา ดับกิเลสอย่างหยาบที่จะเป็นเหตุให้ไปสู่อบายได้ทั้งหมด และดับความลังเลสงสัยในสภาพธรรมได้อย่างหมดสิ้น พระโสดาบันหมดสิ้นความสงสัยในสภาพธรรมเพราะได้เข้าใจอย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริของสภาพธรรม ท่านเป็นผู้มีศรัทธาที่มั่นคงในพระรัตนตรัย ไม่หวั่นไหว สามารถเข้าใจได้อย่างถูกต้องว่า สิ่งใดที่เป็นพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและสิ่งใดไม่ใช่ เพราะถ้าเป็นความจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใครกล่าว ก็เป็นความจริง

มีพระอริยบุคคลขั้นพระโสดาบันท่านหนึ่ง คือ ปุรพันธอุบาสก ได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระโสดาบันแล้ว มีมาร ปลอมมาเป็นพระพุทธเจ้า มากล่าวกับท่านว่า สังขารทั้งปวงไม่เที่ยงนั้น ไม่ถูกต้อง เพราะสังขารที่เที่ยงนั้นมีอยู่ นี้คือ คำกล่าวของมาร ท่านก็ไม่หวั่นไหว เพราะได้เข้าใจอย่างถูกต้องแล้วว่า สังขารทั้งปวง ไม่เที่ยง สังขารที่เที่ยง ย่อมไม่มี และการที่จะกล่าวความจริงได้อย่างถูกต้อง ก็ต้องเป็นผู้ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงจนกระทั่งเข้าใจ ซึ่งเมื่อมีความเข้า ใจอย่างถูกต้องแล้ว ก็กล่าวคล้อยตามพระพุทธพจน์

ดังนั้น ไม่ว่าจะได้ฟังข้อความจากใคร จากส่วนใด ที่กล่าวถึงสภาพธรรม พระโสดาบันก็ย่อมเข้า ใจอย่างถูกต้อง สามารถแยกแยะได้ว่า อย่างไหนเป็นพระพุทธพจน์ อย่างไหนไม่ใช่พระพุทธพจน์ และพระโสดาบัน ก็ยังมีกิจที่จะต้องกระทำ คือ ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาต่อไป จนกว่าจะสามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ถึงความเป็นพระอริยะเบื้องสูงขึ้นไป จนถึงความเป็นพระอรหันต์

มาร ก็คือ เทวปุตตมาร มีกำลังสามารถเนรมิตสิ่งต่างๆ ได้ สามารถเนรมิตรูปละม้ายคล้ายกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ แต่ก็ไม่ใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความประพฤติเป็นไปของเทวปุตตมาร สำหรับผู้ที่มีโอกาสได้ฟังได้ศึกษาพระธรรมด้วยความละเอียดรอบคอบแล้ว ก็จะสามารถพิจารณาได้ว่า แม้จะได้เกิดเป็นเทวดา ซึ่งเป็นผลของกุศลกรรม แต่เพราะได้เคยสะสมอุปนิสัยที่ดีไม่ดี สิ่งที่ไม่ดีเหล่านี้ไม่สูญหายไปไหน สะสมสืบต่ออยู่ในจิต เมื่อได้เหตุได้ปัจจัยก็เกิด ขึ้นทำกิจหน้าที่ จึงทำให้เป็นผู้ ไม่อยากเห็นผู้อื่นได้ดี คอยขัดขวางทุกวิถีทาง มีแต่อยากจะเห็นผู้อื่นอยู่ในวัฏฏะ ต่อไป เทวปุตตมารจึงมีความประพฤติเป็นไปที่ไม่ดีต่างๆ มากมายหลากหลาย ตามที่ปรากฏในพระไตรปิฎก เป็นไปของธรรมฝ่ายที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น มีความคิดที่วิจิตรหลากหลายตามการสะสม เต็มไปด้วยอกุศลไม่สามารถเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏตามความเป็นจริงได้ ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความจากพระไตรปิฎกได้ที่นี่ ครับ

ประวัติสูรอัมพัฏฐอุบาสก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 2 พ.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 26 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ