สนทนาธรรมที่ฮานอย มายโจ ส.ค. - ก.ย. 2560 (3)

 
kanchana.c
วันที่  4 ก.ย. 2560
หมายเลข  29144
อ่าน  1,862

4 วัน 3 คืน ที่มายโจ

วันที่ 29 ส.ค. 60 หลังจบสนทนาธรรมภาคภาษาอังกฤษตั้งแต่ 09.00 น. - 11.00 น. ที่ห้องสวีทของท่านอาจารย์และรับประทานอาหารกลางวันแล้ว ก็พากันขนสัมภาระสำหรับ 3 วันขึ้นรถบัสคันเดิมเดินทางไปทางตะวันตกของฮานอยเพื่อไปอำเภอมายโจ ส่วนจังหวัดจำชื่อไม่ได้ ซึ่งห่างออกไปประมาณ 150 กม. ใช้เวลาเดินทางกว่า 3 ชั่วโมง ตามกฏหมายกำหนด แม้จะทำความเร็วได้ในทางด่วนที่ดีที่สุดของเวียดนามที่มี 4 ช่อง ช่องละ 3 เลน รวมเป็น 12 เลน แต่ทางด่วนก็มีระยะสั้นๆ หลังจากนั้นก็เป็นทางวิ่งสวนกัน มีรถบรรทุกขนาดใหญ่มากมาย และฝนก็ตกตลอดทาง

แต่ระหว่างทางก็น่าดูด้วยทิวทัศน์ของภูเขาที่ไม่สูงมากนัก เขียวชะอุ่มด้วยต้นไม้ รูปทรงแปลกตาสลับซับซ้อนหลายชั้น เห็นเมฆสีขาวลอยผ่านตัดกับสีเขียวของต้นไม้บนภูเขา ช่างเป็นภาพที่สวยงามน่าเพลิดเพลินจริงๆ ตอนนั้นนึกอะไรไม่ได้ มีแต่เพลิดเพลินชี้ชวนกันดูทางซ้ายทางขวา เพิ่งนึกขึ้นได้ตอนนี้เอง (หลังจากผ่านไปแล้ว 4 วัน) ว่า การเห็นที่ประเสริฐสุด คือ เห็นเป็นเห็น เห็นเป็นธรรมะ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ใช่ภูเขา ต้นไม้ ก้อนเมฆ เห็นเพียงรู้สิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้โดยอาศัยตาเท่านั้น ส่วนรู้ว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดนั้นเป็นคนละขณะกับเห็น เป็นความคิดนึกถึงสิ่งที่ปรากฏให้เห็นตามสัญญา ความจำที่สะสมไว้มากมาย ส่วนความเพลิดเพลินติดข้องนั้นก็เกิดขึ้นเพราะการสะสมความติดข้องและความไม่รู้สิ่งที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริงมาแสนนานนั่นเอง ไม่มีสักขณะเดียวที่เป็นเรา มีแต่สภาพธรรมที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่สั้นแสนสั้นแล้วดับทันที ไม่กลับมาอีกเลย เดี๋ยวนี้ภูเขา ต้นไม้ ก้อนเมฆแสนสวยเหล่านั้นอยู่ที่ไหน บางคนอาจจะคิดว่าอยู่ที่มายโจ แต่ความจริงสิ่งที่ปรากฏให้เห็นเมื่อ 4 วันก่อนดับไปหมดแล้ว สิ่งที่ปรากฏให้เห็นใหม่ก็ไม่ใช่ของเก่า เหลือแต่ความทรงจำให้นึกถึงเพื่อติดข้องเท่านั้นเอง

แม้ไม่รู้ "เห็น" ตามความเป็นจริงในขณะที่กำลังเห็น แต่ก็คิดถึง "เห็น" ตามความเป็นจริงตามที่ทรงแสดงไว้ได้ จึงเห็นอานุภาพของการฟังธรรม พิจารณาธรรมบ่อยๆ เนืองๆ ที่เป็นสังขารขันธ์ปรุงแต่งให้คิดอย่างนี้ได้ ถ้าไม่เคยฟัง ไม่เคยพิจารณามาก่อน ไม่มีทางที่จะคิดอย่างนี้เลย

ทั้งหมดนี้ต้องกราบเท้าขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่นำพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้และทรงแสดงไว้ดีแล้วนำมาแสดงซ้ำๆ บ่อยๆ เนืองๆ เพื่อให้ระลึกได้ว่า เห็นเป็นเห็น เห็นเป็นธรรม ไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคลอย่างไร เช่นเดียวกับสภาพธรรมอื่นๆ ทั้งหมด ฟังไปจนกว่าจะเข้าใจตามความเป็นจริง ซึ่งก็ใช้เวลานานมาก ไม่ใช่เพียงชาตินี้ชาติเดียว เพราะสะสมความไม่รู้มาเนิ่นนาน ความไม่รู้ไม่ต้องอาศัยปัจจัยปรุงแต่งมาก ไม่เหมือนความเข้าใจต้องอาศัยโสภณเจตสิกมากมายปรุงแต่งให้เกิดขึ้น จึงต้องอาศัยเวลานานกว่าจะเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงได้

หลับๆ ตื่นๆ มาจนถึงมายโจประมาณ 5 โมงเย็น มายโจเป็นอำเภอเล็กๆ คุณบุญมี ไกด์กิตติมศักดิ์วัยเลยกลางคน ที่เคยอพยพมาอยู่อุดร เรียนหนังสือถึง ม.4 และกลับไปเรียนต่อที่เวียดนามจนเป็นอาจารย์สอนวิศวะเครื่องกล ในมหาวิทยาลัยเวียดนาม เขาเล่าให้ฟังว่า อำเภอมายโจเป็นที่อยู่ของชนกลุ่มน้อย ที่เรียกว่า ไทยขาว เป็นคนไทยที่อพยพมาจากจีนพร้อมกับพวกเรา และยังมีไทยดำที่อยู่บนภูเขา ไทยขาวอยู่บนที่ราบริมแม่น้ำ ทำนาและทำประมง ยังพูดภาษาที่ฟังเข้าใจได้บางคำ แต่เป็นสำเนียงอีสาน เช่น กินเข่า กินน้ำ กินเล่า เป็นต้น

มีสหายธรรมเวียดนามหนุ่มสาวทั้งใหม่และเก่าร่วมเดินทางมามายโจหลายคน อายุน้อยที่สุด คือมิสแทง อายุ 25 ปี พวกเราคนไทยพักที่ Sol Bungalow Hotel ที่มีทิวทัศน์สวยงาม รอบล้อมด้วยภูเขา ป่าไผ่ มีสระว่ายน้ำกลางทุ่งนาหน้าห้องพัก ส่วนเวียดนามพักที่ Home Stay ของคนไทยขาว ใกล้ๆ กัน ห่างประมาณ 100 เมตร

วันรุ่งขึ้นสนทนาธรรมภาษาอังกฤษที่ห้องอาหารของรีสอร์ท เช่นเคยที่ต้องทำหน้าที่รายงานข่าว จึงเต็มใจออกไปหาความเพลิดพลินชมบรรยากาศของหมู่บ้านคนไทยขาวที่มี 3 หมู่บ้าน นั่งรถกอล์ฟ เป็นรถไฟฟ้า นั่งได้ 8 คน

รถแล่นบนถนนคอนกรีตเล็กๆ ผ่านทุ่งนาเขียวเป็นระยะ พอเข้าหมู่บ้าน Lac ก็เห็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูงด้วยเสาซีเมนต์ แล้วต่อด้วยเสาไม้ ชั้นบนเป็นไม้หลังคาเตี้ย เหมือนบ้านในภาคอีสาน ใต้ถุนบ้านแสดงสินค้าที่เป็นฝีมือของคนไทยขาว คล้ายๆ ชาวเขาบ้านเรา ได้สนทนาภาษาไทยกันสนุกสนาน พอให้ระลึกถึงความเป็นไทยได้นิดหน่อย แต่พอพูดกันหลายประโยคก็เริ่มไม่เข้าใจกัน ต้องใช้ภาษาสากล คือภาษากายเข้าช่วย เจ้าของร้านฝ่ายชายเล่นดนตรีพื้นบ้านให้ฟัง มีแคนแม้ว แคนไทย ฆ้อง และอื่นๆ ที่ไม่รู้จักชื่ออีกหลายชนิด พวกเราอุดหนุนสินค้านิดหน่อย พอระลึกถึงกันได้

ตอนกลางวันรับประทานอาหารพื้นเมืองไทยขาวที่บ้าน Home Stay ที่คุณไท เคยพาคุณวันชัยและคณะมาพัก มีไก่ย่าง หมูย่าง ยำหัวปลี เนื้อควายผัดหน่อไม้ ปลาอ่อมในกระบอกไม้ไผ่ (อร่อยมาก) ข้าวเหนียวนึ่งสีชมพูแดงด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน น้ำจิ้มรสชาติแบบไทยแต่สีขาวใสเหมือนเวียดนาม ทุกอย่างจัดบนใบตอง หลังจากนั้นมีการแสดงพื้นเมืองของแม่บ้านไทยขาว ที่ขาดไม่ได้ คือ รำลาวกระทบไม้และเชิญแขกออกไปร่วมเต้น เหมือนสถานที่ท่องเที่ยวของชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ในเวียดนาม

ภาคบ่ายไปชมอีกหมู่บ้านหนึ่งใกล้ๆ กัน ชื่อเรียกยากเลยจำไม่ได้ เล็กกว่าหมู่บ้านลัค มีของขายเหมือนๆ กัน แต่ฝนตกปรอยๆ จึงไม่มีนักท่องเที่ยวอื่น นอกจากพวกเรา เจ้าของร้านเรียกกินชา เมล็ดทานตะวัน และแสดงการยิงหน้าไม้ให้ชม จึงอุดหนุนสินค้า

กลับถึงรีสอร์ทที่พัก ท่านอาจารย์จบการสนทนาธรรมภาคบ่ายพอดี จึงไปเดินเล่นรอบรีสอร์ทกับท่านอาจารย์ ถึงบ้านคนไทยขาวหลังใหญ่หลังหนึ่ง มีส้มโอออกลูกเต็มต้น เขาเชิญท่านอาจารย์เข้าไปชมในบ้าน พอรู้ว่าเป็นคนไทยก็ดีใจมาก ตบไหล่และโอบไหล่ท่านอาจารย์ ท่านบอกไม่เป็นไร เพราะเขาดีใจ เขาเชิญท่านอาจารย์กินข้าว กินเหล้าด้วย คนเวียดนามบอกเขาว่า ท่านอาจารย์สอนธรรมของพระพุทธเจ้า ดูเขาไม่ตื่นเต้น ไกด์บอกว่า คนไทยขาวไม่มีศาสนา ไม่นับถืออะไร นอกจากไหว้ฟ้าดินเพื่อให้พืชพันธ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์

รุ่งเช้าจึงไม่ไปชมหมู่บ้านที่เหลืออีก 1 หมู่บ้าน เพราะเหมือนๆ กัน อยู่ร่วมสนทนาธรรม ฟังสำเนียงทาเดา คนญี่ปุ่นที่มาด้วยไม่เข้าใจ เลยจำข้อความธรรมมาเล่าไม่ได้

วันรุ่งขึ้นกินข้าวเสร็จก็ออกเดินทางกลับฮานอย เพื่อสนทนาธรรมต่ออีก 3 วัน รู้สึกไม่ต่อเนื่อง ทำไมไม่จัดให้จบเป็นที่ๆ แล้วกลับเมืองไทยเลยก็ไม่รู้ คงเพราะนายใหญ่คือโลภะ เคยชินกับเมืองฮานอยแล้ว เลยอยากกลับไปอยู่สบายๆ ในสถานที่ที่คุ้นเคย ตอนนี้ทาสของท่านกำลังหาทางให้ท่านพลิดเพลินอยู่ตลอดเวลาเจ้าค่ะ


ขอเชิญคลิกชมตอนที่ผ่านมาได้ที่นี่.....

สนทนาธรรมที่ฮานอย มายโจ ส.ค. - ก.ย. 2560 (1)

สนทนาธรรมที่ฮานอย มายโจ ส.ค. - ก.ย. 2560 (2)


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
namarupa
วันที่ 4 ก.ย. 2560

กราบอนุโมทนาในกุศลวิริยะทุกประการค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
j.jim
วันที่ 4 ก.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
meenalovechoompoo
วันที่ 4 ก.ย. 2560

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chvj
วันที่ 6 ก.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chvj
วันที่ 6 ก.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
papon
วันที่ 6 ก.ย. 2560

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 7 ก.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 12 ก.ย. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 26 ก.พ. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ