ภิกษุเจริญสติปัฏฐานแต่ละเมิดพระวินัย

 
ฉีฟ่งจื้อ
วันที่  13 พ.ค. 2560
หมายเลข  28838
อ่าน  970

เรียน ท่านวิทยากร ปัจจุบันมีภิกษุศึกษาพระอภิธรรมและเจริญสติปัฎฐานเป็นจำนวนมากรวมทั้งเดินทางมาศึกษาที่มูลนิธิแต่ก็ยังทำผิดพระวินัยคือรับเงินและทอง ขอเรียนถามว่าการที่ภิกษุได้ศึกษาพระอภิธรรมและเจริญสติปัฎฐานจะเป็นเหตุให้ท่านบรรลุธรรมได้ไหมทั้งๆ ที่ท่านยังทำผิดพระวินัย ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 13 พ.ค. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ภิกษุผู้ไม่ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ไม่มีความละอาย และ ล่วงอาบัติทั้งๆ ที่รู้ และ ไม่สำนึก อาบัติย่อมไม่ตกไป อาบัตินั้นเองย่อมเป็นเครื่องกั้น ต่อการบรรลุธรรม แน่นอน และ ที่บอกว่า เป็นผู้เจริญสติปัฏฐาน สำคัญคือ เข้าใจถูกจริงๆ หรือไม่ว่า สติปัฏฐานคืออะไร หรือไปนั่งปฏิบัติ ทำสมาธิ เข้าห้องปฏิบัติ นั่นก็ไม่ใช่การเจริญสติปัฏฐานแล้ว ครับ เพราะฉะนั้นพระธรรมจึงเป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง ขออนุโมทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 13 พ.ค. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ในเบื้องต้น ควรจะได้เข้าใจว่า "สติปัฏฐาน" เป็นการระลึกรู้สภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏ เป็นการระลึกตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนั้น ไม่พ้นจากสติไปได้ สติย่อมมีอย่างแน่นอน โดยไม่มีตัวตนที่ระลึก หรือไปเจาะจงอารมณ์หนึ่งอารมณ์ใด ต้องมีสภาพธรรมที่เป็นอารมณ์ของสติ คือ เป็นสิ่งที่มีจริงที่กำลังมีในขณะนั้น มีสติซึ่งเป็นสภาพธรรมที่ระลึก และ มีปัญญาที่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง เพราะฉะนั้น ขณะที่สติปัฏฐานเกิด ย่อมเป็นกุศลจิต [ในขณะที่กุศลจิตเกิด ก็สงบจากอกุศล ในขณะนั้น] เป็นกุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญา และมีสติที่เป็นสภาพธรรมที่ระลึกด้วย เพราะสภาพธรรมที่เป็นอารมณ์ให้สติเกิดขึ้นระลึกรู้นั้นก็เป็นธรรมที่มีจริงในชีวิตประจำวัน สิ่งที่มีจริงในชีวิตประจำวันนี้เองที่สามารถรู้ตามความเป็นจริงได้ ไม่ใช่เรื่องลึกลับอะไร แต่รู้ยากเพราะสะสมอวิชชา ความไม่รู้มาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์
ประการที่สำคัญ นั้น ก่อนที่จะไปถึงสติปัฏฐาน ขอให้ฟังให้เข้าใจ ขอให้กลับมาเริ่มต้นใหม่เพื่อจะได้เริ่มสะสมความเข้าใจที่ถูกต้องตั้งแต่ในขณะนี้ เพราะเหตุว่าพระธรรม เป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งมาก ต้องอาศัยการฟัง การศึกษาพระธรรม ฟังในสิ่งที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ ฟังพระธรรมให้เข้าใจในสภาพธรรม ซึ่งเป็นปรมัตถธรรม อย่างมั่นคงว่า ทุกอย่างเป็นเพียงสภาพธรรมอย่างหนึ่งที่ปรากฏ ไม่ใช่ สัตว์ บุคคล ตัวตน เป็นความเข้าใจในความจริงอย่างมั่นคง จึงจะเป็นเหตุให้สติปัฏฐานเกิด แต่อย่าลืมว่าธรรม เป็นอนัตตา ไม่สามารถบังคับบัญชาได้ ถ้าไม่มีความเข้าใจธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงๆ ก็เจริญสติปัฏฐานไม่ได้ และภิกษุที่ไม่เข้าใจพระวินัย ไม่เคารพยำเกรงในพระวินัยบัญญัติก็ล่วงละเมิดสิกขาบทต่างๆ ก็เป็นโทษกับภิกษุรูปนั้น ครับ.

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 15 พ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
thilda
วันที่ 17 พ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
kullawat
วันที่ 25 พ.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ