ทานปรารถถวายพระพุทธเจ้า กับปรารถถวายสงฆ์

 
Tanagon
วันที่  20 ก.พ. 2560
หมายเลข  28636
อ่าน  964

ได้อ่านข้อความในอรรถกถาพระสูตนี้ //www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=14&i=706 เกี่ยวกับเรื่องพระนางมหาปชาบดีโคตมีถวายผ้าใหม่แด่พระผู่้มีพระภาคเจ้า

มีกล่าวดังนี้

ก็ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นทรงมีพระดำริว่า เจตนา ๓ อย่างคือ บุพเจตนา มุญเจตนา อปราปรเจตนาของพระนางมหาปชาบดีนี้ เกิดขึ้นปรารภเราแล้ว จงเกิดขึ้นปรารภพระภิกษุสงฆ์บ้าง เมื่อเป็นเช่นนี้ เจตนาทั้ง ๖ อย่างก็จะรวมเป็นอันเดียวกัน จักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขตลอดกาลนานแก่พระนางมหาปชาบดีโคตมีนั้น ดังนี้.

ฝ่ายวิตัณฑวาที (ผู้พูดให้หลงเชื่อ) กล่าวว่า ทานที่ถวายสงฆ์มีผลมาก. พึงท้วงติงวิตัณฑวาทีนั้นว่า เพราะเหตุไรจึงกล่าวอย่างนั้น ท่านย่อมกล่าวถึงทานที่ถวายสงฆ์มีผลมากกว่าทานที่ถวายแก่พระศาสดาหรือ. เออขอรับ เรากล่าว. ท่านจงอ้างพระสูตรมา. ท่านวิตัณฑวาทีอ้างพระสูตรว่า ดูก่อนโคตมี พระนางถวายสงฆ์เถิด เมื่อถวายสงฆ์แล้ว จักเป็นอันพระนางได้บูชาทั้งอาตมภาพและสงฆ์. ก็พระสูตรนี้มีเนื้อความเพียงเท่านี้หรือ. เออ เพียงเท่านี้.
ผิว่าเป็นเช่นนั้น ทานที่ให้แก่คนกินเดนทั้งหลายก็พึงมีผลมาก ตามพระดำรัสว่า ดูก่อนอานนท์ ถ้าอย่างนั้น เธอจงให้ขนมแก่คนกินเดนทั้งหลาย และว่า ดูก่อนกัจจานะ ถ้าอย่างนั้น เธอจงให้งบน้ำอ้อยแก่คนกินเดนทั้งหลาย ดังนี้.

ก็เมื่อเป็นอย่างนั้น พระศาสดาจึงทรงยังผ้าที่จะถวายพระองค์ให้ถึงสงฆ์แล้ว ดังนี้. ก็ชนทั้งหลายแม้มีพระราชาและมหาอำมาตย์ของพระราชาเป็นต้น ย่อมสั่งให้บรรณาการที่นำมาเพื่อตน ให้แก่ชนทั้งหลายมีคนเลี้ยงช้างเป็นต้น ชนเหล่านั้นก็พึงใหญ่กว่าพระราชาเป็นต้น.

แต่ในพระสูตรเกี่ยวกับ นางภัททา และ สุภัททาเทพกัญญา เทพดิธาผู้น้องถวายทานแด่สงฆ์เป็นสังฆทาน จึงได้เสวยสุขในนิมมานรดีเทวโลก แต่นางภััทาผู้พี่แม้กระทำกุศลมากกว่า แต่ถวายเจาะจงพระภิกษุเป็นรายบุคคล เหตุนี้จึงเกิดในดาวดึงส์เทวโลก

ข้อนี้พึงกล่าวได้ว่า ทานที่ถวายสงฆ์ เป็นสังฆทาน มีผลมากกว่า ทานที่ถวายเป็นปาฎิปุคคลิกทาน แต่ทานถวายเป็นปาฎิปุคคลิกทานก็จริง หากแต่ถวายโดยปรารถพระพุทธเจ้าแล้ว ย่อมมีผลมากกว่าสังฆทานแม้อีก ใช่ไหมครับ

ที่นี้สงสัยว่า แล้วทานที่เป็นสังฆทาน ในสงฆ์ผู้ไม่ใช่พระอริยเจ้า กับทานที่เป็นสังฆทาน แต่ถวายกับสงฆ์ผู้อริยเจ้าอรหันต์ ถือเป็นสังฆทานที่อานิสงค์อย่างเดียวกันหรือไม่ครับ เพราะเหตุว่า ในเรื่องของภัททาเทพกัญญา ภัททาผู้พี่ถวายเป็นปาฎิปุคคลิกทานแต่ไม่มีกล่าวไว้ว่าถวายในภิกษุผู้มีคุณอย่างไร หาแต่ภัททาผู้น้องมีกล่าวไว้ชัดเจนว่า ถวายเป็นสังฆทานด้วยความอนุเคราะห์ของท่านพระเรวตะเถระ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 22 ก.พ. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ก่อนอื่นต้องเป็นผู้ที่มีความเข้าใจว่า สังฆทาน คือ อะไร? มาจากคำสองคำรวมกัน คือ สังฆะ (หมายถึงหมู่ คือ หมู่ของพระอริยบุคคล ๔ จำพวก และยังหมายถึงหมู่ของภิกษุที่ได้รับการอุปสมบทอย่างถูกต้องตามพระวินัย ด้วย) + ทาน (เจตนาเป็นเครื่องสละหรือบริจาค และยังหมายถึงไทยธรรม คือ วัตถุที่จะพึงถวายด้วย) ดังนั้น สังฆทาน จึงเป็นการถวายไทยธรรมมุ่งตรงต่อสงฆ์ (มุ่งตรงต่อพระอริยสงฆ์) โดยไม่มีการเจาะจง

ดังนั้น การให้สาธารณประโยชน์ จึงไม่ใช่ สังฆทาน ครับ

สำคัญที่ความเข้าใจถูกตั้งแต่ต้นว่า สังฆทาน คือ อะไร อยู่ที่วัตถุสิ่งของ หรือไม่ หรืออยู่ที่สภาพจิตเป็นสำคัญ สังฆทาน หมายถึง ทานที่ถวายสงฆ์ คือ หมู่ของพระอริยสงฆ์ ไม่ใช่การถวายภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ผู้ถวายต้องเข้าใจในความหมายคำว่า หมู่ของอริยสงฆ์ และของที่จะถวายนั้น ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นถังสีเหลือง แต่จิตของผู้ถวายน้อมบูชาคุณของพระอริยสงฆ์ จิตไม่หวั่นไหว คือ ไม่เลือกภิกษุผู้รับทาน สรุปคือถ้าไม่เข้าใจสังฆทาน ไม่เข้าใจอริยสงฆ์ หรือเลือกผู้รับทานมีจิตหวั่นไหวในผู้รับ ไม่เป็นสังฆทาน ส่วนจำนวนของพระภิกษุที่รับทาน แม้ภิกษุรูปเดียว ที่เป็นตัวแทนของสงฆ์ก็เป็นสังฆทาน วัตถุที่ถวายจะต้องเป็นวัตถุที่เหมาะควรแก่เพศบรรพชิตเท่านั้น ครับ

ดังนั้น ไม่ควรถวายเงินและทอง และ ควรถวายของที่เหมาะสม กับพระภิกษุ ที่ไม่ใช่อยู่ในถังเหลืองที่เป็นถังเวียนสังฆทาน ควรถวายสิ่งที่เหมาะสม มี บริขารแปด เป็นต้น ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 22 ก.พ. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ถวายในสิ่งที่เหมาะควร ด้วยจิตใจที่ประกอบด้วยความนอบน้อมเคารพยำเกรง ต่อสงฆ์เป็นอย่างยิ่ง จึงจะเป็นสังฆทาน ถ้าเป็นความต้องการที่จะได้ผลมากจากการถวายสังฆทาน นั่นไม่ใช่สังฆทาน แต่ความติดข้องต้องการที่อยากจะได้ผลของสังฆทาน แทนที่จะเป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง ประการสำคัญที่ควรจะพิจารณา คือ ทาน การให้วัตถุสิ่งของ ไม่ได้มุ่งหมายจำกัดเฉพาะเพศบรรพชิต เท่านั้น เพราะเหตุว่า ผู้ที่ควรแก่การรับทานมีมาก ไม่ใช่น้อยเลยทั้งผู้ที่ประสบภัย ประสบความเดือดร้อน เป็นต้น เป็นโอกาสที่กุศลจิตที่เป็นไปในทานจะเกิดขึ้น สละวัตถุสิ่งของของตนเพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่น เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง ถ้าหากว่าในชาติหนึ่งๆ ทานกุศลไม่เกิด ไม่มีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้อื่นเลย แล้วจะดำเนินไปถึงซึ่งการดับกิเลสซึ่งมีมากเป็นอย่างยิ่ง ได้อย่างไร ครับ

ขอเชิญคลิกฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

สังฆทานคืออะไร

.
..อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 22 ก.พ. 2560

กุศลอยู่ที่จิต อยู่ที่เจตนา การถวายแด่พระพุทธเจ้ามีผลมาก แต่กุศลจิตที่ถวายมุ่งตรงต่อสงฆ์ด้วย และมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขด้วย ทั้งสองฝ่าย เป็นกุศลที่มีกำลังมากกว่า แต่ที่สำคัญให้รู้ว่าแม้กุศลจิตที่เกิดเป็นธรรมไม่ใช่เราค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
kullawat
วันที่ 23 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 26 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
2491surin
วันที่ 3 มี.ค. 2560

ถวายสิ่งของที่เหมาะสมในนามของสงฆ์ ถวายด้วยจิตที่บริสุทธ์ ไม่จำเพาะเจาะจงว่าเป็นของภิกษุรูปหนึ่งรูปใดและเป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลสครับ

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Mayura
วันที่ 5 มี.ค. 2560

กราบอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ