ขอเรียนถามครับ - เอาบุญมาฝาก

 
To-Ey
วันที่  15 ก.พ. 2560
หมายเลข  28621
อ่าน  1,662

คือเวลาที่คนรู้จักไปทำบุญ มันจะพูดว่าเอาบุญมาฝาก อยากทราบว่าของอย่างนี้ ฝากกันได้ด้วยเหรอครับ?


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 15 ก.พ. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ควรเข้าใจว่า บุญไม่สามารถมาฝากได้ เพราะ บุญ คือ สภาพจิตที่ดีงามที่เกิดขึ้นเฉพาะตน เกิดที่จิต เกิดแล้วก็ดับไป ไม่กลับมาอีก จะนำมาบุญ คือ จิต เจตสิกที่ดี ที่เกิดแล้ว ดับแล้ว มาให้อีกไม่ได้ เพราะฉะนั้น สภาพจิตที่ดีของใคร บุญของใครก็ของคนนั้น บุญจึงเอามาฝากไม่ได้ เพราะไม่ใช่รูปธรรมที่เป็น วัตถุ สิ่งของ แต่เป็นนามธรรมที่เป็น จิต เจตสิก ครับ

ดังนั้น เอาบุญมาฝากไม่ได้ เพียงแต่ บอกในสิ่งที่ได้ทำที่เป็นสิ่งที่ดี ผู้ที่ได้รับฟัง จะได้บุญ หรือ ไม่ได้บุญ ก็คือ เกิด จิตที่ดี ที่เรียกว่าบุญในขณะนั้น อนุโมทนาในสิ่งที่ดี ที่ผู้อื่นได้กระทำ นั่นคือ กุศลจิต บุญของผู้นั้นเกิดเอง ไม่ได้เอาบุญของ จิตผู้อื่นมาฝากให้ ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 15 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 15 ก.พ. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

บุญ เป็นสภาพธรรมที่ดีงาม เป็นสภาพธรรมที่ชำระจิตให้สะอาดจากอกุศล บุญ อยู่ที่จิต ซึ่งหมายรวมถึงโสภณเจตสิก (สภาพธรรมฝ่ายดีที่เกิดร่วมกับจิต มี ศรัทธา สติ หิริ โอตตัปปะ อโลภะ อโทสะ เป็นต้น) ด้วย ถ้าหากไม่มีจิต และไม่มีโสภณเจตสิกแล้ว บุญก็เกิดไม่ได้ จิตเกิดขึ้นเป็นกุศลขณะใด ขณะนั้นเป็นบุญ เป็นการชำระจิตให้สะอาดจากอกุศล

บุญ เป็นสภาพธรรมที่ชำระจิตให้สะอาด (เพราะโดยปกติแล้วจิตสกปรกด้วยอำนาจของอกุศลธรรม) จากที่เป็นอกุศล ก็ค่อยๆ เป็นกุศลขึ้นในชีวิตประจำวัน ซึ่งก็ไม่พ้นไปจากขณะที่จิตเป็นกุศล เป็นไปในทาน เป็นไปในศีล เป็นไปในการอบรมเจริญความสงบของจิต และเป็นไปในการอบรมเจริญปัญญา โดยที่ไม่มีตัวตนที่จะไปทำบุญ เพราะบุญอยู่ที่สภาพจิต จิตเป็นกุศลเป็นบุญ เป็นความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรม ในทางตรงกันข้าม ถ้าจิตเป็นอกุศล ก็ไม่ใช่บุญ เมื่อเหตุมีผล ผลก็ย่อมเกิดขึ้นตามควรแก่เหตุ ซึ่งก็คือธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยอีกเหมือนกัน ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน

การมีความประสงค์ที่จะให้ผู้อื่นเกิดกุศลจิต อนุโมทนา ด้วย ก็มีการบอกกล่าวให้รับรู้ ถ้าเขารับรู้และมีจิตอนุโมทนาในกุศล กุศลก็ย่อมเป็นของบุคคลผู้อนุโมทนา แม้ว่าจะไม่ต้องรอให้บุคคลอื่นบอก แต่เมื่อเห็นแล้ว หรือ ได้ทราบแล้วเกิดกุศลจิต อนุโมทนาชื่นชมในความดี นั่นก็เป็นบุญ สำคัญอยู่ที่สภาพจิตในขณะนั้นจริงๆ ว่า จะอนุโมทนาหรือไม่ ถ้าไม่อนุโมทนา กุศลจิตไม่เกิด ไม่ใช่บุญ แต่ถ้ากุศลจิต เกิด ก็เป็นบุญ และที่น่าพิจารณา คือ การไปทำอะไรต่างๆ ที่ไม่ใช่บุญ เช่น ไปปฏิบัติผิด ให้เงินแก่พระภิกษุ เป็นต้น นั่น ไม่ใช่บุญ ไม่ใช่สิ่งที่ควรค่าแก่การชื่นชมยินดี ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
kullawat
วันที่ 16 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
แสวงรวยสูงเนิน
วันที่ 16 ก.พ. 2560

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ชัยญานพ
วันที่ 16 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
kukeart
วันที่ 17 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
wirat.k
วันที่ 19 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
jaturong
วันที่ 20 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ประสาน
วันที่ 21 ก.พ. 2560

สาธุๆ ๆ อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 21 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
wannee.s
วันที่ 21 ก.พ. 2560

บุญอยู่ที่จิต ถ้าได้ยินว่ามาฟังธรรมที่มูลนิธิฯลฯ แล้วยินดีในกุศลก็เป็นบุญอย่างหนึ่งในบุญ ๑๐ อย่าง

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ม.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร

ขอเชิญศึกษาพระธรรม...

รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์

พระไตรปิฎก

ฟังธรรม

วีดีโอ

ซีดี

หนังสือ

กระดานสนทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ