สนทนาธรรมที่เวียดนามครั้งที่ 9 (3)

 
kanchana.c
วันที่  4 ก.พ. 2560
หมายเลข  28599
อ่าน  1,692

กัลยาณมิตรสูงสุด

คนเวียดนามที่มาฟังธรรมส่วนใหญ่ทำสมาธิมาเป็นเวลานาน คำถามส่วนใหญ่ก็ยังวนเวียนเกี่ยวข้องกับการทำสมาธิตามสำนักปฏิบัติต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยคิดว่า จะทำให้จิตสงบ มีความสุข จะทำรู้แจ้งอริยสัจธรรมบรรลุเป็นพระอริยบุคคลได้ บางคนก็คิดว่าสามารถรักษาโรคภัยร้ายแรงได้ เมื่อยังไม่ได้อย่างที่หวังก็มาฟังธรรมโดยคิดว่า จะมีวิธีทำอย่างอื่นที่ดีกว่าที่เคยปฏิบัติ เมื่อยังไม่ได้คำตอบที่เป็นวิธีทำ ก็พากันถามปัญหาคาใจที่ไม่พ้นจากการทำสมาธิ

แม่ชีคนหนึ่งถามว่า ถ้าสมาธิไม่สำคัญ แล้วทำไมเมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วจึงนั่งสมาธิถึง 49 วัน โดยลืมไปว่า พระปัญญาของพระพุทธเจ้านั้นยิ่งใหญ่ขนาดสามารถตรัสรู้สภาพธรรมทุกอย่างตามความเป็นจริงได้ด้วยพระองค์เอง ไม่ต้องฟังธรรมจากผู้ใด หลังตรัสรู้แล้วทรงเสวยวิมุติสุข สุขจากการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง ด้วยการพิจาณาธรรมที่ทรงตรัสรู้แล้ว ปุถุชนเช่นเรายังไม่รู้อะไรเลย แม้แต่ ธรรมคืออะไร แล้วพากันไปทำสมาธิโดยยกพระพุทธเจ้าเป็นตัวอย่าง ลืมไปว่า ท่านไม่ต้องฟังธรรมจากใคร แต่สาวกอย่างเราต้องฟังธรรมจากการตรัสรู้ของพระองค์โดยละเอียด โดยเคารพ ฟังแล้วพิจารณาจนเป็นความเข้าใจที่มั่นคง ว่า ทุกอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา แล้วสติจึงจะเกิดสามารถระลึกตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริงได้ จนปัญญาประจักษ์แทงตลอดสภาพธรรมทั้งหมด ละความไม่รู้ความสงสัยทั้งปวงในสภาพธรรมทั้งหลาย

บางกลุ่มก็นั่งสมาธิและเรียนอภิธรรมจากพระภิกษุเวียดนามที่เคยมาอยู่ประเทศไทย ท่านเหล่านี้ก็จะถามปัญหาที่ได้ยินได้ฟังมา เช่น รูปฌาน อรูปฌาน หรือบางท่านก็ถามถึงจิตประเภทต่างๆ ที่ไม่ได้กำลังปรากฏ เช่น ปฏิสนธิจิตของสัตว์ที่เกิดในอบายภูมิว่า มีประเภทเดียว คือ อุเบกขาสันตีรณอกุศลวิบาก แล้วทำไมสัตว์ในอบายจึงมีรูปร่างกายต่างกันมากมาย อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งท่านอาจารย์เคยแนะนำวิทยากรว่า ให้ตอบสั้นและตรงคำถามก่อน แล้วจึงค่อยอธิบายความละเอียดภายหลัง พร้อมกับเตือนไม่ให้ลืมวัตถุประสงค์ของการฟังธรรมว่า เพื่อให้เห็นความเป็นอนัตตาของสภาพธรรมทั้งหลายที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง และทุกอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคลอย่างไร

มีอีกหลายคนที่ไม่เคยไปปฏิบัติที่ไหน แต่ตรงมาฟังธรรมเลย เพราะอยากจะรู้ว่า พระพุทธเจ้าทรงสอนอะไร บางคนมีศรัทธาเดินทางมาจากแดนไกล เช่น เด็กชายนาม หลายคนที่ไปดาลัท คงจำเด็กชายอายุ 10 ขวบที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์แม่ที่ยังสาวขึ้นมาฟังธรรมได้ ตอนนี้นามอายุ 12 แล้ว ยังติดตามมาฟังธรรมโดยนั่งรถประจำทางทั้งคืนจากดาลัทมาไซ่ง่อน ท่านอาจารย์เลยให้การบ้านไปคิดว่า จิตอยู่ที่ไหน

ร่วมฟังการสนทนาธรรมที่ไซ่ง่อนครั้งนี้มาแล้ว 3 วัน หลายคนก็หายไป หลายคนมาทุกวัน และเรียนท่านอาจารย์ว่า จะไม่ไปสำนักปฏิบัติแล้ว ท่านอาจารย์บอกว่า ถ้าใครไปสำนักปฏิบัติแสดงว่าไม่นับถือพระพุทธเจ้า เพราะในสมัยพุทธกาลไม่ได้ทรงให้ใครไปทำอะไรด้วยความไม่รู้ เพื่อหวังจะรู้แจ้งอริยสัจธรรม แต่ให้ฟังธรรมด้วยดี ด้วยความเคารพ พิจารณาธรรมที่ฟังแล้วนั้นจนเข้าใจมั่นคงว่า สภาพธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล เกิดเพราะเหตุปัจจัย เกิดแล้วดับไปทันที ไม่กลับมาอีกเลยในสังสารวัฏ แล้วความเข้าใจที่มั่นคงนั้นเองจะเป็นปัจจัยให้สติและปัญญาเกิดขึ้นทำกิจระลึกรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะเดี๋ยวนี้ ด้วยความเป็นอนัตตา ต้องไม่ลืมว่า ได้เคยสะสมทั้งความเห็นถูก ความเห็นผิดและอกุศลมามากมาย จึงอบรมเจริญปัญญาท่ามกลางอกุศล โดยเฉพาะอวิชชา ทำให้ไม่รู้ชัดอย่างรวดเร็ว ยังคงมีความสงสัยในสภาพธรรมไปตลอดจนกว่าจะบรรลุเป็นพระโสดาบัน จึงจะหมดความสงสัย

คุณนีน่ากล่าวว่า สิ่งสำคัญตลอดทางของมรรคมีองค์ 8 นี้ คือ กัลยาณมิตรที่คอยเตือนให้ไม่ลืมว่า ทุกอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ถ้าเป็นเราเมื่อไร เมื่อนั้นออกจากทางแล้ว และท่านอาจารย์ทำหน้าที่นี้มาตั้งแต่เริ่มต้นเดินทาง โดยบรรยายให้เข้าใจความจริงและเตือนแล้วเตือนเล่าว่า ทุกอย่างเป็นธรรม ถึงตอนนี้ท่านอาจารย์ได้เตือนให้ไม่ลืมอีกว่า กัลยาณมิตรสูงสุด คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์สาวกผู้รักษาคำสอนที่บริสุทธิ์เป็นมรดกอันล้ำค่าตกทอดมาถึงพวกเรา

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ

สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

ขอเชิญคลิกชมตอนอื่นๆ ได้ที่นี่...

สนทนาธรรมที่เวียดนามครั้งที่ 9 (1)

สนทนาธรรมที่เวียดนามครั้งที่ 9 (2)

สนทนาธรรมที่เวียดนามครั้งที่ 9 (4)


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 4 ก.พ. 2560

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 4 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
j.jim
วันที่ 5 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Boonyavee
วันที่ 5 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
siraya
วันที่ 6 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wirat.k
วันที่ 7 ก.พ. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 8 ก.พ. 2560

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
wannee.s
วันที่ 21 ก.พ. 2560

อนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
สิริพรรณ
วันที่ 10 พ.ค. 2560

กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า

กราบบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

เพราะฟังพระธรรม อ่านข้อมูลที่แสดงความจริงด้วยพระธรรมบ่อยๆ เพื่อละความไม่รู้ ค่อยๆ สะสมความเข้าใจแม้ขั้นการฟัง เพื่อละความเห็นผิดที่เคยยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเรา แต่ความที่ปุถุชน ความหมายคืออะไร ไม่เว้นแม้ชาติใด ภาษาใด ฟังแล้วฟังอีก ก็ยังลืมบ่อยๆ

กัลยาณมิตรประการสำคัญ คือ การสนทนาธรรม ที่จะคอยเตือน และดึงไม่ให้ออกจากหนทางถูก และกลับไปหาความเห็นผิดอีก ตามที่ทรงแสดงพระปัจฉิมโอวาทว่า จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณพี่แดงด้วยนะคะ เขียนได้สนุก และได้สาระจากพระธรรมที่มีคุณค่ายิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
chatchai.k
วันที่ 10 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ