รู้หรือไม่รู้

 
ชอบธรรมะ
วันที่  22 ก.ค. 2559
หมายเลข  28009
อ่าน  1,050

ในบางทีบางครั้งสิ่งที่เราทำเราก็รู้ว่าไม่ควรทำ แต่ก็ยังทำเช่นนี้แล้วเราจะเรียกว่าเกิดเพราะความไม่รู้หรือไม่ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 22 ก.ค. 2559

ที่กล่าวว่าเรารู้ว่าไม่ดี ความรู้ที่เป็นปัญญานั้นก็มีหลายระดับ ขั้นการฟัง ขั้นรู้ลักษณะสภาพธรรม ขั้นวิปัสสนาญาน ขั้นดับกิเลสได้ ดังนั้นรู้ว่าโกรธไม่ดี ความรู้นั้นเพียงขั้นการฟัง ไม่สามารถทำอะไรกิเลสได้ มีเหตุปัจจัยก็เกิดอีก อันเพราะมีอวิชชาเป็นเหตุ ขณะใดอกุศลเกิดก็เพราะมาจากความไม่รู้ อวิชชา ครับ

......................

ท่านอาจารย์สุจินต์...ดังนั้นเป็นผู้ตรงว่ามีปัญญาน้อย ความรู้เพียงขั้นการฟัง กิเลสมาก โดยเพราะอวิชชา ขณะนี้กิเลสก็เกิดเป็นปกติ มีอวิชชาเป็นมูลเหตุ ดังนั้น คำว่ารู้ จึงแตกต่างไปตามระดับปัญญา ครับ

ปัญญาสามารถรู้ว่า สภาพได้ยินเป็นสภาพธรรมะอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นสภาพรู้ เป็นอาการรู้ เป็นธาตุรู้เสียง การรู้อย่างนี้เป็นหน้าที่ของปัญญา แต่รู้เท่านี้ยังอ่อนมากที่สุด เป็นปัญญาเล็กน้อยที่สุด นิดเดียวทำอะไรไม่ได้ ดับกิเลสไม่ได้ เพราะเหตุว่าเป็นปัญญาเพียงขั้นการฟัง

เพราะฉะนั้น ปัญญาขั้นนี้จะละความไม่รู้ จะละความสงสัยจากการที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังเท่านั้นเอง แต่ยังดับกิเลส หรือยังทำอะไรไม่ได้เลย แต่ให้ทราบว่า ปัญญามีต่างขั้น ตั้งแต่ขั้นฟัง แล้วขั้นพิจารณา

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 22 ก.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมเกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย แม้จะรู้ว่าอกุศล ไม่ดี แต่เมื่อได้เหตุปัจจัย อกุศลที่เคยสะสมมาก็เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ และเมื่อสะสมมีกำลังมากขึ้น ก็ทำให้ล่วงเป็นทุจริตกรรมประการต่างๆ เบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อน เป็นธรรมดาของบุคคลผู้ที่ยังหนาแน่นไปด้วยกิเลส ยังดับกิเลสไม่ได้ และจะเห็นได้ความไม่รู้ ทำให้ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ ทำให้ได้ในสิ่งที่ไม่ควรได้จริงๆ เพราะมีความไม่รู้ คือ อวิชชา เป็นเหตุ จึงทำให้มีการกระทำอกุศลกรรมประการต่างๆ มากมายมีกายทุจริตเป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรบำเพ็ญ ไม่สะสมเป็นอย่างยิ่ง ไม่ควรได้เป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการสะสมเหตุที่ไม่ดี

แต่ถ้าเป็นปัญญาแล้ว ตรงกันข้ามกับอวิชชาอย่างสิ้นเชิง เป็นเหตุให้ความดีประการต่างๆ เจริญยิ่งขึ้น ทำให้ได้ในสิ่งที่ควรได้ เพราะกุศลธรรมเจริญ จนกระทั่งสามารถดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น ปัญญาหรือวิชชา จึงเป็นธรรมที่นำไปสู่ความดีทั้งปวงอย่างแท้จริง ทำให้เว้นจากสิ่งที่ไม่ดี เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ปัญญาจะเลือกทำชั่ว ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ประสาน
วันที่ 23 ก.ค. 2559

สาธุๆ ๆ อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 23 ก.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
peem
วันที่ 23 ก.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
j.jim
วันที่ 25 ก.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
เพียงดิน
วันที่ 27 ก.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
apiwit
วันที่ 29 ก.ค. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
wannee.s
วันที่ 30 ก.ค. 2559

เรารู้ว่าไม่ดีแล้วยังทำ เพราะเราสะสมกิเลสมานับชาติไม่ถ้วน ถ้าปัญญาเกิดจะรู้ว่าแม้ขณะนั้นก็ไม่ใช่เราค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
Wisuwat
วันที่ 30 ก.ค. 2559

อนุโมทนาสาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
kukeart
วันที่ 31 ก.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
wirat.k
วันที่ 31 ก.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ