สิ่งที่เห็นนี้เรียกว่าอะไรครับ

 
b.pisut
วันที่  12 ก.พ. 2558
หมายเลข  26172
อ่าน  886

ขอเรียนถามท่านผู้รู้ครับ

ที่กลางอกของทุกคนจะมีดวงกลม ประมาณผลส้มโอ มีสีขาว บ้าง ดำบ้าง เหลืองบ้าง ฯลฯ คือ สิ่งที่ผมเห็นด้วยจิตครับ ไม่ทราบว่าสิ่งที่เห็นนี้เรียกว่าอะไร คืออะไรครับ

ขอบคุณครับ B pisut


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 12 ก.พ. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จิตเห็น เห็นสิ่งที่ปรากฎทางตา เท่านั้น ไม่เห็นเป็นสิ่งอื่นๆ ไม่เห็นเป็นวงกลม ไม่เห็นเป็นส้มโอ แต่หลังจากเห็นแล้ว ก็คิดนึกเป็น รูปร่าง สัณฐาน นึกคิดด้วยใจว่า เป็นสิ่งนั้น สิ่งนี้ เพราะฉะนั้น ก็เป็นเพียงการคิดนึกเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องของปัญญา เพราะถ้าเป็นปัญญาแล้ว ต้องรู้ความจริงว่าเป็นแต่เพียงธรรม ไม่ใช่เรา เพราะฉะนั้น ธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ละเอียด ลึกซึ้ง ไม่ใช่เรื่องที่จะทำ หรือ เรื่องคิดเอาเอง แต่เป็นเรื่องของความเข้าใจ ซึ่งเกิดจากการฟัง ศึกษาพระธรรม ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 12 ก.พ. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีความละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง จึงต้องมีการตั้งต้น เหมือนกับยังไม่เคยฟังพระธรรมมาก่อนเลย เพื่อจะได้รองรับพระธรรมที่แสดงถึงสิ่งที่มีจริงโดยตลอด ความเป็นจริงของธรรมเป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น ที่สำคัญที่สุด คือ ต้องฟังพระธรรมต่อไป ไม่มีหนทางอื่น ในเมื่อธรรมะความจริงก็คืออย่างนี้ สิ่งที่ปรากฏทางตาจะเป็นอื่นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเรียกว่าอย่างไรก็ตาม สี แสง ต้องเป็นรูปชนิดหนึ่ง สามารถปรากฏเมื่อกระทบกับจักขุปสาท (ตา) โดยมีกรรมเป็นปัจจัยทำให้มีการเห็นเกิดขึ้น สิ่งที่ควรรู้ ก็รู้อย่างนี้ และกำลังปรากฏอย่างนี้ แต่เพราะความไม่รู้ที่สะสมมามีมาก ก็ต้องฟังจนกว่าจะค่อยๆ เข้าใจขึ้นว่าสภาพที่ปรากฏก็เป็นแต่เพียงสิ่งที่มีจริง เป็นธรรม ไม่ใช่ใครอื่นใดเลย เป็นสิ่งที่ปรากฏทางตาเท่านั้น สิ่งที่ปรากฏทางตาเป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้เท่านั้น สำหรับประเด็นที่ท่านผู้ถามได้ถามมา เป็นเรื่องของความคิดนึก

ขอให้ตั้งต้นใหม่จริงๆ ด้วยการค่อยๆ ฟังพระธรรมสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ธุลีพุทธบาท
วันที่ 13 ก.พ. 2558

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่านเป็นอย่างยิ่ง ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
kullawat
วันที่ 13 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
peem
วันที่ 13 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ดวงทิพย์
วันที่ 13 ก.พ. 2558

ขณะที่สงสัย คือ โมหมูลจิตวิจิกิจฉาสัมปยุตต์ เป็นจิตที่เกิดขึ้นและดับไป ทำกิจไม่รู้และสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ...

ส่วน ปัญญา เมื่อเกิดขึ้น จะไม่มีความสงสัยใดๆ เกิดร่วมด้วยเลยคะ

ปัญญาขั้นแรก คือ การรู้ว่าต้องฟังพระสัทธรรมคะ

สาธุขออนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
nopwong
วันที่ 13 ก.พ. 2558

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
b.pisut
วันที่ 15 ก.พ. 2558

ขอขอบคุณทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
wannee.s
วันที่ 17 ก.พ. 2558

เริ่มต้นต้องเข้าใจก่อนว่าเห็นเป็นนามธรรม เป็นธาตุรู้ อาการรู้ ต่างจากรูปธรรมที่ไม่ใช่สภาพรู้ รูปไม่รู้สึก คิดนึกไม่ได้ ต้องฟังธรรมก่อน ศึกษาธรรมไปก่อนจึงจะเข้าใจค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Jarunee.A
วันที่ 10 มี.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ