อาจหาญร่าเริง !!!

 
yuyuori
วันที่  9 ม.ค. 2556
หมายเลข  22309
อ่าน  1,711

เรียนถามท่านสมาชิกเรื่องประโยคที่ว่า อาจหาญร่าเริง หมายความว่าอะไร


  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 10 ม.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมกับบุคคลให้เห็นแจ้ง สมาทาน อาจหาญ ร่าเริง ดังนั้นคำว่า อาจหาญ ร่าเริงในพระไตรปิฎกแสดงไว้ว่า (อิติวุตตกะ หน้า 660)

อาจหาญ

บทว่า สมุตฺเตชกา ความว่า ทำจิตของบุคคลทั้งหลายผู้ดำรงอยู่ในกุศล ธรรมอย่างนี้ให้อาจหาญด้วยดี ด้วยการแนะนำในการบำเพ็ญอธิจิตขั้นสูงขึ้นไป คือทำ จิตของเขาให้ผ่องใสด้วยการพิจารณา โดยประการที่เขาจะบรรลุคุณวิเศษได้ อาจหาญเพราะบุคคลนั้นฟังคำสอนแล้ว เกิดจิตผ่องใสอันเนื่องมาจากปัญญาเกิด และเข้าใจว่าสามารถไปถึงการบรรลุได้ด้วย หนทางนี้ คือ เข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ ในชีวิตประจำวัน ไม่มีหนทางอื่นและอาจหาญว่าเป็นหนทางที่จะนำไปสู่การดับกิเลสด้วยการเจริญขึ้นของปัญญา

เมื่อเข้าใจหนทางก็ย่อมอาจหาญที่จะไปสู่หน ทางนั้น ไม่ท้อถอย อุตสาหะ พากเพียร อดทนที่จะฟังพระธรรมต่อไป ครับ

ร่าเริง

บทว่า สมฺปหสกา ความว่า ทำจิตของบุคคลเหล่าอื่นนั้นให้ร่าเริงด้วยดี ด้วยคุณวิเศษตามที่ได้แล้ว และที่จะพึงได้ในขั้นสูง คือ ทำจิตของเขาให้ยินดีด้วยดี ด้วยอำนาจความพอใจที่ได้แล้ว ร่าเริงเพราะได้ฟังธรรมแล้วเกิดความเข้าใจถูก หรือ ขณะที่สติปัฏฐานเกิด รู้ความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนั้น ซึ่งทำให้เกิดความยินดี ร่าเริง และรู้ว่าหนทางนี้ถูก สามารถนำไปสู่การดับกิเลสได้ จึงร่าเริงเพราะเข้าใจพระธรรมในขณะจิตนั้น

ดังนั้น จึงเป็นเรื่องของปัญญา เมื่อปัญญาเกิดเข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา เมื่อรู้ความจริง ย่อมอาจหาญ ร่าเริงเพราะรู้ความจริง อาจหาญที่จะอบรมเจริญปัญญาต่อไป ร่าเริงเพราะเข้าใจถูกในความจริงของสภาพธรรมว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา

เชิญคลิกอ่านที่นี่ ครับ

สมาทาน อาจหาญ ร่าเริง

ให้อาจหาญ

อาจหาญ ร่าเริง

ความจริงแห่งชีวิต...ตอนที่ ๑๖๓ จิตตสังเขป (สมาทาน-อาจหาญ-ร่าเริง)

สมาทาน อาจหาญ ร่าเริง [อรรถกถาโคปาลสูตร]

ความอาจหาญ ร่าเริงในธรรม

อาจหาญ ร่าเริง ที่จะอบรมเจริญปัญญา

อาจหาญ ร่าเริง ที่จะรู้ความจริง

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
yuyuori
วันที่ 10 ม.ค. 2556
ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งและขออนุโมทนา ให้ท่านได้บรรลุธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
daris
วันที่ 10 ม.ค. 2556

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ใฝ่รู้
วันที่ 10 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
khampan.a
วันที่ 10 ม.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระผู้มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นสภาพธรรมที่มีจริงทั้งหมด ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่ปรากฏเป็นไปในชีวิตประจำวัน การที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมนั้น ก็เพื่อให้พุทธบริษัทมีความเข้าใจถูก เห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ไม่เข้าใจผิด ไม่หลงผิดไปยึดถือในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏว่าเป็นเรา เป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล

เพราะแท้ที่จริงแล้ว สภาพธรรมทั้งหลายทั้งปวง ไม่ใช่เรา ไม่ใช่สัตว์บุคคล ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงมีความอาจหาญ มีความเพียร มีความตั้งใจที่จะศึกษา ที่จะฟังพระธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ พิจารณา ไตร่ตรองตาม เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องยิ่งๆ ขึ้นไป จากความไม่รู้ก็จะค่อยๆ รู้ขึ้นไปตามลำดับ

เมื่อมีความเข้าใจก็จะมีความเบิกบาน ผ่องใส ตามกำลังของความเข้าใจ ไม่เดือดร้อน เพราะขณะที่เข้าใจนั้นเป็นปัญญา เป็นกุศล เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ ซึ่งจะแตกต่างไปจากขณะที่เป็นอกุศล ขณะที่ไม่เข้าใจอย่างสิ้นเชิง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 10 ม.ค. 2556

"...เมื่อปัญญาเกิดเข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ว่า เป็นธรรมไม่ใช่เรา เมื่อรู้ความจริง ย่อมอาจหาญ ร่าเริง เพราะรู้ความจริง อาจหาญ ที่จะอบรมเจริญปัญญาต่อไป ร่าเริง เพราะเข้าใจถูก ในความจริงของสภาพธรรม ว่า เป็นธรรมไม่ใช่เรา..."

ขอบพระคุณ และ ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
nopwong
วันที่ 10 ม.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
natural
วันที่ 10 ม.ค. 2556

ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เซจาน้อย
วันที่ 10 ม.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อาจหาญ คือ ทำให้มีอุตสาหในกุศลธรรม ตามที่ตนสมาทานแล้ว

ร่าเริง คือ ยินดีในกุศลนั้น ด้วยธรรมกถานั้น ภาษาบาลีว่า สมุตฺเตธิตา สมฺปหํสตา

ฉะนั้น ผู้ที่ได้ฟังพระธรรมแล้ว ก็อาจหาญ คือ อุตสาหะในการที่จะศึกษา พิจารณารู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏ จนกว่าจะประจักษ์สภาพธรรมนั้นๆ ตรงตามความเป็นจริงตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง

''ที่จะรู้ว่า ความจริงไม่ใช่เรา เป็นธรรมะ"

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ผิน
วันที่ 11 ม.ค. 2556
ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
j.jim
วันที่ 11 ม.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
wannee.s
วันที่ 11 ม.ค. 2556

อาจหาญร่าเริง คือ ผ่องใส ยินดีในกุศล ยินดีในธรรมะที่ฟังแล้วเข้าใจเกิดปัญญา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
ภัทร์
วันที่ 11 ม.ค. 2556

อาจหาญร่าเริง คือ ตั่งมั่นไม่หวั่นไหวและซาบซึ้งในธรรมแม้จิตสุดท้าย เปรียบได้ไหมครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
paderm
วันที่ 12 ม.ค. 2556

เรียนความเห็นที่ 14 ครับ

อาจหาญร่างเริง มุ่งหมายถึง จิตที่ได้บรรลุธรรม จึงร่าเริงในคุณธรรมที่ได้บรรลุ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
kinder
วันที่ 13 ม.ค. 2556

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
chatchai.k
วันที่ 22 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
Sea
วันที่ 29 พ.ย. 2564

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ