การทำทานตู้วัด-ตู้รับบริจาคต่างๆ

 
นิรมิต
วันที่  1 ม.ค. 2556
หมายเลข  22271
อ่าน  8,486

กราบสวัสดีท่านวิทยากรและมิตรธรรมทุกท่าน

มีความสงสัยว่า การกระทำกุศลขั้นทาน ด้วยการหยอดเงินใส่ตู้รับบริจาคต่างๆ ที่พบได้ทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า ตามย่านชุมชน หรือตู้ทำบุญของวัด กุศลสำเร็จเป็นกุศลกรรมบถ เป็นทานมัย ทันทีที่หยอดเงินลงไปในตู้ หรือว่าเป็นแค่กุศลจิต และต้องรอให้เงินที่หยอดลงไปนั้น ไปถึงมูลนิธิต่างๆ และได้แปรเป็นปัจจัยต่างๆ ที่ไปทำประโยชน์ เช่น อาคารเรียน ข้าวกลางวัน ฯลฯ เสียก่อน จึงจะครบองค์และจึงจะเป็นกุศลกรรมครับ?

เช่นเดียวกับเงินที่ทำในตู้วัด หรือแม้แต่ภัทตาหารปัจจัยต่างๆ ที่ถวายแด่พระสงฆ์ ถ้าพระสงฆ์ยังไม่รับประทานหรือฉันภัทตาหารที่เราถวาย กุศลเราก็ยังไม่สำเร็จเป็นกุศลกรรมหรือ

แล้วไม่ทราบว่า การถวายเงินพระสงฆ์นั้น ด้วยไม่รู้พระวินัย อย่างที่ชาวพุทธทั้งหลายทั่วๆ ไปทำกันอยู่ ด้วยกุศลเจตนาจริงๆ ที่จะถวายเงินเป็นปัจจัย ขณะนั้นก็เป็นกุศลจิตมีกำลังที่สละทรัพย์ได้ และก็ไม่ได้มีความเห็นผิดใดๆ ทานนั้นจะชื่อว่า สำเร็จเป็นกุศลกรรมหรือไม่ เพราะเหตุใด

เช่นเดียวกับกรณีที่ถวายอาหารคาว ดิบ แด่พระภิกษุ ด้วยไม่ทราบว่าืวินัยท่านห้ามฉัน หรือการถวายสังฆทานถังเหลืองอันประกอบด้วยของไม่ค่อยจะเป็นประโยชน์ บางอย่างก็เป็นโทษ ที่นิยมต่อๆ กันมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ ชื่อว่าเป็นกุศลที่สำเร็จกุศลกรรม หรือไม่ อย่างไร

ขอบพระคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 2 ม.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การขัดเกลากิเลส (เครื่องเศร้าหมองของจิตใจ) ไม่เหมือนกับการทำความสะอาดวัตถุสิ่งของ เพราะเหตุว่าการขัดเกลากิเลสที่แต่ละบุคคลได้สะสมมาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ ต้องอาศัยการเจริญกุศล (ทำความดี) ทีละเล็กทีละน้อย บ่อยๆ เนืองๆ

สำหรับบุคคลผู้ที่ยังไม่มีปัญญาคมกล้าจนถึงขั้นที่จะสามารถบรรลุถึงความเป็นพระอริยบุคคลในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ได้นั้น โอกาสใดที่จะเจริญกุศลได้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านใดๆ ก็ตาม ก็ไม่ควรที่จะละเลยโอกาสนั้นไป เพราะโอกาสของการได้ทำความดีในชีวิตประจำวันนั้น เป็นโอกาสที่หายาก และในวันหนึ่งๆ อกุศลจิตเกิดบ่อยมากเป็นปกติอยู่แล้ว ถ้าไม่มีโอกาสของกุศลจิตได้เกิดขึ้นบ้างเลย นับวันอกุศลก็จะสะสมพอกพูนหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สังสารวัฏฏ์ยืดยาวต่อไปอีกอย่างไม่มีวันจบสิ้น การให้ทาน ก็เป็นกุศลประการหนึ่ง เป็นไปเพื่อขัดเกลาความตระหนี่ของตนเอง ขณะที่มีเจตนาที่จะสละวัตถุสิ่งของเพื่อประโยชน์สุขแก่บุคคลอื่น ขณะนั้นเป็นบุญแล้ว สำเร็จแล้ว เพราะมีเจตนาที่จะสละ

ที่น่าพิจารณาคือ ผู้ที่มีความเข้าใจพระธรรม รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม ก็น้อมประพฤติในสิ่งนั้นและเว้นในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อย่างเช่นในกรณีถวายเงินแด่พระภิกษุ หรือ ถวายอาหารดิบ อย่างนี้ เป็นเหตุให้พระภิกษุท่านต้องอาบัติ แม้ผู้ถวายมีศรัทธามีจิตที่เป็นกุศลที่จะถวายก็ตาม เป็นการให้ที่ไม่ฉลาด ไม่ใช่การให้ของสัปบุรุษ เมื่อรู้ว่าไม่ถูกต้อง ก็สามารถที่จะกระทำให้ถูกต้องด้วยความเข้าใจที่ค่อยๆ เจริญขึ้นได้

อีกประการหนึ่ง สำหรับสังฆทาน ไม่ได้อยู่ที่ถังสีเหลือง แต่อยู่ที่สภาพจิตที่มุ่งตรงต่อสงฆ์ มีความเคารพยำเกรงต่อพระภิกษุผู้รับเสมอกันหมด ไม่ใช่ว่าจะเป็นสังฆทานก็ต่อเมื่อถวายของที่อยู่ในถังสีเหลือง นอกจากนั้น ของที่จะถวายก็จะต้องเป็นไปตามพระวินัยด้วย ไม่ได้จำกัดเฉพาะอาหารเท่านั้น รวมถึงวัตถุที่สมควรแก่เพศบรรพชิตทุกอย่าง ทั้งหมดที่จะกระทำให้ถูกต้องได้ ก็ต้องอาศัยความเข้าใจพระธรรมวินัยจากการได้ฟัง ได้ศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบนั่นเอง ครับ

ขอเชิญคลิกเพื่อศึกษาเพิ่มเติมในส่วนอื่นๆ ได้ที่นี่ครับ

เกี่ยวกับการรับเงินทองของพระ

จากหัวข้อ ตักบาตรและถวายเงินใส่ซองให้พระ

มีความเห็นอย่างไรกับการถวายสังฆทาน

การทำบุญ 3 อย่าง

ถวายซาซิมิ

... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 2 ม.ค. 2556

ขอนอบน้อมแ่ด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จากคำถามที่ว่า มีความสงสัยว่า การกระทำกุศลขั้นทาน ด้วยการหยอดเงินใส่ตู้รับบริจาคต่างๆ ที่พบได้ทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า ตามย่านชุมชน หรือตู้ทำบุญของวัด กุศลสำเร็จเป็นกุศลกรรมบถ เป็นทานมัย ทันทีที่หยอดเงินลงไปในตู้ หรือว่าเป็นแค่กุศลจิต และต้องรอให้เงินที่หยอดลงไปนั้น ไปถึงมูลนิธิต่างๆ และได้แปรเป็นปัจจัยต่างๆ ที่ไปทำประโยชน์ เช่น อาคารเรียน ข้าวกลางวัน ฯลฯ เสียก่อน จึงจะครบองค์และจึงจะเป็นกุศลกรรมครับ

- กุศลในขั้นทาน คือ เจตนาที่สละ เป็นอโลภเจตสิกที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ซึ่งจะต้องมีกุศลจิตที่คิดจะสละให้ประการหนึ่ง นั่นคือ ผู้ให้มีไทยธรรม คือ ของที่จะให้ และ มีผู้รับ กรรมจึงจะครบสำเร็จในการให้ ซึ่งสำหรับในกรณีของตู้บริจาคมูลนิธิต่างๆ นั้น ตู้รับก็เป็นเหมือนตัวแทนของผู้รับ ที่ผู้รับได้มอบหมาย หรือจะกล่าวว่า เป็นตัวแทนของผู้รับโดยตรง ดังนั้น เมื่อมีเจตนาสละ และ บริจาคไปในตู้ ก็เหมือนกับการให้กับผู้รับแล้ว ขณะนั้นทานสำเร็จแล้ว เมื่อมีผู้ให้ มีเจตนาสละ มีกุศลจิต มีการให้ไทยธรรม ของที่จะให้ และ มีผู้รับในขณะนั้น


จากคำถามที่ว่า เช่นเดียวกับเงินที่ทำในตู้วัด หรือแม้แต่ภัตตาหารปัจจัยต่างๆ ที่ถวายแด่พระสงฆ์ ถ้าพระสงฆ์ยังไม่รับประทานหรือฉันภัทตาหารที่เราถวาย กุศลเราก็ยังไม่สำเร็จเป็นกุศลกรรมหรือ

-ในกรณีของพระภิกษุ การถวายอาหาร ขณะที่คิดมีจิตสละ และ ได้ถวาย และพระภิกษุได้รับ ก็ชื่อว่า มีผู้ให้ไทยธรรมและผู้รับ ครบองค์แล้ว แม้พระจะไม่ฉัน จะไปแจกจ่าย หลังจากที่ท่านแบ่งของๆ ท่านแล้ว ก็เป็นอันทานสำเร็จแล้ว เพราะ มีการรับทานนั้นแล้ว ครับ


จากคำถามที่ว่า แล้วไม่ทราบว่า การถวายเงินพระสงฆ์นั้น ด้วยไม่รู้พระวินัย อย่างที่ชาวพุทธทั้งหลายทั่วๆ ไปทำกันอยู่ ด้วยกุศลเจตนาจริงๆ ที่จะถวายเงินเป็นปัจจัย ขณะนั้นก็เป็นกุศลจิต มีกำลังที่สละทรัพย์ได้ และก็ไม่ได้มีความเห็นผิดใดๆ ทานนั้นจะชื่อว่า สำเร็จเป็นกุศลกรรมหรือไม่ เพราะเหตุใด

- กุศลกรรมมีกำลังอ่อน เพราะอาศัยความไม่รู้ เป็นปัจจัยให้เกิดกุศล การสละ สิ่งที่ไม่เป็นไประโยชน์กับพระภิกษุ แม้เป็นกุศล แต่มีกำลังอ่อนมาก จึงเป็นปัจจัย ถ้ากุศลกรรมนี้ให้ผล ในชาติที่เกิดเป็นมนุษย์ ก็ทำให้ บ้าใบ้ บอดหนวก พิการแต่กำเนิดได้ ครับ


จากคำถามที่ว่า เช่นเดียวกับกรณีที่ถวายอาหารคาว ดิบ แด่พระภิกษุ ด้วยไม่ทราบว่าวินัยท่านห้ามฉัน หรือการถวายสังฆทานถังเหลืองอันประกอบด้วยของไม่ค่อยจะเป็นประโยชน์ บางอย่างก็เป็นโทษ ที่นิยมต่อๆ กันมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ ชื่อว่าเป็นกุศลที่สำเร็จกุศลกรรมหรือไม่ อย่างไร

- โดยนัยเดียวกัน ตามที่กล่าวมา เป็นกุศลกรรมที่มีกำลังอ่อนมาก ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เซจาน้อย
วันที่ 2 ม.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของอ.คำปั่น อ.ผเดิมและทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 2 ม.ค. 2556

กุศลในขั้นทาน คือ เจตนาที่สละ เป็นอโลภเจตสิกที่เกิดขึ้นในขณะนั้น

อนุโมทนา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
นิรมิต
วันที่ 2 ม.ค. 2556

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนา อ.คำปั่น และ อ.ผเดิม เป็นอย่างสูงครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
daris
วันที่ 5 ม.ค. 2556

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
nopwong
วันที่ 5 ม.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 20 พ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ