อยากเรียนถาม องค์สมเด็จพระผู้เป็นเจ้าวิสุทธิพุทธรังษีบรมบิดา เป็นใคร

 
กฤต
วันที่  15 ส.ค. 2555
หมายเลข  21561
อ่าน  5,054

คือจากการศึกษาของผมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามานานกระผมเองไม่เคยได้ยินชื่อๆ นี้ องค์สมเด็จพระผู้เป็นเจ้าวิสุทธิพุทธรังษีบรมบิดา ผู้เป็นใหญ่สูงสุดเบื้องบนพระนิพพาน ผู้เป็นเจ้าแห่งมวลจักรวาลทั้งโลก แต่เมื่อประมาณสี่ห้าปีก่อนเริ่มมีขึ้นมา และหนักข้อขึ้นทุกวัน กระผมเองจึงอยากเรียนถามผู้รู้ ถึงเรื่องดังกล่าวนี้ครับ ซึ่งผมเองไม่ทราบว่าจะตกข่าวไหม เพราะพึ่งเข้าสมัครเว็บนี้ วันนี้ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๕ และผมเองก็เฝ้าติดตามคนกลุ่มนี้มาตลอด และท่าทางจะมีการขยายตัวกว้างขวางพอสมควร พอๆ กับวิถีอนุตรธรรมของพวกไต้หวัน จึงน่ากลัวสำหรับคนที่มีศรัทธาจริต จนไม่คิดให้ดี เราในฐานะชาวพุทธควรจะทำอย่างไร แนะนำคนอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องไร้สาระพวกนี้ดีครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
กฤต
วันที่ 15 ส.ค. 2555

ขอท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 15 ส.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สำหรับ องค์สมเด็จพระผู้เป็นเจ้าวิสุทธิพุทธรังษีบรมบิดา ก็เป็นลัทธิหนึ่ง ลัทธิเดียวกับ อนุตตรธรรมนั่นเองครับ ที่แสดงว่าองค์สมเด็จพระผู้เป็นเจ้าวิสุทธิพุทธรังษีบรมบิดา เป็นพลังจิตเริ่มแรก ที่ถึงพระนิพพาน และ ยังคงอยู่ และเป็นผู้บันดาลเป็นผู้สร้างสรรพสิ่ง ที่เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม และยังแสดงถึง ความมีสถานที่ คือ นิพพานที่มีอยู่ อันเป็นสถานที่ที่เมื่อผู้ที่นิพพานแล้ว จะเข้าถึง

ซึ่งในความเป็นจริง พระนิพพาน เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ที่จะเข้าถึงด้วยปัญญา แต่พระนิพพาน ว่างจากสภาพธรรมที่มีปัจจัยปรุงแต่งเกิดขึ้นและดับไป ว่างจาก จิต เจตสิกและรูป เพราะฉะนั้น พระนิพพานจึงไม่ใช่สถานที่ เพราะ ไม่มีรูปที่ประชุมว่าเป็นสถานที่ และ ตราบใดที่ยังสำคัญว่า มีพระนิพพาน ที่เป็นสถานที่อยู่ ก็เท่ากับว่า มีการเกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นก็ต้องดับไป ก็ยังไม่พ้นจากการเกิดได้จริงๆ ครับ

ดังนั้น จึงเป็นลัทธิที่เป็นความเห็นผิดประการหนึ่ง

และคำถามต่อไปที่ว่า

เราในฐานะชาวพุทธควรจะทำอย่างไร แนะนำคนอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องไร้สาระพวกนี้ดี

- ในความเป็นจริง สัตว์โลกเป็นไปตามการสะสมมา ผู้ที่สะสมความเห็นผิด ก็คล้อยไปตามความเห็นผิด ผู้ที่สะสมความเห็นถูกก็คล้อยไปตามความเห็นถูก ดังนั้น ธรรมทั้งหลายจึงเป็นอนัตตา ไม่สามารถที่จะไปจัดการ บังคับให้ทุกคนที่เห็นผิด มาเห็นถูกได้ ครับ แม้แต่พระพุทธเจ้า ก็ไม่สามารถแก้ความเห็นผิดของสัตว์โลกได้ทุกคน ก็แล้วแต่ว่าใครจะสะสมอะไรมา ที่สำคัญ จะต้องเริ่มจากความเห็นถูกของตนเองเป็นสำคัญให้มั่นคง ถูกต้องและมีกำลัง ครับ ประโยชน์ของตนสำคัญที่สุด เมื่อประพฤติประโยชน์ตนได้ ย่อมที่จะเกื้อกูลผู้อื่น เท่าที่จะทำได้ โดยการแนะนำตามสมควร แต่ไม่ใช่การจะบังคับ เพราะ มีแต่จะเพิ่มอกุศลทั้งสองฝ่าย ครับ

ดังนั้น ควรมองด้วยปัญญาที่เห็นถึงความเป็นธรรมดาว่า ความเห็นผิด ก็ต้องอยู่คู่กับโลก ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคต เป็นอย่างนี้ สำคัญที่ใจของเรา คือ รักษาใจด้วยกุศล ที่เห็นถึงความเป็นธรรมที่เป็นไปตามเหตุปัจจัย และ กลับมาใส่ใจที่ใจของตนเอง ที่จะสนใจศึกษาพระธรรมมากขึ้น เพราะ เห็นโทษของความเห็นผิด ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
กฤต
วันที่ 15 ส.ค. 2555

ขอบคุณที่ชี้แนะครับ ทำตัวเองให้ดีที่สุดให้เป็นแบบอย่างเพื่อคนอื่นได้เข้าใจได้ปฏิบัติตามอย่างมีเหตุและผล สาธุครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
กฤต
วันที่ 15 ส.ค. 2555
อ้างอิงจาก : หัวข้อ 21561 ความคิดเห็นที่ 2 โดย paderm

แต่ถึงกระนั้น ผู้ที่ก่อตั้งลัทธิแบบนี้ขึ้นมา ไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาครับ ทุกอย่างในเรื่องการปฏิบัติแอบอ้างเอาของพระพุทธศาสนาคัดมาทั้งหมดก็ว่าได้ แต่กลับใส่ศรัทธาในบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้าและบิดเบือนอย่างบ้าคลั่ง บาปไหมครับ หรือว่าได้บุญ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
paderm
วันที่ 15 ส.ค. 2555

เรียนความเห็นที่ 4 ครับ

ผู้ที่บิดเบือนพระธรรม มีโทษมาก เป็นบาปมาก ครับ เพราะ มีความไม่รู้ และ ความเห็นผิด ทำให้ บิดเบือนพระธรรม และ แสดงไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง เป็นอกุศลกรรมที่เป็น ความเห็นผิด เมื่อกรรมนี้ให้ผล ย่อมเข้าถึง อบาย มีคติ ๒ อย่าง คือ มีที่เกิด ๒ อย่าง คือ นรกและสัตว์เดรัจฉาน ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
กฤต
วันที่ 15 ส.ค. 2555

แต่ทว่า ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ก็มาจากพระพุทธองค์ปฐมของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ซึ่งค่อนข้างที่จะเข้ากันอย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย ผมบอกตามตรงว่าแยกไม่ออกว่า อะไร อย่างไรครับ เพราะทางหลวงพ่อฤาษีลิงดำ บ้างก็ว่าท่านเป็นอรหันต์ มีคนนับถือเยอะมากแทบจะว่าทั้งประเทศได้ แต่เหตุไปเหตุมาเป็นอย่างไรครับ ช่วยอธิบายให้ผมทราบเข้าใจด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
paderm
วันที่ 15 ส.ค. 2555

เรียนความเห็นที่ 6 ครับ

ความเห็นถูก และ ความเห็นผิด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนคนนับถือ แต่ขึ้นอยู่ว่าตรงกับสัจจะความจริงที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงหรือไม่ ซึ่งประเด็นเรื่องพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้กล่าวไว้ในกระทู้นี้แล้ว ครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ

พระพุทธสมเด็จองค์ปฐม

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
กฤต
วันที่ 16 ส.ค. 2555

ขอบคุณสำหรับความรู้ที่เข้ามาตอกย้ำความมั่นใจในธรรมของพระพุทธองค์ให้ยิ่งแน่นขึ้นอีกครับ และคำถามต่อไป ใคร่ขอเรียนถามเรื่องเกี่ยวกับ พระโพธิสัตว์ในคติจีน ไม่ทราบว่า มีจริงแท้แน่นอนอย่างไรไหม และหากไม่มีจริงแล้วพระอรหันต์จี้กงที่เขาร่ำลือกันล่ะครับ เป็นเช่นไร ที่ไปที่มาเป็นอย่างไร พระพุทธมหายานนี้เหมือนจะมีพระพุทธเจ้าเกิดในกัปป์นี้มากมายเหลือเกิน จำนวนพระโพธิสัตว์มากมายเหลือเกินน่ะครับ ช่วยชี้แนะให้ด้วยนะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
paderm
วันที่ 16 ส.ค. 2555

เรียนความเห็นที่ 8 ครับ

พระโพธิสัตว์ในมหายาน ที่แสดงว่า เมื่อบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว ดับกิเลส ก็ยังจะมาเกิดเป็นพระโพธิสัตว์อีก และ มีพระโพธิสัตว์มากมาย ที่จะช่วยเหลือ แม้จะเป็นพระอรหันต์ดับกิเลสแล้ว

ซึ่งในความเป็นจริง ที่เป็นสัจจะ โดยไม่เกี่ยวกับ นิกายใด พระอรหันต์ผู้ที่ดับกิเลสแล้ว ย่อมไม่มีการเกิดอีกของขันธ์ ๕ เพราะ กิเลสเป็นเหตุให้มีการเกิด เมื่อไม่มีกิเลส ย่อมไม่เกิด และไม่มีสถานที่ที่ไปอยู่ด้วย ดับหมดไม่เหลือ

เพราะฉะนั้น ผู้ที่ดับกิเลสแล้ว และ ตาย จะไม่มีการเกิดเป็นใคร บุคคลใด และ แม้จะเกิดเป็นพระโพธิสัตว์เลย

ผู้ที่ยังเป็นพระโพธิสัตว์ในความเป็นจริง ตามศัพท์แปลว่า ผู้ที่ข้องในการตรัสรู้ คือ ประพฤติธรรมเพื่อที่จะตรัสรู้ ดังนั้น พระโพธิสัตว์ ก็ยังมีกิเลสอยู่ แต่เมื่อดับกิเลสแล้ว ก็ไม่ใช่พระโพธิสัตว์ เพราะ ไม่ได้ข้องกับการตรัสรู้ เพราะตรัสรู้แล้ว และ พระพุทธเจ้า ก็มีในกัปนี้ เพียง ๕ พระองค์ที่เป็น ภัทรกัป ไม่มีมากกว่านี้ ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
กฤต
วันที่ 16 ส.ค. 2555

๑. นั่นก็หมายถึงว่าพระโพธิสัตว์ต่างๆ ที่อ้างโดยนิกายมหายานนั้น มีจริงใช่ใหม่ครับ

๒. การปรากฏตัวของพระโพธิสัตว์ในฝ่ายมหายาน ตามพระไตรปิฎกของเถรวาทเรานั้น มีกล่าวไว้ไหมครับ

๓. เกี่ยวกับความเชื่อ ของฝ่ายเถรวาทจะสามารถสรุปได้ไหมว่า พระพุทธเจ้าพระสมณโคดมของเรานั้น ไม่เคยได้ตรัสไว้น่ะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
paderm
วันที่ 16 ส.ค. 2555

เรียนความเห็นที่ 10 ครับ

๑. นั่นก็หมายถึงว่าพระโพธิสัตว์ต่างๆ ที่อ้างโดยนิกายมหายานนั้นมีจริงใช่ใหม่ครับ

- ไม่มีจริงครับ เพราะ ทางมหายาน กล่าวว่า เป็นพระอรหันต์ดับกิเลสแล้ว ยังจะลงมาเกิด มาช่วยมนุษย์ เป็นพระโพธิสัตว์อีก ความจริงแล้ว เมื่อเป็นพระอรหันต์ดับกิเลสแล้ว จะไม่กลับมาเกิดอีก ไม่มาเกิดเป็นบุคคลใดๆ ทั้งสิ้น ครับ

๒. การปรากฏตัวของพระโพธิสัตว์ในฝ่ายมหายาน ตามพระไตรปิฎกของเถรวาทเรานั้น มีกล่าวไว้ไหมครับ

- ไม่มี ครับ เพราะ พระอรหันต์ เมื่อดับกิเลสหมดแล้ว ปรินิพพาน จะไม่มีการกลับมาเกิดเป็นพระโพธิสัตว์

๓. เกี่ยวกับความเชื่อ ของฝ่ายเถรวาท จะสามารถสรุปได้ไหมว่า พระพุทธเจ้าพระสมณโคดมของเรานั้น ไม่เคยได้ตรัสไว้น่ะครับ

- ไม่เคยตรัสไว้ ครับ ในประเด็นที่ เมื่อบรรลุเป็นพระอรหันต์ จะกลับมาเกิดเป็นพระโพธิสัตว์ มีแต่ตรัสไว้ว่า บรรลุเป็นพระอรหันต์แล้วปรินิพพาน ไม่มีการเกิดขึ้นของขันธ์ และ อะไรๆ อีกเลย ครับ

ซึ่งในประเด็นพระโพธิสัตว์ที่เกี่ยวกับมหายาน ได้กล่าวไว้ในกระทู้นี้แล้วครับ

เชิญคลิกครับ

โพธิสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
กฤต
วันที่ 16 ส.ค. 2555

ประการสุดท้ายครับ

พระโพธิสัตว์กวนอิม พระอวโลกิเตศวร พระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์ มีจริงไหมครับ ถ้าไม่มีจะสามารถสรุปได้ไหมครับว่า เป็นเรื่องที่กุขึ้นมาเองของฝ่ายมหายาน แต่ทำเพื่ออะไรครับ แล้วการที่คนโน่นคนนี่ สำนักโน่น สำนักนั่น ออกมาพูดโพล่งๆ ๆ ๆ ว่า ท่านศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นอย่างนี้ และอีกสถานธรรมต่างๆ ที่ชักชวนคนปฏิบัติก็เยอะมากมาย นั่นคือการปฏิบัติสูญเปล่าใช่ไหมครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
paderm
วันที่ 16 ส.ค. 2555

เรียนความเห็นที่ 12 ครับ

ที่กล่างอ้างโดยความเป็นพระอรหันต์แล้วก็มาโปรดสัตว์ต่อ เป็นเจ้าแม่กวนอิม หรือ พระโพธิสัตว์ชื่ออื่นๆ ก็ไม่ถูกต้อง ตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง

ตามที่กล่าวมา จึงไม่ตรงตามสัจจะ จึงไม่มีจริง ครับ ส่วน ตามที่ผู้อื่น สำนักอื่นพูด ก็เป็นธรรมดาของความไม่รู้และความเห็นผิดที่เกิดขึ้นเป็นธรรมดาของโลก และ ตั้งอยู่ คู่กับโลกต่อๆ ไป ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
khampan.a
วันที่ 16 ส.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สำคัญที่สุด คือ การเริ่มต้นฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ซึ่งจะเป็นที่พึ่งได้อย่างแท้จริง ถ้าไม่มีการฟังพระธรรมให้เข้าใจแล้ว ใครว่าอะไร แสดงลัทธิความเห็นผิดๆ อย่างไร ก็จะคล้อยตามได้โดยง่าย แต่ถ้ามีความเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ย่อมไม่คล้อยตามเป็นแน่ เพราะสิ่งที่ถูกต้องเป็นอย่างไร และมีปัญญาสามารถแยกแยะได้ว่า อะไรที่เป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และ อะไร ที่ไม่ใช่คำสอนของพระองค์

และที่น่าพิจารณา คือ ความเห็นผิดที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงนั้น มีทุกยุคทุกสมัย และก็มีมากด้วยแม้ในสมัยนี้ จึงเป็นเครื่องเตือนใจที่ดีว่า ในเมื่อคนอื่นเขาเห็นผิด เราจะเห็นผิดตามเขา หรือเราจะตั้งใจศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ยืนหยัดอยู่ในความถูกต้องตามความเป็นจริง เหมือนกับข้อความประโยคหนึ่งที่ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ กล่าวเตือนไว้ในรายการแนวทางเจริญวิปัสสนา ว่า

"คนอื่นเขาเป็นโจร เราจะยืนหยัดที่จะไม่เป็นโจรตามเขาหรือเราก็จะเป็นโจรไปกับเขาด้วย?"

ควรค่าแก่การพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง ความเข้าใจพระธรรมเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งที่แท้จริงในชีวิต ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
กฤต
วันที่ 16 ส.ค. 2555

กระจ่างแท้ครับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณสาธุครับ สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
กฤต
วันที่ 16 ส.ค. 2555

ถ้าทุกอย่างเกี่ยวกับองค์ปฐม ไม่เป็นจริงตามนั้น ฉะนั้นสิ่งที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำกล่าวมา จะสรุปได้ไหมว่าผิดครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
wannee.s
วันที่ 16 ส.ค. 2555

พระโพธิสัตว์ ยังเป็นปุถุชน ยังมีกิเลสอยู่ ไม่ใช่พระอรหันต์ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
paderm
วันที่ 16 ส.ค. 2555

เรียนความเห็นที่ 16 ครับ

ไม่ว่าจะเป็นใครกล่าว หากไม่ถูกต้อง และไม่ตรงตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ก็ชื่อว่าผิด เพราะ สิ่งที่ผิด และ สิ่งที่ถูก ไม่ได้เปลี่ยนไปตามผู้ใดกล่าว แต่สัจจะ ย่อมถูกต้องตรงความเป็นจริง ความเห็นถูก ย่อมเป็นความเห็นถูก ไม่ว่าจะเป็นใคร และ ความเห็นผิด ก็ต้องเป็นความเห็นผิด ไม่ว่าจะเป็นใครกล่าว

ดังนั้น คำว่า มีพระธรรมเป็นที่พึ่ง จึง มีพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นเครื่องตรวจสอบความถูกต้อง โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับใคร ครับ ซึ่ง พระพุทธเจ้าองค์ปฐม ไม่ได้มีความเที่ยงแท้ และ ไม่มีแสดงในพระธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ก็เป็นการคิดนึกขึ้นเอง ของผู้ที่ไม่ได้ตรัสรู้ความจริง

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
กฤต
วันที่ 16 ส.ค. 2555

ผมขอเรียนถามว่า สิ่งใดที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามไว้ในเรื่องของการแสดงฤทธิ์ครับ เพราะเหตุใดพระองค์จึงทรงตรัสห้าม และพระในบ้านเราปัจจุบันนี้มีฤทธิ์ไหมครับ และสามารถแสดงได้ไหมครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
paderm
วันที่ 16 ส.ค. 2555

เรียนความเห็นที่ 19 ครับ

พระพุทธเจ้าทรงห้ามการแสดงฤทธิ์ ในเรื่องพระปิณโฑละภารทวาชะ ที่ท่านแสดงฤทธิ์ เพราะเหตุเพียงบาตรไม้ พระองค์ตรัสห้ามแสดงฤทธิ์ เพราะว่าแลกกับสิ่งที่เป็นเพียงอามิส ไม่สมควร ดุจซากศพ ครับ และเป็นไปเพื่อลาภ สักการะด้วย ย่อมไม่ควร

ส่วนผู้ใดจะมีฤทธิ์ ต้องอบรมสมถภาวนา จนได้ฌานขั้นสูงสุด ซึ่งในความเป็นจริง ฤทธิ์ ที่เป็น อิทธิปาฏิหารย์ ไม่ใช่สาระสำคัญเลยสำหรับพระพุทธศสนา เพราะ ไม่เป็นไปเพื่อการดับกิเลส พระพุทธเจ้าทรงยกย่อง อนุสาสนีปาฏิหารย์ที่เป็นไปในการดับกิเลสว่า เป็นเลิศ ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
กฤต
วันที่ 16 ส.ค. 2555

อ๋อ ตอนที่มีกษัตริย์องค์นึง เอาบาตรไม้จันทน์แดงแขวนไว้ที่ยอดเสา แล้วประกาศว่าใครที่สามารถเหาะไปเอาบาตรได้คนนั้นคือพระอรหันต์ใช่ไหมครับ และพระพุทธเจ้าก็ได้ตรัสห้ามไว้ตั้งแต่ตอนนั้นใช่ไหมครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 22  
 
paderm
วันที่ 16 ส.ค. 2555

เรียนความเห็นที่ 21 ครับ

เป็นตอนที่เศรษฐี ครับ ที่เอาบาตรแขวนไว้ครับ โดยกล่าวว่า ใครเป็นพระอรหันต์ จงมาเอาบาตรที่แขวนไว้ที่ปลายไม้ไผ่ที่ผูกต่อๆ กันไป ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 23  
 
นิรมิต
วันที่ 16 ส.ค. 2555

กราบอนุโมทนาธรรมทุกๆ ท่านครับ

ขออนุญาตร่วมสนทนาธรรมด้วยนะครับ คือตัวผมเป็นลูกคนจีน ก็เกิดเติบโตมาโดยเชื่อว่าเจ้าแม่กวนอิมนั้นมีอยู่จริง ทิฏฐิอันนี้ยังแรงอยู่ แม้จะได้ศึกษาพระธรรม เข้าใจเหตุปัจจัยทั้งหลายพอประมาณ แต่ก็ยังถอดถอนความเห็นว่าพระโพธิสัตว์ของฝ่ายมหายานไม่มีตัวตนจริงๆ ไม่ออก ยังคิดว่า อาจจะมีอยู่ แต่เป็นอนิยตโพธิสัตว์เจ้า ที่ยังไม่ได้รับการพยากรณ์ หรือเป็นผู้ที่อาจจะมีอยู่ ที่ใดที่หนึ่ง เป็นเทพธิดาหรือเทพบุตรชั้นใดชั้นหนึ่งบนสวรรค์เฉยๆ ซึ่งต้องยังไม่ได้บรรลุธรรมเป็นแน่อยู่แล้ว

อย่างนี้ความเห็นจะยังเป็นมิจฉาทิฏฐิหรือเปล่าครับ จะละถอนอย่างไรดี เพราะเคยเชื่อเคยเคารพมานาน ครั้งจู่ๆ จะมาถอดออกไปหมดเลยมันก็ทำไม่ได้ เฉกเช่นกับคำสอนที่พิจารณาแล้ว ผิดกับคำสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าของบางสำนัก คือ ก็ไม่ได้เชื่อถือ ไม่ได้เลื่อมใส แต่ก็ไม่ได้รู้สึกปฏิเสธเสียทีเดียว ยังมีอาการเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ว่าท่านผู้นั้นอาจจะบรรลุธรรมแล้วก็ได้ ส่วนคำสอนที่ดูเหมือนผิดนั้น อาจจะเพื่อจริตของบุคคลบางคน เลยมีคำสอนแบบนี้เพื่อให้ตรงจริต อะไรทำนองนี้ ควรจะพิจารณาวางใจไว้อย่างไรดีจึงจะเหมาะสม ไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ

ขอบพระคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 25  
 
เซจาน้อย
วันที่ 16 ส.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"ความเห็นถูก และ ความเห็นผิด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนคนนับถือ แต่ขึ้นอยู่ว่าตรงกับสัจจะความจริงที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงหรือไม่ "

"ในเมื่อคนอื่นเขาเห็นผิด เราจะเห็นผิดตามเขา หรือเราจะตั้งใจศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ยืนหยัดอยู่ในความถูกต้องตามความเป็นจริง"

"แม้แต่พระพุทธเจ้า ก็ไม่สามารถแก้ความเห็นผิดของสัตว์โลกได้ทุกคน"

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของอ.ผเดิม อ.คำปั่นและทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 26  
 
Noparat
วันที่ 16 ส.ค. 2555

ในเมื่อคนอื่นเขาเห็นผิด เราจะเห็นผิดตามเขา หรือเราจะตั้งใจศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ยืนหยัดอยู่ในความถูกต้องตามความเป็นจริง

ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 27  
 
กฤต
วันที่ 16 ส.ค. 2555

ขอบคุณครับ แต่ถึงกระนั้นในยุคนี้ก็ยังมีพระหลายๆ รูปที่พยายามจะอวดอ้างอิทธิฤทธิ์ อิทธิเดชมากมายแก่ประชาชนเพียงแค่ต้องการประทังความอยาก อำนาจให้แก่ตน

จึงอยากเรียนถามต่ออีกว่า กิจอันใดที่พระไม่ควรทำบ้างครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 28  
 
paderm
วันที่ 16 ส.ค. 2555

เรียนความเห็นที่ 27 ครับ

เพศบรรพชิต มีกิจ ๒ อย่างเท่านั้น คือ

คันถธุระ การศึกษาพระธรรม และ

วิปัสสนาธุระ การปฏิบัติธรรมอบรมปัญญา

กิจอย่างอื่น มีการประพฤติมักมาก อ้างอิทธิฤทธิ์ และ ประการอื่นๆ ที่ขัดกับสิกขาบท พระวินัย และไม่เป็นไปเพื่อการขัดเกลากิเลสแต่เพิ่มกิเลส ไม่สมควรทั้งนั้น ครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ

ธุระ ๒ อย่างในพระศาสนา

 
  ความคิดเห็นที่ 29  
 
paderm
วันที่ 16 ส.ค. 2555

เรียนความเห็นที่ 23 ครับ

การพิจารณาว่าสิ่งใด ถูก สิ่งใด ผิด ก็ต้องตัดสิน ด้วยพระปัญญาคุณของพระพุทธเจ้าที่แสดงสัจจะความจริงไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าบุคคลใด ลัทธิ แนวความคิดใดกล่าว ก็สามารถเปรียบเทียบกับพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ได้ครับ

ซึ่งในประเด็น เจ้าแม่กวนอิมในมหายานนั้น ในความเป็นจริง ผู้ที่จะพยากรณ์ว่าใครเป็นพระโพธิสัตว์ได้ ผู้นั้นจะต้องมีปัญญาที่สามารถรู้การสะสมของบุคคลนั้น รู้ในอดีตชาตินับชาติไม่ถ้วนของบุคคลนั้น นั่นคือ พระพุทธเจ้าเท่านั้น ไม่มีบุคคลอื่นที่จะพยากรณ์ได้ เพราะฉะนั้น ไม่มีในคำสอนที่พระพุทธเจ้าที่ได้พยากรณ์ว่า มีพระโพธิสัตว์ชื่อนี้ ซึ่ง พระโพธิสัตว์ แบ่งเป็น ๒ อย่าง คือ นิยตโพธิสัตว์ คือ เที่ยงแท้ที่จะบรรลุแน่ อันได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า และ อนิยตโพธิสัตว์ คือ ยังไม่แน่นอนที่จะได้ตรัสรู้ และ ยังม่ได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า

เพราะฉะนั้น ไม่มีนามของเจ้าแม่กวนอิม ที่เป็นนิยตโพธิสัตว์ ที่ได้รับการพยากรณ์ และ หากเป็นอนิยตโพธิสัตว์ ก็ยังไม่เที่ยงแท้ ก็ยังไม่ได้รับการพยากรณ์ ก็จะไม่มีในคำตรัสของพระพุทธเจ้าครับ เพราะ ยังไม่เที่ยงแท้ที่จะได้ตรัสรู้

ดังนั้น สำคัญที่ว่า พระโพธิสัตว์ตามแนวคิดของนิกายนั้น อธิบายถูกต้องตรงตามความเป็นจริงหรือไม่ หากอธิบายว่า แม้เป็นพระอรหันต์ ก็ยังจะกลับมาโปรดสัตว์ได้อีก ที่เป็นปางหนึ่งของ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ นั่นก็ขัดกับหลักสัจจะความจริงที่ เมื่อเป็นพระอรหันต์ ตายแล้ว ปรินิพพานย่อมไม่กลับมาเกิดอีก เมื่อไม่ตรงตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง เหตุไม่ถูก ผล และ ประเด็นในพระโพธิสัตว์ก็ไม่ถูกต้องตามไปด้วย ครับ

ซึ่งการจะไถ่ถอนความเชื่อเดิมๆ ก็ต้องเกิดจากปัญญาความเห็นถูก โดยการพิจารณาตามความเป็นจริง ที่เป็นผู้ที่ตรงต่อพระธรรม เหตุและผล ก็จะค่อยๆ ไถ่ถอนได้ ครับ ซึ่งก็แล้วแต่การสะสมของแต่ละบุคคลที่จะเปลี่ยนได้ช้าหรือเร็ว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การศึกษาพระธรรม ปัญญาที่เจริญขึ้น จะทำหน้าที่เห็นถูก และไถ่ถอนความเห็นที่ผิดได้ในที่สุด ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 30  
 
กฤต
วันที่ 17 ส.ค. 2555

รับทราบครับ สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 31  
 
นิรมิต
วันที่ 17 ส.ค. 2555

กราบอนุโมทนาสาธุครับผม

 
  ความคิดเห็นที่ 32  
 
กฤต
วันที่ 17 ส.ค. 2555

สิ่งที่ได้รู้นับว่าเป็นคลังสมบัติ และคลังอาวุธ คือปัญญา ขอบคุณครับ

หากแม้นมีอะไรเพิ่มเติม เชิญทุกท่านได้ช่วยชี้แนะ หรือไถ่ถามกันได้ครับ ผมเองก็อยากทราบหลายๆ อย่างครับ ทั้งในสิ่งที่รู้ ไม่รู้ ไม่เคยรู้ และไม่เคยคิดที่จะรู้ การเปิดประเด็นตรงนี้อาจมีหลายๆ คนได้สติกับการงมงายเชื่อข่าวต่างๆ ครับ

ขอบคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 33  
 
anong55
วันที่ 17 ส.ค. 2555

กราบอนุโมทนาทุกท่านที่ร่วมสนทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ