วิตกกังวลเรื่องไม่เป็นเรื่อง

 
kruyai
วันที่  2 ส.ค. 2555
หมายเลข  21500
อ่าน  1,789

ข้าพเจ้ามีอะไรมากระทบจิตในตอนนั้น จะยังไม่รู้สึก แต่จะนำคำพูด หรือ การกระทำนั้น มาคิดทีหลัง แล้วหลังจากนั้นจะคิดวนไปวนมา จนนอนไม่หลับ เป็นคนไม่มีสติ ไม่มีสมาธิ อยู่กับปัจจุบัน

จึงอยากเรียนถามว่า ข้าพเจ้าควรทำอย่างไรดีครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 3 ส.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สำคัญ คือ เริ่มสะสมความคิดใหม่ที่ถูกต้อง คือ คิดถูก คิดดี คิดมีประโยชน์ ซึ่งจะมีไม่ได้เลย ถ้าไม่อาศัยการสะสมใหม่ด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม เพราะ การศึกษา อบรมปัญญา ปัญญาที่เจริญขึ้น ก็ทำให้คิดถูกขึ้น สมดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า เพราะ มีสัมมาทิฏฐิ ความเห็นถูกที่เป็นปัญญา ย่อมทำให้เกิดสัมมาสังกัปปะ ความคิดถูก ความคิดชอบ เพราะฉะนั้น หากยังไม่มีปัญญา แม้จะบอกว่า ให้อย่าไปคิดเรื่องนั้น เรื่องนี้ ก็สุดวิสัย เพราะยังไงก็ต้องคิด เพราะธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตาบังคับไม่ได้

ดังนั้น สิ่งแรก คือ เริ่มจากความเข้าใจถูกครับว่า ไม่มีใครสามารถบังคับไม่ให้คิดอย่างนั้นได้ เพราะ ได้สะสมความคิดอย่างนั้นมาที่จะคิดเรื่องเก่าๆ ที่ผ่านมา แต่เมื่อคิดแล้วก็ให้เข้าใจว่า บังคับไม่ได้ ไม่ใช่มีตัวเราที่จะปล่อยให้คิด แต่ธรรมทำกิจหน้าที่คิดเอง และการเข้าใจว่า ทำอะไรไม่ได้ ก็เป็นเรื่องเบาแล้วในขณะนั้น เพราะไม่ได้มีความพยายามที่จะทำอย่างไรไม่ให้คิด เพราะ ต้องคิดแน่ครับ

ดังนั้น แทนที่จะทำอย่างไร ก็ให้เข้าใจสิ่งนั้น และ อบรมสะสมความคิดใหม่ ด้วยการฟังพระธรรมขณะที่นอนไม่หลับ และคิดเรื่องเดิม ก็เปิดธรรมฟัง หรือ เอาหนังสือธรรมมาอ่าน ในขณะนั้น ก็จะเป็นประโยชน์ คือ ได้มีการคิดในเรื่องที่ควรคิด ที่เป็นสัจจะความจริงในขณะนั้น สลับ กับความคิดที่ไม่ถูก เรื่องเดิมๆ บ้าง เมื่อได้มีการสะสมความคิดใหม่ที่ถูก ก็จะเริ่มคิดในสิ่งที่ถูกในขณะต่อไป แทรกกับ ความคิดที่คิดเรื่องเก่าต่อไปในอนาคต ครับ

แต่ จะต้องอาศัยความอดทน ค่อยๆ สะสมไปทีละเล็กละน้อย ครับ เพราะ ไม่มีใครที่จะเร่งรีบ ไม่มีเราที่จะให้เร่งรีบ มีแต่ธรรม ครับ

ขอเชิญสหายธรรมร่วมให้คำแนะนำ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
munlita
วันที่ 3 ส.ค. 2555

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
kinder
วันที่ 3 ส.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
kruyai
วันที่ 3 ส.ค. 2555

ขออนุโมทนาสาธุครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
khampan.a
วันที่ 3 ส.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงพระธรรม เพื่อให้ผู้ฟังได้พิจารณาไตร่ตรอง เป็นความเข้าใจของผู้ฟังเอง ขอเพียงเป็นผู้เห็นประโยชน์ของการเข้าใจธรรม ซึ่งก็หมายถึงสิ่งที่มีจริงอยู่ในขณะนี้ ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า เป็นธรรม

เพราะในการฟังการศึกษาพระธรรม นั้น เป็นการศึกษาเพื่อให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังมีในขณะนี้จริงๆ ซึ่งตัวสภาพธรรมจริงๆ นั้น มีลักษณะเฉพาะของตนๆ มีจริงในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องไปแสวงหาที่ไหนเลย และสามารถที่จะเข้าใจตามความเป็นจริงได้

สิ่งสำคัญ คือ การฟังพระธรรมให้เข้าใจ เป็นปัญญาของตนเอง สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ นี้แหละคือสิ่งที่เป็นประโยชน์ เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ไม่ว่าสภาพธรรมใดปรากฏก็สามารถที่จะรู้ตามความเป็นจริงได้ แม้ในขณะที่คิด ก็เป็นธรรม ไม่สามารถที่จะบังคับบัญชาให้คิด หรือไม่ให้คิดได้ ธรรมเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยจริงๆ

แต่เมื่อได้ฟังพระธรรมแล้ว จากที่เคยมากไปด้วยความคิดที่เป็นไปกับด้วยอกุศล เป็นไปด้วยความไม่สบายใจ ก็จะค่อยๆ คิดถึงพระธรรมที่ได้ยินได้ฟัง ไตร่ตรองพระธรรม แทนการคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ไม่เกื้อกูลต่อการเจริญขึ้นของกุศลธรรมและปัญญาได้

เพราะฉะนั้น จึงสำคัญที่การเริ่มฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ เมื่อความรู้ ความเข้าใจค่อยๆ เจริญขึ้นไปตามลำดับ ย่อมเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้กุศลธรรมประการต่างๆ เจริญขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน,

คิด ก็คิดดี เมื่อคิดดีแล้ว การกระทำทางกาย และทางวาจา ก็ย่อมจะดีด้วยเหมือนกัน ความเข้าใจพระธรรม จึงเกื้อกูลให้กุศลธรรมทั้งหลายเจริญขึ้นในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง ป้องกันไม่ให้ไปทำอะไรด้วยความเห็นผิดหรือด้วยความไม่รู้ เพราะได้เข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
pat_jesty
วันที่ 3 ส.ค. 2555

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
anucha98
วันที่ 5 ส.ค. 2555
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
wannee.s
วันที่ 7 ส.ค. 2555

ไม่ว่าใครจะทำอะไร คิดอะไร พูดอะไร ตามกรรม ตามการสะสมจริงๆ และก็สะสมมานานแสนนานนับชาติไม่ได้

เราไม่สามารถบังคับบัญชาไม่ให้เกิด แต่เราสามารถอบรมปัญญาให้รู้ว่า แม้ความคิด ความกังวล เป็นธรรมะที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ถ้าดับเหตุดับปัจจัยก็ไม่เกิดอีก ที่สำคัญ ไม่มีวิธีอื่น นอกจากฟังธรรมให้ค่อยๆ เข้าใจขึ้น ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
แมวทไวไลท์
วันที่ 8 ส.ค. 2555

อนุโมทนาบุญครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
แมวทไวไลท์
วันที่ 18 ส.ค. 2555

ผมมักวิตกกังวลในเรื่อง ไร้สาระ เมื่อได้มาอ่าน คำแนะนำ ของพระธรรม ทำให้ผม เข้าใจ สภาพธรรม อนัตตา ยิ่งขึ้น

ขอนอบน้อมแด่พระธรรม และ ขออนุโมทนาบุญครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ภพฺพาคมโน
วันที่ 19 ส.ค. 2555

เวลาดิฉันฟุ้งซ่าน อันดับแรกที่จะทำคือฟังธรรม อ่านหนังสือธรรมะ
หรือไม่ก็เข้าเว็บบ้านธรรมะ มันช่วยได้จริงๆ นะคะ ต้องทำให้ตัวเองสงบก่อน แล้วกุศลจิตจะตามมาเอง

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ