ฎีกากฐิน

 
namake
วันที่  2 ก.ค. 2555
หมายเลข  21328
อ่าน  12,243

เรียนถามผู้รู้ค่ะ

ได้ช่วยทำฎีกากฐินให้กับวัดๆ หนึ่ง เกี่ยวกับการสร้างเสนาสนะ เริ่มจาก ทำใบเชิญชวนเพื่อขอรายชื่อ นำรายชื่อมาพิมพ์ และส่งโรงพิมพ์ และนำส่งให้ผู้ จัดทำกฐิน ไม่ทราบว่าเราทำผิดกฎหรือข้อห้ามที่ไม่ควรหรือไม่คะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 2 ก.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เรื่องของกฐินเป็นเรื่องที่ละเอียดและพระภิกษุและคฤหัสถ์ควรปฏิบัติอย่างถูกต้องในเรื่องของกฐินด้วยการศึกษาพระธรรมทีวินัย เพื่อเป็นการดำรงรักษาพระศาสนาไว้ครับ

คำว่า กฐิน มี ๒ ความหมาย คือ

กฐิน เป็นชื่อไม้สะดึงสำหรับขึงผ้าให้ตึงเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการเย็บผ้า และ กฐินตามพระวินัยหมายถึงผ้า ซึ่งเป็นผ้าสำหรับครองของพระภิกษุ เป็นผ้าผืนใดผืนหนึ่งในบรรดา ๓ ผืน

กฐิน เป็นการทำสังฆกรรมของพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย ที่มาของกฐินนั้น คือ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงปรารภภิกษุชาวเมืองปาฐา ๓๐ รูป ซึ่งมีความประสงค์จะมาเข้าเผ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าที่วิหารพระเชตวัน ตอนนั้นจวนเข้าสู่ช่วงเข้าพรรษา ไม่สามารถเดินทางให้ทันวันเข้าพรรษาในพระนครสาวัตถี ก็เลยอยู่จำพรรษาตามพระวินัย ณ เมืองสาเกต เมื่อออกพรรษาแล้ว ท่านเหล่านั้นก็เดินทางต่อทันที ในช่วงนั้นฝนยังไม่หมด ทำให้จีวรเปียกชุ่มด้วยน้ำ เกิดความลำบาก พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงปรารภในเรื่องนี้ จึงทรงอนุญาตให้ภิกษุที่อยู่จำพรรษาครบ ๓ เดือนแล้ว ทำการกรานกฐิน เพื่อเปลี่ยนผ้าในช่วงจีวรกาล ระยะเวลา ในการถวายกฐินนั้น มีระยะเวลา ๑ เดือน คือ หลังออกพรรษาแล้ว ตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำเดือน ๑๑ ถึง วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 2 ก.ค. 2555

จะเห็นนะครับว่า เรื่อง กฐินเป็นเรื่องของผ้าเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเงินทองเลย เพราะเหตุว่า เงินทองเป็นสิ่งที่เป็นอกัปปิยะ คือ สิ่งไม่เหมาะสมกับเพศบรรพชิตครับ

กฐิน เป็นสังฆกรรมของพระภิกษุทั้งหลาย โดย บริษัททั้ง ๔ หรือ แม้แต่เทวดา ก็ถวายผ้ากับสงฆ์และก็มีการทำกรานกฐิน โดยเป็นวินัยของสงฆ์ครับ

ดังนั้นการแจกซองกฐิน จึงไม่ถูกต้องตามกฐินในพระธรรมวินัย ที่เป็นเรื่องของการถวายผ้ากับพระภิกษุเท่านั้นครับ ไม่มีเงินและทองมาร่วมด้วย ไม่มีบริวารกฐินที่เป็นเงินทองเลยครับ และ การสร้างศาสนาวัตถุ ก็ไม่ควรนำกฐินมาเกี่ยวข้อง เพราะกฐินเป็นเรื่องของผ้าเท่านั้น ดังนั้นถ้าจะให้สร้างศาสนาวัตถุก็บอกไปโดยตรงว่าร่วมเรี่ยไรกันสร้างศาสนาวัตถุ แต่ไม่ใช่นำเอาเรื่องกฐิน มาปนโดยการเรี่ยไรเงิน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกฐินและไม่ตรงเลยครับ ดังนั้น เมื่อคฤหัสถ์มีการเรี่ยไรด้วยการอ้างกฐิน ก็เท่ากับมีความเข้าใจผิดในพระธรรม พระศาสนาก็เสื่อมไปเรื่อยๆ เพราะผิดพระวินัยที่พระองค์บัญญัติไว้นั่นเองครับ และหากพระภิกษุในวัด ขอให้การทำกฐิน โดยไปบอกกับคฤหัสถ์ก็ผิดเช่นกัน ไม่เป็นกฐิน เพราะกฐินไม่ใช่การรวบรวมเงินมาทำที่วัด เพราะเงินไม่ใช่สิ่งที่สมควรกับพระภิกษุ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 2 ก.ค. 2555

ดังนั้น ที่ถูกต้องต่อไปที่ควรจะทำ คือ ไม่ควรเอาคำว่ากฐิน มาเกี่ยวข้องในการเรี่ยไรเงินในการสร้างศาสนาวัตถุ เพราะ ไม่เกี่ยงข้องกับเรื่องกฐิน การศึกษาพระธรรมที่ถูกต้อง และเปลี่ยนตามสิ่งที่ถูกต้อง ย่อมจะรักษาพระศาสนา รักษาพระภิกษุไม่ให้ต้องอาบัติ และรักษาจิตใจของเราเอง คือ รักษาให้ตั้งมั่นในสัจจะ ความจริง ความตรง และความถูกต้อง ไม่เปลี่ยนไปตามความเข้าใจผิดที่เป็นค่านิยมใหม่ และ เมื่อสะสมความตรงอย่างนี้ ที่จะเปลี่ยนแปลงไปสิ่งที่ถูก สิ่งที่มีค่าที่ได้ คือ การสะสมสิ่งที่ดี คือ ความเป็นผู้ตรง เมื่อเกิดในชาติหน้า ในยุคสมัยใด ก็จะไม่เอนเอียง ตามสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นผู้ที่ได้สะสมความเห็นถูก และ ความเป็นผู้ตรงมา นี่คือประโยชน์ของการศึกษาพระธรรม ครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ

กฐิน ในพระพุทธศาสนา [ตอนที่ ๑]

กฐิน ในพระพุทธศาสนา [ตอนที่ ๒]

กฐิน ในพระพุทธศาสนา [ตอนที่ ๓]

กฐิน ในพระพุทธศาสนา [ตอนที่ ๔]

กฐิน ในพระพุทธศาสนา [ตอนจบ]

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
namake
วันที่ 2 ก.ค. 2555

อีกคำถามค่ะ

เราเป็นผู้ที่ได้รับไหว้วานให้ช่วยเหลือ คือในเรื่องการพิมพ์ จัดรูปแบบฎีกา และรวมถึงส่ง โรงพิมพ์ พิมพ์หน้าซองจนสำเร็จ และส่งงานให้กับผู้จัดทำหรือผู้เป็นเจ้าภาพเท่านั้น หาก แต่ไม่มีบทบาทในการชี้แจงให้ถูกต้องได้ เราควรทำเช่นไรดีคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
paderm
วันที่ 2 ก.ค. 2555

เรียนความเห็นที่ 4 ครับ

หากเราเป็นผู้ได้รับการไหว้วาน ใช้ให้ทำ มีการจัดพิมพ์ แต่เราไม่ไ่ด้มีความเข้าใจผิด ก็ทำตามหน้าที่ที่ทำไป ก็ไม่เป็นไร ครับ ดังเช่น พระโสดาบัน ผู้เป็นภรรยา สามีใช้ให้หยิบมีด สำหรับฆ่าสัตว์ ก็หยิบให้ แต่ไม่ได้มีเจตนาทุจริต อยากให้ฆ่า ท่านก็ไม่บาป เราก็ทำตามหน้าที่ ที่ได้ทำไปแล้ว และการพิมพ์ ทำหน้าที่จัดพิมพ์ ส่งโรงพิมพ์ ไม่ไ่ด้เป็นการกระทำที่เป็นอกุศลกรรม ที่เป็นโทษ ดังเช่น การฆ่าสัตว์ ลักทรพัย์ เป็นต้น ครับ เพียงแต่ว่า เมื่อมีโอกาสที่สมควร ก็สามารถบอกอธิบายให้ผู้นั้นทราบถึงเหตุและผลในประเด็น ตามโอกาสที่เหมาะสม ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
khampan.a
วันที่ 2 ก.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จำเป็นอย่างยิ่ง ที่พุทธศาสนิกชน หรือ ชาวพุทธ จะได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เพราะถ้าได้ฟัง ได้ศึกษา ด้วยความละเอียด มีการพิจารณาไตร่ตรองในสิ่งที่ได้ฟัง ได้ศึกษา พิจารณาในความเป็นเหตุเป็นผลของธรรม ก็จะทำให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงตามพระธรรม

เมื่อมีความเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ทั้งผู้ที่เป็นบรรพชิต และ ผู้ที่เป็นคฤหัสถ์ ก็จะมีความประพฤติที่คล้อยตามพระธรรม (คล้อยไปตามความเข้าใจที่เจริญขึ้น) ไม่กระทำในสิ่งที่ผิด ที่ไม่ถูกต้องตามพระธรรม

จะเห็นได้ว่า พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงนั้น ทั้งหมดทั้งปวง เป็นไปเพื่อละกิเลส (ไม่ใช่เป็นไปเพื่อเพิ่มกิเลส) เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรรม ซึ่งถ้าได้ศึกษาไปตามลำดับแล้ว ก็จะรู้ได้ว่า อะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง อะไร คือ สิ่งที่ผิด ไม่เป็นไปตามพระธรรมวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เมื่อได้เข้าใจแล้วว่าอะไรผิด อะไรถูก ก็พร้อมที่จะสละการกระทำที่ผิด ที่ไม่ตรง แล้วน้อมประพฤติแต่สิ่งที่ถูกต้อง เท่านั้น แม้แต่ในเรื่อง กฐิน ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเงินโดยประการทั้งปวง

ถ้าหากคฤหัสถ์มีความประสงค์จะสร้างถาวรวัตถุถวายไว้ในพระพุทธศาสนา เช่น พระอุโบสถ ศาลา เป็นต้น ก็สามารถร่วมใจกันบริจาคเงิน แล้วสร้างถวายได้เลย โดยที่ไม่เกี่ยวกับกฐิน และที่สำคัญจะต้องไม่ถวายเงินแก่พระภิกษุ เพราะการให้เงินทอง เป็นเหตุให้พระภิกษุท่านต้องอาบัติ เพราะฉะนั้นแล้ว เรื่องเงิน ไม่ควรแก่เพศบรรพชิต โดยประการทั้งปวง

ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้เคยกล่าวไว้ พอที่จะประมวลได้ว่า "เมื่อเราได้รู้แล้วว่า อะไร คือ สิ่งที่ผิด เราจะทำให้ถูกต้องขึ้น หรือว่าเราจะทำผิดต่อไป?"

เป็นข้อคิดเตือนใจที่ดีอย่างยิ่ง ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
เซจาน้อย
วันที่ 2 ก.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"สิ่งที่มีค่าแท้จริง คือสิ่งนั้นไม่ทำให้เกิดความทุกข์ใดๆ ทั้งสิ้น ความลึกซึ้งของสิ่งนั้น คือ เหนือสิ่งอื่นใด ที่มีค่าเสมอพระรัตนตรัยไม่มี"

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของอ.ผเดิม, อ.คำปั่นและทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เข้าใจ
วันที่ 2 ก.ค. 2555

ขอบพระคุณครับ

ขอร่วมอนุโมทนากับทุกๆ ท่านครับ

สาธุ

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
edu
วันที่ 3 ก.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับผม...

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
kinder
วันที่ 4 ก.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ